หัวข้อ: แฉ! รายได้ขอทาน รวยระดับเศรษฐี ขายดรามา ขยี้หัวใจคนชอบทำบุญ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2016, 10:40:45 pm (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550201.JPEG) แฉ! รายได้ขอทาน รวยระดับเศรษฐี ขายดรามา ขยี้หัวใจคนชอบทำบุญ หลังจากเพจโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา โพสต์ภาพแบงค์พันแบงค์ร้อยแบงค์ยี่สิบที่มัดเป็นฟ่อนๆ ว่าเป็นเงินที่ตรวจค้นได้จากขอทานรายหนึ่ง พร้อมข้อความชวน ร่วมรณรงค์ยุติการบริจาคเงินกับขอทาน เพราะนอกจากเท่ากับส่งเสริมให้ขอทานเป็น'อาชีพ'แล้ว ยังนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ บังคับผู้อื่นมาเป็นขอทาน ด้วยเม็ดเงินรายได้ที่สูงมากในแต่ละวัน จึงเกิดกระแสดรามา ทั้งไม่เห็นด้วยและเห็นด้วย ทว่าประเด็นคือ ขอทานกลายเป็นอาชีพรายได้สูงจริงหรือ ขอทานรูปแบบไหนควรได้รับการบริจาคให้ทาน และมีธุรกิจค้ามนุษย์อยู่เบื้องหลังขอทานอย่างไร #ทีมให้เงินขอทาน สิทธิส่วนบุคคล (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550202.JPEG) * “ไม่เห็นด้วยครับ เพราะว่าขอทานบางคนที่ขอทานอยู่ขณะนี้ส่วนใหญ่ แล้วผมว่าพวกเขาไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เป็นอาชีพที่สุจริตอีกต่างหาก ผมว่าไม่สมควรที่จะรณรงค์ ไม่ให้เงินขอทาน การให้เงินหรือไม่ให้ เป้นสิทธิ์ของแต่ละคนครับ” * “ไม่ได้โลกสวยนะ ,, เค้ารวยหรือไม่รวยไม่รู้ ถ้าให้แล้วเราสบายใจคือดี ไม่ให้เงินให้ของกินแทนก็ได้นิคะ” * “ขอทานที่เล่นดนตรี ร้องเพลง..คือน่าให้ค่ะ..เพราะเค้าไม่ได้มาขอเราฟรีๆ..และมันก็เป็นสิทธิ์ของเราว่าเราจะให้หรือไม่ให้ค่ะ” * “ที่เราให้เพราะคิดว่าเขาด้อยกว่าเรา.แต่พวกที่ด้อยจริงๆนะคือพวกที่เก็บเศษขายมีชาเล้ง.หรือที่เขาตาบอดจริงๆนอนอยู่ตามที่ต่างๆ.หรือคนตกงาน.ส่วนบางคนก็ขี้เกียจทำงานมาแอบอ้างเป็นขอทาน.เพราะรายได้ดี.คนให้ก็พิจารณาเอาเองเถอะค่ะ.คนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ.อยู่รอบกายเราก็มากมาย.บางทีเราอาจจะมองข้ามก็ได้นะ” * “สำหรับเด็กก็เข้าใจค่ะ แล้วคนที่พิการ ขาขาด แขนขาดงี้ จะให้เขาทำอะไรกิน จะให้เขาประกอบอาชีพอะไรหรอ มีงานใครเขาจะรับคนพิการเข้าทำงานคะ คนแก่ๆ หรือคนพิการที่เราคิดว่า น่าจะหาทำงานอย่างอื่นไม่ได้ ซื้อข้าวให้เขากินก้อได้” #ทีมไม่ให้เงินขอทาน นำสู่วงจรอุบาทว์ * “การนำเด็กขอทานมีความผิดตามพรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พศ.2551 อีกทั้งปัจจุบันมีขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบการนำเด็กจากประเทศกัมพูชาเข้ามาบังคับขอทานในบ้านเราเป็นจำนวนมาก นั่นก็เพราะผลจากการที่เราเชื่อว่าการให้เงินไม่เดือดร้อนใครอย่างไรหล่ะครับ จึงมีเด็กที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์แทบทุกวัน” (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550203.JPEG) * “"ขอทาน" หมายถึง การขอเงินหรือสิ่งของเลี้ยงชีวิต แต่ข้อเท็จจริงจากการศึกษาและสำรวจข้อมูลดังกล่าวพบว่า การขอทานได้ถูกหยิบยกมาเป็นวิธีการหาเงินโดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เศษเงินที่คุณให้กับเด็กขอทาน "ไม่ได้" ทำให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับเป็นการทำลายอนาคตเด็กโดยที่คุณไม่รู้ตัว.." * "สงสารแค่ไหนก็ไม่ให้......