สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

"น้องกรณ์" อดีตเด็กวัดตัวจ้อยที่คอยถือย่ามตามหลังพระวัดป่ามณีกาญจน์ ตั้งแต่วัย 1 ขวบ 11 เดือน ปัจจุบันมีอายุ 3 ปี 9 เดือน เข้าพิธีพิธีบวชเป็นสามเณร เดินนำหน้าคณะออกรับบิณฑบาต

วันที่ 24 มี.ค. ที่ วัดป่ามณีกาญจน์ ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ด.ช.จิรากรณ์ ศรสงคราม หรือน้องกรณ์ อดีตเด็กวัดตัวน้อยที่คอยเดินถือย่ามตามหลังพระออกบิณฑบาตทุกเช้าตั้งแต่วัยประมาณ 1 ปี 11 เดือน ซึ่งปัจจุบัน ด.ช.จิรากรณ์ อายุได้ 3 ขวบ 9 เดือนแล้ว และ ได้บวชเป็นสามเณรออกเดินบิณฑบาตทุกเช้า โดยมีชาวบ้านที่รักใคร่เอ็นดูมารอใส่บาตรเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงวัดป่ามณีกาญจน์ พบว่าสามเณรกรณ์ ได้เตรียมตัวขึ้นรถพร้อมพระอาจารย์อำนวย จิตตสวโร เจ้าอาวาส และพระภิกษุสามเณรอีกหลายรูป เพื่อไปยังตลาดบางคูลัด

จากนั้น สามเณรกรณ์ได้เดินนำหน้าเจ้าอาวาสและพระภิกษุสามเณรรูปอื่นๆออกบินฑบาตภายในตลาด โดยมีพ่อค้า-แม่ค้า และชาวบ้านที่ศรัทธาในตัวสามเณรกรณ์ต่างมารอใส่บาตกันเป็นจำนวนมาก หลังจากรับบาตจนเต็มแล้วสามเณรกรณ์พร้อมเจ้าอาวาสและคณะพระภิกษุจึงได้เดินทางกลับวัดเพื่อทำกิจวัตรสงฆ์ ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านใกล้เคียงเดินทางมาทำบุญที่วัดเป็นจำนวนมาก ระหว่างนั้นสามเณรกรณ์ก็จะรับฟังเทศน์ธรรมจากพระอาจารย์อำนวย เมื่อเสร็จสิ้นการฟังธรรมก็ยังคงไร้เดียงสาตามประสาเด็ก หยอกล้อกับพระอาจารย์อำนวยพร้อมทั้งคอยนวดเฟ้นเอาใจ ซึ่งสามเณรกรณ์เองทำแบบนี้มาตั้งแต่ตอนอายุขวบกว่าๆ จนเป็นข่าวเกรียวกราวโด่งดังไปทั่ว



โดยในตอนนั้น ด.ช.จิรากรณ์ ซึ่งมีอายุเพียง 1 ปี 11 เดือน จะตื่นนอนตอนตีห้าและตาม นางวริษฐา เสื้อแผ้ว อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นมารดามาที่วัดทุกวัน แล้วคอยถือย่ามตามพระอาจารย์อำนวยออกบิณฑบาตทุกเช้าจนชาวบ้านรักใคร่เอ็นดูชื่นชม เมื่อกลับจากเป็นเด็กวัดตัวน้อยคอยช่วยพระอาจารย์อำนวยแล้วก็จะมานั่งฟังธรรม จนมีหลายครั้งที่นั่งหลับสัปหงกเอียงไปเอียงมาเป็นที่น่าขบขันกับญาติโยมที่มาทำบุญและรักใคร่ชื่นชมในตัวหนูน้อยที่ยังเล็กแต่กลับมีจิตใจใฝ่ในพระธรรมจนผู้ใหญ่บางคนยังอาย

ด้าน นางวริษฐา มารดาของสามเณรกรณ์ เปิดเผยว่า บุตรชายได้เข้าพิธีบวชสามเณรภาคฤดูร้อนเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา และตั้งใจว่าจะบวชเณรสัก 1 เดือน แต่ก็คงต้องรอดูอีกทีว่าเขาอยากจะสึกเมื่อไหร่ ส่วนตัวแล้วภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก ตนพาน้องกรณ์มาที่วัดตั้งแต่เด็กเพื่ออยากปลูกฝังนิสัยให้เขาได้เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา เมื่อเขาเติบใหญ่ในภายภาคหน้าจะได้เป็นคนดีของสังคม ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร.




ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/387519 (http://www.dailynews.co.th/regional/387519)

มองภาพรวม คนอาจจะประทับใจ
แต่โดยวินัย จะทำให้ สามเณร ปฏิบัติภาวนาได้ยากขึ้น
 
    ศิษย์ไม่ควรเดินนำหน้า อุปัชฌาย์ ครูอาจารย์
    ไม่ควรรับ ภัตรก่อน อุปัชฌาย์ ครูอาจารย์
    ยิ่งเป็นสามเณร ไม่มีคุณธรรม ถึงพระอรหันต์ เดินนำหน้าก่อน ยิ่งไม่สมควร
    ประการต่อมา เพราะการบวชอายุที่ไม่สมควร คือ 3 ขวบนั้น ทำให้ อุปัชฌาย์ ต้อง ปฏิบัติดูแล สามเณร แทนท่ สามเณรต้องมาคอยอุปัฏฐาน ครูอาจารย์ นั่นคือเหตุผลที่ต้องเดินข้างหน้า

     มองภาพรวมแล้ว คือ การปรามาสทางอ้อม ซึ่งจะมีผลต่อการปฏิบัติภาวนาของสามเณรอนาคต ถ้าโตติดเป็นนิสัย อาจจะเป็นบุคคลที่ไม่ียอมใคร ต้องเดินหน้าเสมอ ๆ เป็นได้

     โบราณ กล่าวว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่แล้วจะดัดยาก

      :bedtime2:


    ส่วนวิธีแก้ไข ก็คือ อุปัชฌาย์ ครูอาจารย์องค์แรกต้องเดินโดนไม่อุ้มบาตร ถือว่าสามเณรอุ้มบาตร แทนครูอาจารย์ จะถูกต้อง อย่างนี้จะไม่ถือว่า ผิดวินัย หรือ จารีต ระหว่าง อุปัชฌาย์ กับ ศิษย์


    :coffee2: :coffee2: :coffee2:

   เหมือนได้อย่างเสียอย่าง เลยค่ะ


          คนมองแล้วรู้สึกสุข


         แต่ตัวการ ...สักกายทิฏฐิ  อาจจะเติบโต  ทำให้มีตัวตนเพิ่มขนาดมากขึ้นค่ะ