หัวข้อ: ‘อธิการ มจร.’ เตือน โยมทะเลาะกัน อย่าดึงพระยุ่ง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2016, 08:14:04 pm (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2016/02/09/kjkffh795ibg58ba6bhag.jpg) ‘อธิการ มจร.’ เตือน โยมทะเลาะกัน อย่าดึงพระยุ่ง พระพรหมบัณฑิต‘อธิการบดีมจร’ระบุคณะสงฆ์อยู่ตรงกลางความขัดแย้ง มีคนพยายามดึงพระเข้าไปร่วม เหมือนชาวบ้านทะเลาะกันข้างนอกไม่พอยังเข้ามาทะเลาะกันในวัดอีก 9 กุมภาพันธ์2559 พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "การปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาในสถานการณ์ปัจจุบัน" จัดโดยหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ คณะสังคมศาสตร์ มจร พร้อมบรรยายพิเศษระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีคนพยายามยุให้แตกแยก คณะสงฆ์จึงอย่าตกเป็นเครื่องมืออย่าหลงกล ในฐานะนักจัดการเชิงพุทธจะทำอย่างไร จะใช้พระพุทธศาสนาไปแก้ปัญหาอย่างไร ประเทศไทยมีนักมวยเยอะแต่ไม่มีกรรมการห้ามมวย :96: :96: :96: :96: :96: พระพรหมบัณฑิต กล่าวต่อว่า คณะสงฆ์มีสภาพอยู่ตรงกลางเหมือนกับอยู่ตรงกลางระหว่างเขาควายที่ชาวบ้านทะเลาะ และทะเลาะกันข้างนอกไม่พอยังเข้ามาทะเลาะกันในวัดอีกทั้งๆที่เป็นพุทธบริษัทด้วยกันทั้งนั้น "ต้นไม้ใหญ่เวลาล้มไม่ใช่เพราะลมพายุเท่านั้น แต่มีมอดกันกินต้นไม้ พระพุทธศาสนา คือ ต้นไม้ใหญ่ ภาวะทางซ้ายมีปัญหา ทางขวาก็มีปัญหา เหมือนอยู่ตรงกลางเขาควาย ปะทะกันอยู่เรื่อยๆ คณะสงฆ์อยู่ตรงกลางต้องเป็นกลาง พูดง่ายๆ คือ ชาวบ้านทะเลาะกันเหมือนมคธกับวัชชีทะเลาะกันจะดึงพระพุทธเจ้าไปร่วมกัน ฉะนั้นเราต้องไม่โดดลงไปรบกับชาวบ้าน ที่น่าสงสารคือคนไทยด้วยกันทะเลาะกัน กฏข้อสำคัญจะต้องไม่ลงไปคลุกฝุ่น โลกจะเดือดร้อนวุ่นวายเพียงใดก็ตาม พระสงฆ์ต้องอยู่เหนือโลก" อธิการบดี มจร กล่าวและว่า ดังนั้นคนฉลาดคือรู้เพื่อแก้ปัญหาตัวเอง แต่คนฉลาดกว่าคือรู้เพื่อแก้ปัญหาคนอื่น ดังนั้นรู้ต้องรู้แบบรู้เท่าทัน ผู้ที่เรียนระดับมหาบัณฑิตต้องพิจารณาให้ดี ไม่ใช้อารมณ์ รู้เท่าเอาไว้ป้องกัน รู้ทันเอาไว้แก้ไข คือแก้ไขสถานการณ์ (http://www.komchadluek.net/media/img/size_content/2016/02/09/7f6f5ifh5jfg5iaii8g9b.jpg) อย่างไรก็ตามจากผลการสัมมนาครั้งนี้ได้สรุปทางรอดของพระพุทธศาสนา 4 ประเด็น คือ 1) ศึกษาธรรม พระพุทธศาสนาจะอยู่รอดจะต้องอาศัยพุทธบริษัทต้องคันถธุระ ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าจนถึงแก่นแท้ทางด้านปริยัติ ศึกษาให้ถึงตราน้ำแห่งความรู้ 2) ปฏิบัติธรรม พระพุทธศาสนาจะอยู่รอดจะต้องเข้าสู่วิปัสสนาธุระ เป็นการฝึกปฏิบัติกรรมฐาน ฝึกดูแลลมหายใจของตนเอง เพราะสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี 3) เผยแผ่ธรรม เมื่อเข้าใจพระพุทธศาสนาแล้วก็นำคำสอนที่ถูกต้องไปเผยแผ่ให้แก่ชาวโลก พุทธบูรณาการศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อให้การเผยแผ่ธรรมประสบความสำเร็จ 4) ปกป้องธรรม เมื่อพระพุทธศาสนามีภัยภายนอกและภัยภายใน ต้องช่วยกันรักษา ดูแล ปกป้อง คุ้มครองเพื่อให้พระพุทธศาสนาสามารถอยู่ได้ ซึ่งการศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม เผยแผ่ธรรมถือว่าเป็นการปกป้องธรรมที่ดีที่สุด (http://www.komchadluek.net/media/img/size_content/2016/02/09/dckcki9kfjfah5bb6ae7g.jpg) ครุศาสตร์‘มจร’จัด‘จาริกวัดจารึกธรรมนำปฏิบัติ’ อย่างเช่นระหว่างวันที่ 23-24 มกราคม ที่ผ่านมา นิสิตคณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสอนพระพุทธศาสนาและจิตวิทยาแนะแนว ร่วมกับภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว คณะครุศาสตร์ มจร. จัดโครงการ “จาริกวัด จารึกธรรม นำปฏิบัติ” ณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน ตำบลแคมส์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ พระสรวิชญ์ อภิปญฺโญ หัวหน้าภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว เปิดเผยว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อส่งเสริมให้นิสิตเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพิ่มทักษะด้านการสอนผ่านการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา 2) เพื่อส่งเสริมให้นิสิตเกิดการเรียนรู้ กระบวนการทำงานเป็นทีม การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การวิเคราะห์แนวคิดทฤษฏีที่ศึกษาในชั้นเรียนมาปฏิบัติในสถานการณ์จริง 3) เป็นกิจกรรมส่งเสริมความเป็นครูให้เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตร มาตรฐานการผลิตและมาตรฐานบัณฑิตปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร 5 ปี) ตามที่ครุสภากำหนด st12 st12 st12 st12 กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น 2 วัน คือ วันที่ 23 มกราคม 2559 พาคณะญาติโยมเข้าศึกษาประวัติศาสตร์ ณ สถานที่สำคัญ เช่น 1 )พระตำหนักเขาค้อ 2) ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ จากนั้นนำสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ เช่นพระธาตุกาญจนาภิเษก(พระธาตุขาว) , วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ในวันที่ 24 มกราคม 2559 ทำวัตรเช้า-ปฏิบัติกรรมฐาน-ฟังประวัติของศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน เดินกรรมฐานชมสถานที่สำคัญของศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน เช่น สวนอาจารย์พร รัตนสุวรรณ ผู้ริเริ่มก่อตั้งแคมส์สน พระเจดีย์อิสรภาพ อนุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทอดผ้าป่าบำรุงศูนย์พัฒนาศาสนาแคมส์สน มจร. สักการะพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ โดยพระนิสิตได้นำคณะญาติโยมสวดมนต์-ปฏิบัติกรรมฐานบนรถระหว่างเดินทางเป็นการฝึกพระนิสิตให้เป็นผู้นำในพิธีกรรมทางศาสนาและสอนธรรมะขณะเดินทางอีกด้วย st11 st11 st11 st11 สำหรับปีการศึกษา 2559 นี้ พระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป ทีสนใจเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการสอนพระพุทธศาสนาและจิตวิทยาแนะแนว (หลักสูตร 5 ปี) และระดับปริญญาโท สาขาวิชา จิตวิทยาการศึกษาและการแนะ สามารถมาสมัครด้วยตนเอง ณ ห้อง C300 สำนักทะเบียนและวัดผล อาคารเรียนรวม โซน C มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว ฝ่ายบริการศึกษา Email : edupsymcu@hotmail.com หรือ โทร.099-515-9569 ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.komchadluek.net/detail/20160209/222148.html (http://www.komchadluek.net/detail/20160209/222148.html) |