เพราะถ้าให้มันเป็นการส่งเสริมวงจรอุบาทว์" * “เห็นด้วยค่ะ ไม่เคยให้เงินขอทานเลย มันเป็นธุรกิจบาป มีมือมีเท้า ทำงานได้ทำไมต้องมาแบมือขอคนอื่น ยิ่งอุ้มเด็กมานี่เดินหนีเลย” * “หยุดสิ่งที่คุณคิดว่าทำบุญด้วยวิธีการให้เงินหรือช่วยซื้อของได้แล้วคับ ขบวนการพวกนี้มันเลวร้ายมาก ขอทาน,ขายมาลัย,ขายขนมตามร้านเหล้า ยิ่งให้ปริมาณยิ่งมากขึ้นเปรียบหยาบๆเลยนะคับเหมือนคุณให้อาหารหมาจรจัดพอคุณให้มันก็จะกลับมารอกินตลอดแถมยังเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก” * “ปัญหามันแก้ไม่ได้เพราะคนคิดว่าทำบุญไม่เดือดร้อนใครทำแล้วสบายใจ นี่ไงปัญหาสังคมที่แก้ไม่ได้เพราะมีคนคิดผิดๆแบบนี้คับ” * “การให้เงินขอทานเหมือนการสอนคนให้ขี้เกียจและสนับสนุนขบวนการค้ามนุษย์ Giving money to beggars is the way to make them lazy and supporting human trafficking" * “เป็นการค้ามนุษย์ทั้งนั้น อย่ามาโลกสวยเลย ขอร้อง ไม่รู้จิง หน้าร้านผมมีเด็กขาพิการนิดเดียว นั่งวันๆได้เยอะมาก ถ้าให้ขนมหรืออาหารจะไม่รับ โยนทิ้งต่อหน้าก็เคยเห็น ขบวนการพวกนี้จะไม่ให้เด็กกินมากให้ดูผอมโซ ตกเย็นมืดก็ทำเป็นเอาขนม+ของที่ได้มา เดินไปเข้าห้องน้ำวางของไว้ด้านนอก พอออกจากห้องน้ำก็ไปเลยเป็นการทิ้งของที่เนียน ใครไม่เชื่อมาดูเลยหน้าร้านผมตรงคิวรถปทุม-รังสิต” อาชีพยาจก รายได้ดี๊ดี (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550204.JPEG) ย้อนไปส่องข่าวสักนิด จะเห็นว่ามีขอทานหลายรายตกเป็นข่าวว่ารวยจัง เริ่มจากเมืองจีนที่เป็นข่าวฮือฮามาไม่นาน อึ้ง! ขอทานชรารายได้เดือนละ 5 หมื่น ใครช่วยนับเงินให้ทิป 500 ซึ่งสื่อปักกิ่งเผยภาพขอทานชราวัยเกือบ 70 นั่งนับเงินเป็นกองโตที่หน้าที่ทำการไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่เผยปกติโอนเงินกลับบ้านที่เจียงซูเดือนละ 5 หมื่นกว่าบาท ส่วนใครช่วยนับเศษเงินก็จะให้ทิปราว 500 บาท และชายชรายกจากผู้นี้สามารถส่งลูกหลานเรียนมหาวิทยาลัยได้ 3 คน สร้างบ้าน 2 หลัง ในเมืองไทยก็มีขอทานระดับเศรษฐี อย่าง ผู้ใช้นามว่า @antz_anita โพสต์ภาพ มาดูขอทานที่รวยที่สุดในประเทศไทย พร้อมบรรยาย “ขอทานที่รวยที่สุดในโลก มีรถเก๋งใช้ มีภรรยาเสิร์ฟอาหารบริการเต็มที่ ฮอนด้าสีดำ กบ 9100 จอดริมรั้วองค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม” (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550205.JPEG) รวมทั้งจาก meewebfree.com ที่มีผู้เขียนบทความ ขอทาน วันนี้รวยยิ่งกว่าเจ้าของบริษัท “หลายปีที่ผ่านมา ผมจะได้ยินเรื่องขอทานที่ได้เงินเยอะมาก มาเรื่อยๆ จนกระทั่ง หลายเดือนก่อน ดูจะเป็นเรื่องที่ดังที่สุด เนื่องจากได้ลงหน้าหนึ่ง ของหนังสือพิมพ์นานเป็นสัปดาห์ได้เลย นั่นยังไม่พอ เอาไปเป็นตัวอย่างในอีกหลายรายการ TVผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องประโคมข่าวหนักขนาดนั้น สิ่งที่เค้าทำก็คือ เป็นขอทานในวัด ได้เงินมาก็ทำบุญบริจาคให้กับวัด เป็นเงินหลักหลายล้านบาท สิ่งที่ผมทำให้ต้องฉุกคิดก็คือ หากเราพิจารณาดีๆแล้วนั้น เงินที่เค้าได้มาก็ได้มาด้วยการขอทาน และจึงนำไปใช้สอยและบริจาคให้วัด นั่นแปลว่า ขอทาน รายได้ดีเสียยิ่งกว่าคนที่ตั้งใจทำงาน หรือคนที่เป็นเจ้าของบริษัทเสียอีก (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550206.JPEG) เป็นเรื่องดี ที่ลุงเค้าเอาเงินไปทำบุญ แต่เป็นเรื่องแย่ที่เค้าได้เงินมาจากการขอทาน ที่ขอเท่าไรก็ไม่พอ! ตัวอย่างนี้มีไม่มาก แต่ที่มากกว่านั้นคือ เรื่องแนวนี้...