สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มกราคม 16, 2016, 09:24:22 am



หัวข้อ: เรียกท่านว่า...พระฝั้น
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 16, 2016, 09:24:22 am

(https://www.thairath.co.th/media/EyWwB5WU57MYnKOuX37mIpB9e2xR2VUmz0RXJLqR6zzCafJb6GhKFR.jpg)


เรียกท่านว่า...พระฝั้น

อ๊อด เทอร์โบ นั่งตอบสารพันปัญหา กลายเป็นคนเจ้าปัญหา ถามถึงคำ...ยศช้าง ขุนนางพระ เรื่องของบรรดาศักดิ์ นับแต่ ขุน หลวง พระ พระยา ไปถึงสมเด็จ เจ้าพระยา รวมๆเรียกว่า ขุนนางนั้น...มักเปลี่ยนคนธรรมดา ให้เป็นคนที่ไม่ธรรมดา พอเป็นขุนนาง...สองขาที่เคยใช้เดินได้ ก็ไม่ได้ ต้องนั่งคานหามของกินของใช้ บางชั้นยศต้อง “ใส่พานทอง”

เมียที่เคยมีคนเดียว...เพื่อให้ทัดหน้าเทียมตาขุนนางด้วยกัน ก็ต้องมีหลายคน ทีนี้ เมื่อเอาค่านิยม “ขุนนาง” ไปให้พระ พระที่เคยถือพัดธรรมดา ก็ได้พัดใบสาเก ชั้นสูงด้ามงา ช้างเผือก ที่มียศพระยา...มีคนเป็นบริวารคอยดูแลเป็นโขยง ดื่มน้ำจากถาดทอง

สภาพนี้ คนแก่วัดรำคาญ...พระมียศศักดิ์อัครฐานแค่ไหน...ก็ยังต้องฉันมื้อเดียว มีเมียก็ไม่ได้ ช้างถึงเวลาก็ถูกไสให้พังประตู หรือไล่ชนอะไร...ตามใจคน

สรุปคำยศช้าง ขุนนางพระ เป็นคำเปรียบเปรยเสียดสี เป็นขุนนางแล้ว...ชีวิตก็ยังอยู่ในกรอบจำกัดแบบเดิมๆ

 :96: :96: :96: :96:

ยศศักดิ์ เป็นเรื่องวัดฐานะแบ่งแยกมนุษย์...มาทุกยุคทุกสมัย พระพุทธเจ้าสอนว่า มนุษย์นี้ หนีไม่พ้น มียศ เสื่อมยศ มีลาภ เสื่อมลาภ สุขทุกข์ นินทาสรรเสริญ เรียกว่าโลกธรรม 8 ข้อ

     เรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง...ของสมเด็จโต วัดระฆัง เช้าวันนั้นท่านถูกนิมนต์ไปพายเรือรับบิณฑบาต จากรัชกาลที่ 4 ในสระน้ำวังสระปทุมฯ ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ
    “งาม...ไหม ขรัวโต” รัชกาลที่ 4 คุ้นเคยสมเด็จโตมาตั้งแต่สมัยบวชเป็นพระ...ตรัสถาม
    “งามเหมือนราชรถ ขอถวายพระพร”

     พระอารมณ์แจ่มใสของรัชกาลที่ 4 ก็เปลี่ยนไป...
     ในทางโลกนั้น วังสร้างใหม่สวยงาม แต่ในทางพระ...เหมือนราชรถ
     พุทธภาษิตบทหนึ่งว่า "โลกนี้งามเหมือนราชรถ ที่บรรดาคนเขลาหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่"

 :25: :25: :25: :25:

เมื่อเอาความงามทางโลกไปถวายให้พระ...พระท่านสนองสองแบบ...แบบแรก ท่านใช้หลักความสัมพันธ์ บ้านกับวัดต้องไปด้วยกัน ท่านก็รับ ท่านอาจารย์พุทธทาส ท่านก็รับ ได้สมณศักดิ์ถึงชั้นธรรม...แต่วัตรปฏิบัติและคำสอนท่านก็ชัดเจน ท่านไม่ยึดติดยศศักดิ์อัครฐานนั้น...เลยสักนิดเดียว

อดีตเจ้าคุณ เอ้า...ขอเอ่ยชื่อ “หลวงตาจันทร์” ตอนที่ท่านกำลังดังๆ ด้วยสถิติสามปี จากหลวงตา เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญ ชั้นราช แล้วก็ขึ้นชั้นเทพ...โยมติ๋มชวนผมไปสัมภาษณ์ ผมถามถึงพัดยศชั้นเทพ...ท่านชี้ไปที่ศาลาใหญ่บอกว่า พัดยศเจ้าคุณอยู่ที่นั่น แต่ที่อยู่นี่ หลวงตา ผมนับถือท่านได้พักใหญ่ ต่อมาท่านก็สึก เป็นข่าวให้พวกผมต้องตามข่าวต่อ เรื่องไปยิงปืนทวงสัญญาจากสีกา

 ans1 ans1 ans1 ans1

พระที่ไม่ยอมรับยศขุนนาง...มีหลายรูป รูปหนึ่งที่ผมไปทำข่าวเองราวปี 2521...หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดเขาถ้ำขาม ในเทือกภูพาน...ต้นมะขามสองคนโอบเหมือนสำค้ำ ในกุฏิต้นนั้น เปลือกถูกลอกไปจนเกลี้ยง...ถึงเนื้อใน ชาวบ้านถือว่า ทุกอย่างใกล้ตัวท่าน เป็นของขลังคุ้มตัวได้ ที่วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณนานิคม สกลนคร...ก้อนหินใกล้กุฏิทุกก้อน ถูกเก็บไป...ไม่มีเหลือ

หลวงปู่ท่านมีแต่เมตตา ไม่ขัดศิษย์ที่ขอทำพระเครื่อง รูปเหรียญ ใครเอาไปคุ้มตัวได้มาคุย ท่านมีท่าไม่ยินดี รอจนศิษย์บอกว่า วินาทีคับขัน อุทานคำ “พุทโธ” ท่านก็ถือโอกาสสอน “พุทโธนั่นต่างหาก คุ้มตัวเธอ”

 st11 st11 st11 st11

มีเรื่องเล่าว่า...มีข้อเสนอ “ขุนนางพระ” ให้ท่านบ่อย ท่านไม่รับ ท่านก็รอดจากบ่วงราชรถ...ไปได้ แต่พอท่านมรณภาพ...ท่านก็ได้รับพระราชทาน “หีบทองแท่งทึบ” ใส่ศพ หีบทองแท่งทึบ...ราชสำนักใช้กับ “หม่อมเจ้า” ในทางพระเทียบกับสมณศักดิ์เจ้าคุณชั้นเทพ...

เป็นพระราชประสงค์ ถวายเกียรติให้ พระที่มักบอกศิษย์ “เรียกฉันว่า พระฝั้น” ได้รับเกียรติทางโลก เป็นเจ้าคุณชั้นเทพ พระดีๆที่เข้าถึงธรรมะ ท่านมีวิถีทำนองนี้...ส่วนพระพวก ที่หลงราชรถ แบ่งพวกวิวาทบาดหมางกัน จนรำคาญหูชาวบ้านนั้น น่าจะเป็นพระอีกพวก.

คอลัมน์ ชักธงรบ โดย กิเลน ประลองเชิง
https://www.thairath.co.th/content/562567 (https://www.thairath.co.th/content/562567)