สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: อัจฉริยะ ที่ ธันวาคม 12, 2010, 11:24:08 am



หัวข้อ: เป็นไปได้ หรือ ป่าวที่สมัยนี้ จะมีพระอรหันต์
เริ่มหัวข้อโดย: อัจฉริยะ ที่ ธันวาคม 12, 2010, 11:24:08 am
ในปัจจุบัน นี้มีพระอรหันต์ อยู่หรือป่าวครับ

 และเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าใครเป็นพระอรหันต์

 พระอรหันต์ ในเพศฆราวาส มีหรือป่าวครับ
 
:25:


หัวข้อ: Re: เป็นไปได้ หรือ ป่าวที่สมัยนี้ จะมีพระอรหันต์
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ ธันวาคม 12, 2010, 09:58:18 pm
ในปัจจุบัน นี้มีพระอรหันต์ อยู่หรือป่าวครับ

 และเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าใครเป็นพระอรหันต์

 พระอรหันต์ ในเพศฆราวาส มีหรือป่าวครับ
 

เป็นไปได้ สิจ๊ะ ตามพระดำรัส ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนปรินิพพาน พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า

ตราบใดที่ยังผู้ปฏิบัติ ตามอริยะมรรค ตราบนั้นโลกนี้จักไม่ว่างพระอรหันต์

ข้อความใน มหาปรินิพพานสูตร

ส่วนการดูพระอรหันต์ ให้เทียบเคียง ด้วยพระสูตร ฉวิโสธนสูตร ( สูตรว่าด้วยการพิสูจน์พระอรหันต์ สามัญ )

อย่าลืมพระอรหันต์ ที่บ้านนะจ๊ะ คุณพ่อ คุณแม่ เทียบได้กับพระอรหันต์ของลูก

ดังนั้น ผู้ใดประหารพ่อและ แม่ จึงเป็นอนันตริยกรรม

เจริญพร
 ;)





หัวข้อ: มีอริยมรรค มีพระอรหันต์
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 17, 2010, 10:46:57 pm
พระไตรปิฎก เล่ม ๑๐
พระสุตตันตปิฎ เล่ม ๒
ทีฆนิกาย มหาวรรค
เรื่องสุภัททปริพาชก


ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ได้บอกสุภัททปริพาชกว่า ไปเถิดสุภัททะ   พระผู้มีพระภาค
ทรงทำโอกาสแก่ท่าน สุภัททปริพาชกเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้วได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า

ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ สมณพราหมณ์เหล่านี้ใด เป็นเจ้าหมู่เจ้าคณะ เป็นคณาจารย์มีชื่อเสียง มียศ เป็นเจ้าลัทธิ ชนเป็นอันมาก สมมติว่าเป็นคนดีคือบูรณกัสสป มักขลิโคสาล อชิตเกสกัมพล ปกุธกัจจายนะ สัญชัยเวลัฏฐบุตร นิครณฐนาฏบุตร สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ได้ตรัสรู้ตามปฏิญญาของตนๆ หรือว่าทั้งหมดไม่ได้ตรัสรู้หรือว่าบางพวกไม่ได้ตรัสรู้ ฯ

  พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อย่าเลย สุภัททะ ที่ข้อถามนั้นงดเสียเถิด  ดูกรสุภัททะ
เราจักแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงตั้งใจฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดีเราจักกล่าว สุภัททปริพาชกทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยใด ไม่มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘   ในธรรมวินัยนั้น ไม่มีสมณะที่ ๑ สมณะที่ ๒ สมณะที่ ๓หรือสมณะที่ ๔  

ในธรรมวินัยใด มีอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ในธรรมวินัยนั้น
มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔


ดูกรสุภัททะ ในธรรมวินัยนี้ มีอริยมรรคประกอบด้วย องค์ ๘
ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น มีสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ หรือที่ ๔
ลัทธิอื่นๆ ว่างจากสมณะผู้รู้ทั่วถึง ก็ภิกษุเหล่านี้พึงอยู่โดยชอบ
โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย ฯ


ที่มา พระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน (ดร.วรภัทร์ ภู่สุวรรณ)


หัวข้อ: วิธีสอบสวนภิกษุ"ผู้พยากรณ์อรหัตตผล"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 17, 2010, 10:54:29 pm
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
๒. ฉวิโสธนสูตร
สูตรว่าด้วยข้อสอบสวน ๖ อย่าง

 
    พระผู้มีพระภาคประทับ ณ เชตวนาราม. ตรัสสอนวิธีสอบสวนภิกษุผู้พยากรณ์
อรหัตตผล(ผู้พูดว่าตนเป็นพระอรหันต์) โดยวิธีตั้งปัญหาให้ตอบรวม ๖ ข้อ คือ
   
๑. รู้เห็นอย่างไรในโวหาร ๔  คือการพูดว่า ได้เห็นได้ฟัง ได้ทราบ  ได้รู้แจ้ง  ในสิ่งที่ได้เห็นได้ฟังทราบได้รู้แจ้ง
   
๒. รู้เห็นอย่างไรในขันธ์ ๕  ที่ยึดถือ
   
๓. รู้เห็นอย่างไรในธาตุ ๖
   
๔. รู้เห็นอย่างไรในอายตนะภายในภายนอก ๖ คู่   คือตาคู่กับรูป หูคู่กับเสียง เป็นต้น
 
๕. รู้เห็นอย่างไรในกายที่มีวิญญาณครองตน
 
๖. รู้เห็นอย่างไรในนิมิตทั้งปวงภายนอก จิตจึงหลุดพ้นจากอาสวะ   
ถอนอหังการ(ความถือเรา)  มมังการ(ความถือว่าของเรา) และมานะ(ความถือตัว)   
ซึ่งเป็นอนุสัย(กิเลสที่แฝงตัว) เสียได้.  

พร้อมทั้งแสดงคำตอบในทางรู้เท่าและตั้งอยู่ในศีล   สมาธิ  ปัญญา   จนได้อาสวักขยญาณ คือญาณอันทำอาสวะให้สิ้นเป็นที่สุด (๒.)

(๒.) ในพระไตรปิฎกแสดงไว้ชัดเพียง ๕ ข้อ   ส่วนข้อ ๖   แสดงตามมติอรรถกถาที่ให้แยกปัญหาเรื่องกายของตนกับกายของผู้อื่น นอกจากนั้นอรรถกถายังแสดงมติอื่นอีก

ที่มา พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน (อ.สุชีพ  ปุญญานุภาพ)