ย้อนกลับไปเมื่อประมาณต้นปี มีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ขอทานสองคนเป็นสามีภรรยากัน เช่าห้องพักโรงแรมหรู เป็นที่อยู่อาศัย มีอาชีพเป็นขอทาน วันหนึ่งเกิดแบ่งเงินกันไม่ลงตัว เพราะว่าฝ่ายสามีจะมาเอาส่วนแบ่งเพิ่มเพื่อจะไปเที่ยวคาราโอเกะ เนื่องจากเป็นคนชอบเที่ยวคาราโอเกะ หลังเลิกงานในแต่ละวัน(เป็นขอทาน) ก็เลยมีเรื่องแล้วตบตีกัน ทำร้ายร่างกายจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ข่าวนี้ ทำให้ผมอึ้งก็คือ เดือนๆ หนึ่งเค้าเปิดเผยว่าหาเงินรวมกันได้เดือนละแสนกว่าบาท หรือวันละ 3,000-4,000 บาท โดยเมื่อได้เงินเป็นแสนๆบาท ก็จะพักผ่อน ท่องเที่ยว ใช้ชีวิตไปเรื่อย พอเงินหมดก็จะออกมาขอกันใหม่ คนพิการ ไม่จำเป็นต้องเป็นขอทานเสมอไป ผมได้รับรู้เรื่องของคุณเอกชัย วรรณแก้ว ที่เค้ามีร่างกายพิการตั้งแต่เด็ก แต่เค้าก็สู้ชีวิต จนเรียนจบ และเข้ารับพระราชทาน ปริญญาบัตรได้ เค้ายังทำได้ ทำไมคนอื่นทำไม่ได้ หรือเพราะว่าเค้าไม่ได้ทำ?” ผู้เขียนท่านนี้ยังได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีขบวนการการจับเด็กมาบังคับเป็นขอทาน “เราก็น่าจะได้ยินข่าว ว่ามีขบวนการจับเด็กมาทำเป็นแก๊งค์ขอทาน โดยเอามาทำร้ายร่างกาย และขู่บังคับให้ขอทาน ตกเย็นก็จะมารับกลับไป เช้าก็มาส่งใหม่ เป็นแบบนี้ทุกวัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และยังจะมี กรณีแบบที่ผมเล่าทั้งหมดนี้อยู่เรื่อยๆ คนเก่าออกไป คนใหม่ก็เข้ามา บางพื้นที่ร้ายแรงขนาดเก็บค่าคุ้มครอง หรือว่าห้ามข้ามถิ่นกันก็มี” ขบวนการบังคับเด็กขอทาน ธุรกิจข้ามชาติมูลค่าร้อยล้าน (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550207.GIF) จากข่าวก็เคยเกิดคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนสัญชาติกัมพูชา พร้อมหลักฐานการนำเงินฝากธนาคารไปประเทศกัมพูชา 1.5 แสนบาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินสดอีก 4,100 บาท พร้อมกับของกลางกล่องรับบริจาคจำนวน 3 กล่อง นายคนนี้นำเด็กใส่ชุดนักเรียนมาขอทานบริเวณห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ และย่านงามวงศ์วาน โดยบังคับให้ขอทานตั้งแต่ 7 โมงเช้ายันสามทุ่ม และสั่งให้ขอทานให้ได้วันละ 200 บาท หรืออีกกรณีที่ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี เคยให้ข้อมูลกับฐานเศรษฐกิจไว้ว่า จำนวนยอดคนขอทานที่จับได้ในปัจจุบันเป็นชาวเขมรสูงถึง 90% ด้วยการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ผ่านทางตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว แต่ละวันจะมีเขมรข้ามมาวันละ 8,000-10,000 คน ในจำนวนนี้มีเด็กถึง 1,000 คน ที่เข้ามายึดอาชีพขอทาน หลังจากข้ามมาไทยแล้ว ก็หาเล็ดลอดนั่งรถไฟฟรีเข้าเมือง และหาช่องทางไปยังย่านแหล่งหากินอย่าง สมุทรปราการ มีนบุรี จุดที่มีขอทานอยู่เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า หน้าห้างสรรพสินค้า สะพานลอยตามแหล่งช้อปปิ้งท่องเที่ยว โดยกลุ่มคนพวกนี้จะเช่าบ้านอยู่รวมกันเป็นชุมชนเช่น ชุมชนริมทางรถไฟฟ้า สำโรง ตลาดมีนบุรี รังสิต เสียค่าเช่าวันละ 10-20 บาท เทคนิคขอทานขั้นเทพนี้จะไม่นั่งเพียงลำพัง จะต้องมีเด็กนั่งอยู่ด้วยเสมอ เพราะคนไทยมีนิสัยขี้สงสาร พอเห็นมีเด็กนั่งด้วยก็จะให้มากขึ้น (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550208.JPEG) จากข้อมูลของสหประชาชาติ (United Nations; UN) มีการแบ่งกลุ่มเด็กที่เข้ามาทำอาชีพขอทานในเมืองไทยออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่หนึ่ง มาด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ที่เอาลูกมานั่งด้วย ถือเป็นการมาแบบสมัครใจมา กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ถูกบังคับให้มาประกอบอาชีพเป็นขอทาน โดยแบ่งการบังคับออกเป็น 3 ลักษณะใหญ่ๆ ได้แก่ 1.ถูกบังคับโดยพ่อแม่ของตัวเอง 2.เด็กโตบังคับเด็กเล็กให้ข้ามมา และบังคับให้ขอทานโดยมีเด็กโตนั่งคุม และ 3.เช่าเด็กเป็นรายวันหรือรายเดือนจากพ่อแม่ ถ้าเช่าเป็นรายวันวันละ 20 บาท กินอยู่เสร็จ ถ้าเช่าเป็นเดือนก็ตกเดือนละ 500-2,000 บาทขึ้นอยู่กับลักษณะของเด็ก ถ้าเด็กมีความน่าสงสารมากอย่างพิการหรือผอมแห้งก็จะได้ค่าเช่าสูง ทั้งนี้จากการสอบสวนรวบรวมข้อมูลพบว่า ขอทานเขมรกลุ่มนี้ทำรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 700 บาท ถ้านั่งอยู่ในสถานที่ที่มีทำเลดีก็อาจจะได้สูงถึงวันละ 1,500 บาท ทำงานเพียง 3-4 เดือนมีเงินเก็บกลับบ้านร่วมแสนบาท (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550209.JPEG) จากข้อมูลปี 2549-2550 พบว่ามีเงินจากธุรกิจดังกล่าวร่วม 100 ล้านบาทต่อปี และหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้คาดว่าคนกลุ่มนี้จะสามารถทำรายได้ถึง 150 ล้านบาทในไม่กี่ปีข้างหน้า และเมื่อรายได้ดี งานสบาย จึงบอกต่อกันทำให้ขอทานเขมรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้เกิดธุรกิจเช่าเด็ก บังคับเด็ก และหลอกลวงเด็กเกิดขึ้น “กลุ่มคนเหล่านี้สร้างปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจของไทย ไม่ว่าจะเป็น ด้านการท่องเที่ยว อาชญากรรม ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกลุ่มคนเหล่านี้จะหมดไปได้คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำรวจเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการร่วมมือกันไม่ทำบุญให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ เมื่อไม่มีคนให้กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะหมดไป" พ.ต.อ.มานัด ศรีวงษา ผู้กำกับถึงกองกำกับการ 2 ศูนย์สืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (กก.2 ศสส.สตม.) สมัยนั้นกล่าวไว้ ทว่าปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าจำนวนขอทานไม่ได้ลดลงเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก เป็นกลยุทธ์สร้างจุดขายความน่าสงสาร สารพัดฉากดรามาเรียกร้องความเห็นใจ ผู้หญิงอุ้มเด็กบ้าง เด็กกับน้องหมาบ้าง ชนิดว่าขยี้หัวใจคนไทยเราที่ขี้สงสาร และชอบทำบุญทำทาน ...บางครั้งสิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น ...“บุญ”จึงอาจเป็น”บาป” โดยไม่รู้ตัว ?!? (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000001550210.JPEG) ขอบคุณภาพจาก FB: โครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา, ยูทูป์, dek-d.com, และ @antz_anita http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000014984 (http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000014984) |