สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 29, 2015, 09:36:14 am



หัวข้อ: อิ่มบุญ เพลินตา เจริญใจ ณ “วัดเบญจมบพิตรฯ”
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 29, 2015, 09:36:14 am


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617601.JPEG)
พระอุโบสถหินอ่อนอันงดงาม ณ วัดเบญจมบพิตรฯ


อิ่มบุญ เพลินตา เจริญใจ ณ “วัดเบญจมบพิตรฯ”
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
             
       “วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร” หรือที่ใครหลายคนเรียกสั้นๆ ว่า “วัดเบญจมบพิตรฯ” เป็นหนึ่งในวัดที่ฉันคิดว่างดงามอย่างมีเอกลักษณ์ เนื่องจากมีพระอุโบสถหินอ่อน ที่ตั้งเด่นเป็นสง่างดงามงามอยู่ริมถนนศรีอยุธยา สามารถมองเห็นได้โดยง่าย ไม่เหมือนวัดไหนๆ อีกทั้งในปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังได้รับการบูรณะใหม่จนงดงามอย่างเมื่อคครั้งอดีต สุดสัปดาห์นี้ฉันจึงตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวชมความงดงามภายในวัดเบญจมบพิตรฯ

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617602.JPEG)
พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ณ “ศาลาร้อยปี ปิยมหาราชอนุสรณ์”

        แต่ก่อนจะเที่ยวชมภายในวัดเบญจมบพิตรฯ กันนั้นฉันก็จะขอเล่าประวัติคร่าวๆ ให้ได้ฟังกันก่อน “วัดเบญจมบพิตรฯ เมื่อครั้งอดีตมีชื่อว่า "วัดแหลม" หรือ "วัดไทรทอง" ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด จนเมื่อในปี พ.ศ.2369 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ผู้ครองนครเวียงจันทน์ได้ก่อการกบฎยกทัพมาตีไทย พระองค์จึงได้โปรดเกล้าฯให้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาศิลา เป็นผู้บัญชาการกองทัพในส่วนการรักษาพระนคร โดยทรงตั้งกองบัญชาการอยู่ในบริเวณแห่งนี้

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617603.JPEG)
“พระพุทธชินราช” ภายในพระอุโบสถ

        เมื่อเสร็จสิ้นการปราบกบฏ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พร้อมด้วยพระเชษฐภคินี พระขนิษฐภคินี และพระกนิษฐภาดา ร่วมเจ้าจอมมารดาอีก 4 พระองค์ ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้น ครั้นถึงรัชสมัยรัชกาลที่ 4 จึงได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดเบญจบพิตร” ซึ่งมีความหมายว่าเป็นวัดของเจ้านาย 5 พระองค์ ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้น ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงสร้างพระราชวังสวนดุสิตขึ้น และโปรดเกล้าฯ ทำผาติกรรมสถปนาวัดขึ้นใหม่ และได้พระราชทานชื่อวัดใหม่ว่า วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617604.JPEG)
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง “พระธาตุพนม” อันงดงามภายในพระอุโบสถ

        เมื่อฉันเดินทางมาถึงวัดเบญจมบพิตรฯ สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดก็เห็นจะเป็น “พระอุโบสถหินอ่อน” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัดแห่งนี้มาอย่างยาวนาน พระอุโบสถแห่งนี้ เป็นพระอุโบสถเป็นแบบจตุรมุข ที่ถูกประดับประดาด้วยประดับด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลีทั้งหลัง และถูกออกแบบให้ไว้อย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยเมื่อฉันมองแล้วก็ช่างเป็นบุญจริงๆ ที่ประเทศไทยของเรานี้ มีโบราณสถานที่งดงามแบบนี้ ตั้งสง่าอวดนักท่อวงเที่ยวทั่วโลกให้ได้ชม

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617605.JPEG)
บรรยากาศ ณ กำแพงแก้ว ประดิษฐานพระพุทะรูปปางต่างๆ

        สำหรับภายในพระอุโบสถนั้นประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” ที่จำลองมาจากพระพุทธชินราชองค์จริงที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลกและภายในยังมีภาพจิตรกรรมอันงดงาม โดยเฉพาะที่บริเวณช่องคูหาทั้ง 8 จะเป็นภาพสถูปเจดีย์ที่สำคัญทุกภาค อาทิ พระมหาธาตุ จ.ลพบุรี , พระธาตุพนม จ.นครพนม, พระมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้ถูกวาดไว้อย่างงดงามให้ได้ชม และที่บริเวณกำเเพงแก้วรอบพระอุโบสถก็ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ให้ได้เดินชมกันอีกด้วย

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617606.JPEG)
“พระที่นั่งทรงผนวช” อันงดงาม

