|
หัวข้อ: อยู่อย่างไร...ให้รอด เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 10, 2016, 09:26:40 pm (http://www.khaosod.co.th/online/2016/01/14522717721452272862l.jpg) อยู่อย่างไร...ให้รอด คอลัมน์ เมืองไทย 25 น. โดย ทวี มีเงิน ในปี 2559 เป็นปีที่ท้าทายคนไทยจะต้องอยู่ให้รอดให้ได้ แต่การจะได้หรือไม่ นอกจากขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น "การเมืองโลก" ที่ความขัดแย้งขยายวงและ "เศรษฐกิจจีน" เครื่องจักรฉุดเศรษฐกิจตัวสุดท้ายออกอาการไม่ดี ต้องลุ้นว่าปีนี้การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศและระดับโลกจะผันผวน ปั่นป่วนแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เราจะต้องอยู่ให้รอด ด้วยการอยู่อย่างมีสติ การ "เจริญสติ" เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยประคับประคองสถานการณ์ให้อยู่รอดปลอดภัยได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความเชื่อ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ได้มีการพิสูจน์กันมาแล้วว่า "การเจริญสติ" มีผลต่อสมองจริงๆ :49: :49: :49: :49: วารสารชื่อดัง "Harvard Business Review" ได้ตีพิมพ์ บทความเรื่อง "Mindfullness Can Literally Change Your Brain" ทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ของฮาร์วาร์ด ได้วิจัยในลักษณะนี้ตั้งแต่ปี 2011 และพบว่าสมองส่วนเนื้อเทาของผู้เข้าร่วมทดลองที่ฝึกเจริญสติติดต่อกันเป็นเวลา 8 สัปดาห์มีความหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นก็มีทีมนักวิจัยจากทั่วโลกศึกษาผลการเจริญสติที่มีผลต่อสมองมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทีมนักวิจัยจากบริติชโคลัมเบีย และ "ม.เทคโนโลยี เคมนิตช์" ได้รวบรวมข้อมูลจากงานวิจัย 20 ชิ้นพบว่า การเจริญสติมีผลต่อสมองและน่าจะเป็นประโยชน์กับนักธุรกิจและนักบริหาร การเจริญสติส่งผลดีต่อสมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการ "ควบคุมตนเอง " และทำให้มีสมาธิจดจ่อและช่วยการตัดสินใจให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดการเจริญสติภาวนานั้นทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง (อนิจจัง) ได้อย่างดี นักวิจัยพบว่าการเจริญสติทำให้ผู้เจริญสติมีความสามารถที่จะฟื้นตัวจากสภาวะทุกข์ได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับวงการธุรกิจที่แข่งขันสูงอย่างทุกวันนี้ :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: นอกจากนี้ นักประสาทวิทยายังพบว่าการเจริญสติเป็นประจำส่งผลดีต่อการรับรู้ การตระหนักรู้ทางร่างกาย ความสามารถในการทนอาการเจ็บปวด ความสามารถในการคุมอารมณ์ ความเข้าใจความคิดและความรู้สึกของตนเอง การคิดแบบลึกซึ้งและการรู้จักตัวเอง ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะผลที่เกิดขึ้นได้รับการพิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว ฉะนั้นเราไม่ควรมองการเจริญสติวิปัสสนาเป็นเรื่องที่ "ถ้าทำได้ก็ดี" สำหรับผู้บริหารอีกต่อไป แต่มันเป็นสิ่งที่ "ต้องทำ" ทันที ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1452271772 (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1452271772) |