สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มกราคม 01, 2016, 10:03:16 am



หัวข้อ: ปี 59 ปฏิรูปจุดอ่อนสงฆ์ ฟื้นศรัทธาชาวพุทธ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 01, 2016, 10:03:16 am



ปี 59 ปฏิรูปจุดอ่อนสงฆ์ ฟื้นศรัทธาชาวพุทธ

’สิ่งที่บุคคลปรารถนา ประสงค์จะได้ในโลกนี้ 3 ประการ คือ 1. อายุยืน 2. มีทรัพย์สมบัติมาก และ 3. มีปัญญาเฉียบแหลม ดังนั้น ขอท่านทั้งหลายจงตั้งใจรักษาศีล 5

’สิ่งที่บุคคลปรารถนา ประสงค์จะได้ในโลกนี้ 3 ประการ คือ 1. อายุยืน 2. มีทรัพย์สมบัติมาก และ 3. มีปัญญาเฉียบแหลม ดังนั้น ขอท่านทั้งหลายจงตั้งใจรักษาศีล 5 แล้วจะได้สิ่ง 3 ประการนี้ สมปรารถนาสมดังพระบาลีใน ขุททกนิกาย อปทาน ที่ว่า

   ปญจ สีลานิ โคเปตฺวา ตโย เหตู ลภามิหํ
   ทีฆายุโก มหาโภโต ติกฺชปญฺโญ ภวามิหํ


“ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนวยอวยพร โดยอ้างอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และกุศลผลบุญที่ได้กระทำไว้ และอำนาจแห่งศีล 5 นี้ จงมาคุ้มครองปกปักรักษาให้ท่านทั้งหลายประสบสิ่งที่พึงปรารถนา พร้อมด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ ตลอดปี 2559 นี้ และตลอดไปเทอญฯ”


สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จ พระสังฆราช

 st12 st12 st12 st12

ได้รับพรอันเป็นมงคลวันปีใหม่จากผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จ พระสังฆราชกันแล้ว มาดูงานพระศาสนาในรอบปี 2558 และก้าวต่อไปในปี 2559 ของคณะสงฆ์ไทย โดยมหาเถรสมาคม (มส.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2558 เป็นต้นมา มส. และ พศ. ถูกถาโถมด้วยปัญหาต่าง ๆ มากมาย ทั้งการเรียกร้องให้ปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาเสียใหม่ โดยเฉพาะเสียงเรียกร้องเกี่ยวกับการจัดการพระนอกรีตที่พุทธศาสนิกชนบางส่วนมองว่า การจัดการของคณะสงฆ์ยังไม่เด็ดขาด รวมถึงการทำงานของ พศ.เองก็ดูจะช้าไม่ทันท่วงที

การระดมความคิดเห็นคณะสงฆ์ และผู้เกี่ยวข้องในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งในปี 2559 ที่จะถึงนี้ เราชาวพุทธคงจะได้เห็นข้อสรุปของปัญหารวมถึงมาตรการที่ต้องดำเนินการแก้ไขออกมา ไม่เพียงเท่านั้น กระแสศรัทธาในพระสงฆ์ยังดูลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการที่พระสงฆ์บางรูปสะสมความร่ำรวย เน้นปลุกเสกเครื่องรางของขลัง อวดอุตริมนุสธรรม ส่งผลให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเบื่อหน่าย ขณะที่พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก กลับถูกละเลย เนื่องจากคณะสงฆ์ขาดการประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้รับรู้

 :25: :25: :25: :25:

ปัญหาอีกประการหนึ่งที่ต้องยอมรับความจริงว่า ชาวพุทธบางส่วนในบ้านเรา มองภิกษุสงฆ์ว่าต้องเป็น พระอรหันต์ ไม่มีความรัก โลภ โกรธ หลง ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ภิกษุสงฆ์จำนวนมากยังเป็นแค่สมมุติสงฆ์ หมายถึงบุคคลที่เพียงแค่ผ่านการอุปสมบทซึ่งเป็นพิธีกรรม ที่ยอมรับในสังคม โดยไม่ได้คำนึงถึงสภาพที่แท้จริงว่ายังไม่ได้บรรลุมรรคผลใด ๆ จึงยังสามารถมีการกระทำผิดได้ เพราะยังมีรัก โลภ โกรธ หลงอยู่ จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่