        นอกจากพระอุโบสถอันดงามแล้ว ฉันขอบอกว่าภายในวัดเบญจมบพิตรแห่งนี้ ก็ยังเป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญอื่นๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วยนะ ที่แรกที่ฉันแนะนำก็คือ “พระที่นั่งทรงธรรม” พระที่นั่งแห่งนี้ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี ทรงสร้างอุทิศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร มีลักษณะเป็นตึกก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น และเมื่อ พ.ศ. 2445 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ใช้เป็นที่ประทับแรมเวลาทรงธรรมรักษาอุโบสถศีล

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617607.JPEG)
“พระที่นั่งทรงธรรม”

        และที่ฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นที่ตั้งของ “พระที่นั่งทรงผนวช” รัชกาลที่5 มรงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อจากพุทธรัตนสถาน ที่สวนศิวาลัย ภายในพระบรมมหาราชวังมาไว้ที่นี่เพื่อเป็นกุฏิเจ้าอาวาส โดยยังรักษารูปแบบเดิมไว้ โดยภายในพระที่นั่งทรงผนวช มีพระแท่นบรรทม พระบรมรูปเมื่อทรงผนวช พระบรมรูปสลักหินอ่อน พระพุทธรูป พระเสลี่ยงน้อย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถวายเพื่อเป็นธรรมาสน์แสดงธรรมและแสดงพระปาติโมกข์ครั้งแรกในวัดเบญจมบพิตร และภายในยังมีภาพเขียนเกี่ยวกับพระราชประวัติของรัชกาลที่ 5 ไว้ด้วย สำหรับพระที่นั่งองค์นี้จะเปิดให้เข้าชมก็เฉพาะวันสำคัญเท่านั้น
       
       และที่บริเวณสนามหญ้าใกล้ๆ กัน ก็เป็นที่ตั้งของ “หอระฆังบวรวงศ์” อันงดงาม หอระฆังแห่งนี้ เป็นหอระฆังทรงไทยประกอบหินอ่อน สร้างขึ้นโดยพระบรมวงศานุวงศ์ ฝ่ายพระราชวังบวร (กรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า)


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617608.JPEG)
“หอระฆังบวรวงศ์”

        หลังจากชมความงามของหอระฆังแล้ว เดินถัดมาไกลมากก็จะพบกับ “พระวิหารสมเด็จ” พระวิหารแห่งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ทรงบริจาคพระราชทรัพย์สร้างสำเร็จในปี พ.ศ.2445 ตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะให้เป็น "หอธรรม" หรือ "หอสมุด" ประจำวัด และที่วิหารแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปสำคัญ คือ “พระฝาง” โดยเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตริย์อันงดงาม ที่ประดิษฐานในบุษบกมุขหน้าชั้นบน ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากภายนอก ได้ชมแล้วงดงามยิ่งนัก

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617609.JPEG)
“พระวิหารสมเด็จ”

        และหากใครที่มาเที่ยววัดเบญจมบพิตรฯ แล้ว ก็อย่าลืมไปแวะสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 “ศาลาร้อยปี ปิยมหาราชอนุสรณ์” กันด้วยนะ และฉันอยากจะบอกไว้อีกว่า ในค่ำคืนของวันที่ 31 ธ.ค. 2558 ต่อเนื่องไปวันที่ 1 ม.ค. 2559 หรือที่เราเรียกว่าช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทางวัดเบญจมบพิตรฯ ได้มีการจัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ให้ได้มาร่วมสดมนต์เสริมบารมีรับพรปีใหม่กันด้วยนะ       

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617610.JPEG)
“พระฝาง” ทรงเครื่องอย่างกษัตริย์อันงดงาม

        หลังจากอิ่มเอมกับการชมความงดงามภายในวัดแล้ว ฉันก็ขอบอกไว้เลยว่า วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นอีกหนึ่งวัดที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวชมจริงๆ เพราะนอกจากจะมีโบราณสถาน โบราณวัตถุอันงดงามหาที่เปรียบให้ได้ชมแล้ว บรรยากาศภายในวัดก็ยังร่มรื่นอีกด้วย ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องมายลวัดเบญจมบพิตรฯ สักครั้ง

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000014617611.JPEG)
บรรยากาศร่มรื่นภายใน “วัดเบญจมบพิตรฯ”

       
       การเดินทาง มีรถประจำทางสาย 5, 16, 23, 50, 70, 72, 99, 201, 3, 505, 509
 
ขอบคุณภาพและบทความจาก     
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000141206 (http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000141206)


หัวข้อ: Re: อิ่มบุญ เพลินตา เจริญใจ ณ “วัดเบญจมบพิตรฯ”
เริ่มหัวข้อโดย: บุญเอก ที่ ธันวาคม 31, 2015, 01:49:15 am
 st11 st12 st12