หัวข้อ: ชาวเน็ตอึ้ง "ธรรมกาย" ชวนทำบุญด้วยไอติมดัง อ้างเป็น "น้ำปานะ" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 31, 2016, 08:25:00 pm (http://pe1.isanook.com/ns/0/rp/r/w700h420/ya0xa0m1w0/aHR0cDovL3BlMS5pc2Fub29rLmNvbS9ucy8wL3VkLzM4OC8xOTQxMDg2LzUuanBn.jpg) ชาวเน็ตอึ้ง "ธรรมกาย" ชวนทำบุญด้วยไอติมดัง อ้างเป็น "น้ำปานะ" ผู้สื่อข่าวรายงาน ในสังคมออนไลน์ กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก กรณีพระณัฐชนันท์ อาภานนโท พระวัดธรรมกาย ประกาศเชิญชวน พุทธศาสนิกชน ร่วมถวาย ไอศกรีม ยี่ห้อดัง 1,500 แท่ง เป็นสังฆทาน แด่พระภิกษุ คณะพุทธบุตรธรรมยาตรา ในพิธีบูชาข้าวพระ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่วัดพระธรรมกาย โดยอ้างว่า ไอศกรีมเป็น ปาะ และระบุด้วยว่า สามารถถวาย ไอศกรีม 1 กล่อง ซึ่งมี 24 แท่ง ในราคา 800 บาท คิดเฉลี่ยราคาแท่งละ 35 บาท หรือจะถวายตามกำลังความปลื้ม :96: :96: :96: :96: ข่าวแจ้งว่า ทันทีที่มีการเผยแพร่ประกาศเชิญชวนนี้ออกมา ได้มีผู้เข้ามาวิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม และอธิบาย แย้งว่า ไอศกรีม ไม่ใช่น้ำปานะ ทั้งนี้ คำว่า "ปานะ" แปลว่า เครื่องดื่ม หรือน้ำสำหรับดื่มที่คั้นจากผลไม้ ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้ 8 ชนิด หรือที่เรียกว่า น้ำอัฏฐบาน ได้แก่ น้ำมะม่วง, น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า, น้ำกล้วยมีเมล็ด, น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด, น้ำมะซางต้องเจือด้วยน้ำจึงจะควร, น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น, น้ำเหง้าบัว และน้ำมะปรางหรือลิ้นจี่ หากเทียบเคียงกับปัจจุบันก็น่าจะหมายถึง บรรดาน้ำผลไม้ทั่วไปนั่นเอง :49: :49: :49: :49: สำหรับวิธีทำน้ำปานะที่พระพุทธเจ้าแนะไว้ คือ ปอกหรือคว้านผลไม้เหล่านี้ที่สุก เอาผ้าขาวบางห่อแล้วบิดให้ตึง อัดเนื้อผลไม้ให้คายน้ำออกจากผ้า อย่าให้มีกาก จากนั้นเติมน้ำลงไปให้พอดี แล้วผสมกับน้ำตาลและเกลือเป็นต้นเพื่อให้ได้รสที่ดีขึ้น แต่ปานะดังกล่าวก็มีข้อจำกัดที่จะพึงทราบคือ ปานะนี้ให้สุกด้วยแสงแดดเท่านั้น ห้ามให้สุกด้วยไฟ และน้ำปานะจัดเป็นยามกาลิก จึงควรเก็บไว้ฉันได้ตลอด 1 วัน กับ 1 คืนเท่านั้น เมื่อขึ้นอรุณของวันใหม่แล้วเป็นอันฉันไม่ได้ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://news.sanook.com/1941086/ (http://news.sanook.com/1941086/) หัวข้อ: Re: ชาวเน็ตอึ้ง "ธรรมกาย" ชวนทำบุญด้วยไอติมดัง อ้างเป็น "น้ำปานะ" เริ่มหัวข้อโดย: KIDSADA ที่ มกราคม 31, 2016, 08:33:10 pm อันที่จริง ก็เป็นความต้องการที่พระระบุมา ที่จริงก็ไม่น่าขัดกับ พระธรรมวินัย แต่คนทั่วไป อาจจะมองว่า เลือกมากพระไม่ควรจะเลือกรับอาหารบิณฑบาตร
:49: |