หัวข้อ: เพลงรำวง สงกรานต์สุวรรณภูมิ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 14, 2016, 08:25:20 pm (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2016/04/%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C.jpg) เพลงรำวง สงกรานต์สุวรรณภูมิ สงกรานต์ต้องเล่นเพลงรำวง เป็นของคู่กันตามความเข้าใจของสังคมยุคนี้ รำวง เป็นงานสร้างสรรค์ต่อยอดจากรำโทน เพิ่งมีในยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม ราว พ.ศ. 2487 กรมศิลปากรดัดแปลงรำโทน ใส่ท่ารำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่จากนาฏศิลป์พื้นฐาน แล้วใช้เครื่องดนตรีตะวันตกบรรเลง แต่งเนื้อเพลงปลุกใจที่มีทำนองสนุกสนานประกอบท่ารำ เรียก รำวงมาตรฐาน ประชาชนนิยมรำวงเพื่อความสนุกสนาน รำเต้นไปตามลีลาที่ตนถนัดโดยไม่ต้องให้ความสำคัญท่ารำมากนัก อีกทั้งยังคิดเพลงประกอบได้ตามใจชอบ ดังนั้นเพลงรำวงและท่ารำวงจึงเกิดขึ้นมากมายหลายหลากตามความชอบของแต่ละกลุ่ม แล้วแพร่กระจายถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทุกวันนี้ในไทยนิยมรำวงย้อนยุค :49: :49: :49: :49: รำโทน หมายถึง ฟ้อนระบำรำเต้นเข้ากับกลองโทน (มาจากคำแขกว่า โทฬะ) ที่ตีเป็นจังหวะสนุกสนาน เป็นการละเล่นของชาวบ้านดึกดำบรรพ์ทั้งสุวรรณภูมิหลายพันปีมาแล้ว นับเป็นวัฒนธรรมร่วมของอาเซียน กลองโทนมีทั่วไปทุกชาติพันธุ์ในอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลสมุทร แล้วใช้ตีประกอบฟ้อนรำทุกกลุ่มทุกเหล่าเผ่าพันธุ์ ชาวบ้านยุคอยุธยาตีโทนเล่นเพลงรำเต้นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะตอนเย็นแดดร่มลมตก มีเอกสารชาวยุโรปบันทึกว่า ตอนเย็นได้ยินเสียงกลองตามหมู่บ้าน จังหวะ หรือหน้าทับของรำโทน ส่งต่อให้รำวง เป็นที่รู้กันว่า ป๊ะ ป๊ะ โท่น โท่น เป็นอย่างเดียวกับจังหวะเขมร และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจังหวะตะลุงที่ตกค้างทางภาคใต้ของไทย คนยุคอยุธยาสายแหรกหลัก คือ ตระกูลไทย-ลาว ปนตระกูลมอญ-เขมร ดนตรียุคอยุธยาจึงมีจังหวะ (หน้าทับ) เขมรเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งในจำนวนหลายๆ อย่างประกอบการละเล่นละครนอก (คือโนราชาตรี) และหนังตะลุง แล้วแพร่ลงไปตกค้างอยู่ทางภาคใต้เรียกโนรา กับหนังตะลุง ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.matichon.co.th/news/105413 (http://www.matichon.co.th/news/105413) |