เรื่องความเข้าใจในพระธรรมวินัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อสังคมปัจจุบัน มักจะพิพากษากันผ่านโลกออนไลน์ โดยไม่ได้มองข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ดังนั้นหากชาวพุทธมีความรู้ในพระธรรมวินัยแล้ว เมื่อมาบวชก็จะสามารถประคองตนให้อยู่ในศีลได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันเมื่ออยู่ในเพศฆราวาส หรือเป็นพุทธบริษัท เมื่อเห็นภิกษุสงฆ์กระทำผิด ที่ไม่ใช่อาบัติหนัก คือ ปาราชิก 4 ก็จะไม่หวั่นไหวสั่นคลอนจนเกิดวิกฤติศรัทธาต่อภิกษุสงฆ์ สามเณร และพระพุทธศาสนาโดยภาพรวมได้

 :96: :96: :96: :96:

อีกประการหนึ่ง ที่กำลังเป็นผลกระทบต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา คือ ทุกวันนี้พุทธศาสนิกชนจำนวนมากมองวัดเป็นเพียงผู้รับ ไม่ใช่ผู้ให้เหมือนในอดีต อย่างกรณีคนตายที่ยากไร้อาจไม่สามารถจัดงานศพได้ กลายเป็นรูปแบบธุรกิจ ไม่ได้เป็นที่พึ่งให้แก่คนทุกข์ยากเหมือนในอดีต

นี่คือตัวอย่างของจุดอ่อนที่ทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อวัดและภิกษุสงฆ์ ซึ่งชาวพุทธอย่างเรา ๆ หวังว่า ในปี 2559 ซึ่งจะเป็นปีแห่งการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา คงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของวัดและคณะสงฆ์ ในการเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่ถูกต้องตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ที่สำคัญในปี 2559 นี้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ยังมีดำริเดินหน้าส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนรักษาศีล 5 เข้มข้นขึ้น ซึ่งคณะสงฆ์และ พศ.ต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อคิดหาแนวทางว่า จะทำอย่างไรพุทธศาสนิกชนจึงจะนำหลักศีล 5 ไปสู่การปฏิบัติมากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำพูด ลอย ๆ เท่านั้น

 ans1 ans1 ans1 ans1

อย่างไรก็ตามงานพระพุทธศาสนาจะดีไม่ได้ หากขาดพุทธบริษัท ที่ดีคอยสนับสนุน ดังนั้นในวารดิถีขึ้นปีใหม่ 2559 นี้ ทีมข่าวศาสนาขอหยิบยกกฎ 3 ข้อในหนังสือธรรมนูญชีวิต โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ที่ พศ.ได้จัดพิมพ์ขึ้นมาเป็นเครื่องเตือนใจชาวพุทธได้ใช้ดำเนินชีวิต และทำหน้าที่พุทธบริษัทที่ดี

    โดยกฎ 1 เว้นชั่ว 14 ประการ เว้นกรรมกิเลส 4 คือ ไม่ทำร้ายร่างกายชีวิต ไม่ลักทรัพย์ละเมิดกรรมสิทธิ์ ไม่ประพฤติผิดทางเพศ ไม่พูดเท็จโกหกหลอกลวง
    เว้นอคติ 4 คือ ไม่ลำเอียงเพราะชอบ ชัง ขลาด และเขลา
    เว้นอบายมุข 6 คือ ไม่เสพติดสุรายาเมา ไม่เอาแต่เที่ยวไม่รู้เวลา ไม่จ้องหาแต่รายการบันเทิง ไม่เหลิงไปหาการพนัน ไม่พัวพันมั่วสุมมิตรชั่ว และไม่มัวจมอยู่ในความเกียจคร้าน

    กฎ 2 เตรียมทุนชีวิต 2 ด้าน คือ เลือกสรรคนที่จะเสวนา หมายถึง
    1. รู้ทันมิตรเทียม หรือศัตรูผู้มาในร่างมิตร
    2. รู้ถึงมิตรแท้ หรือมิตรด้วยใจจริง

    กฎ 3 รักษาความสัมพันธ์ 6 ทิศ คือ
    1. พึงเคารพบิดามารดา
    2. เคารพนับถือครูอาจารย์
    3. สามีพึงให้เกียรติบำรุงภรรยา และภรรยาอนุเคราะห์สามี
    4. พึงปฏิบัติต่อมิตรสหาย
    5. พึงบำรุงคนรับใช้และคนงาน และ
    6. พุทธศาสนิกชนพึงแสดงความเคารพนับถือพระสงฆ์

เมื่อนำแนวทางดังกล่าวนี้มาปรับใช้ เชื่อว่า ทุกท่านจะประสบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดปี 2559.

     ทีมข่าวศาสนา

ขอบคุณบทความจาก : http://www.dailynews.co.th/education/370327 (http://www.dailynews.co.th/education/370327)


หัวข้อ: Re: ปี 59 ปฏิรูปจุดอ่อนสงฆ์ ฟื้นศรัทธาชาวพุทธ
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มกราคม 01, 2016, 02:54:12 pm

       ดี ดี ครับ สาธุ