สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

จนท.แม่ฮ่องสอน บุกสำนักสงฆ์ธรรมคีรี รุกป่าสงวนแม่ปาย-น้ำตกแม่สุรินทร์

ป่าไม้-อุทยานฯ-ทหาร-ตชด.แม่ฮ่องสอน บุกสำนักสงฆ์ธรรมคีรี รุกป่าสงวนแม่ปาย-อุทยานฯน้ำตกแม่สุรินทร์ ยึดรถแบคโฮ ขณะทำการแผ้วถางป่า-ปรับหน้าดิน ตัดต้นไม้จนโล่งเตียน มีการขึ้นป้าย"โครงการปลูกสวนป่าถาวรพุทธสถานคืนผืนป่าแผ่นดิน"...


เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ 20 เม.ย. 59 นายทวีชัย กันทะใจ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 32 กรมป่าไม้ และนายปรีชา ทะจะกัน ผอ.อุทยานแห่งชาติแม่สุรินทร์ นายผณินทร์ ทับกล่ำ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.722 (บ้านกุงไม้สัก) พร้อมด้วย กองร้อย อส. อ.เมืองที่ 2 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กว่า 100 นาย เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่สำนักสงฆ์ธรรมคีรี บ้านพะโข่โหล่ ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากได้รับแจ้งจากราษฎรในพื้นที่ว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่า และใช้รถแบคโฮทำการขุดปรับหน้าดินและขุดดินภูเขา ตัดต้นไม้จนโล่งเตียน


เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าจำนวน 2 แปลง คือ เขตป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่ปายฝั่งซ้าย) และเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ เป็นการบุกรุกถางป่าคร่อมใน 2 พื้นที่ซึ่งมีพื้นที่ต่อเนื่องกัน โดยพบว่ามีการขึ้นป้าย โครงการว่า "โครงการปลูกป่าถาวรพุทธสถาน" (คืนผืนป่าแผ่นดิน) เฉลิมพระเกียรติ ณ สถานสำนักสงฆ์แม่ฮ่องสอนสังฆารามา เนื้อที่ 30 ไร่ 7 พ.ค. – 12 ส.ค.2559 โดยมีรายชื่อผู้ร่วมดำเนินโครงการดังกล่าว ได้แก่ สำนักสงฆ์แม่ฮ่องสอนสังฆารามา อบต.ปางหมู หน่วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.แม่ฮ่องสอน สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.1 (ม่วงต๊อบ) สำนักงานพระพุทธศาสนาแม่ฮ่องสอน กำนันตำบลปางหมู และผู้ใหญ่บ้านพะโข่โหล่ หมู่ 10 ต.ปางหมู


เบื้องต้นมีการใช้รถแบคโฮทำการขุดดินใส่ในรถบรรทุกและรถกระบะ ลำเลียงดินไปถมที่ และได้ตัดต้นไม้สักขนาดใหญ่ ไม้กระยาเลย ล้มต้นลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่ได้นับจำนวนท่อน โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการตรวจสอบ พบพระสงฆ์รูปหนึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ต่อมาได้หลบหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดรถแบคโฮ ไม่มีเลขทะเบียน รถบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 80-1679 แม่ฮ่องสอน ติดสติกเกอร์ คำว่า "นันชญา" ไว้ที่กระจกด้านหน้า รถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้าสีแดง ไม่มีหมายเลขทะเบียน และรถบรรทุกหัวเหลืองกระบะสีเขียว ได้ปกปิดตราข้างประตูคนขับ ซึ่งคาดว่าเป็นรถของหน่วยงานราชการอีก 1 คัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาในการกระทำผิดได้แก่ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ฐาน แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า, ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต, นำเครื่องจักรกล เข้าไป ผ่าน หรือใช้ทางในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต โดยรวบรวมคดีนำส่ง พงส.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามตรวจสอบคดี



สำหรับการตรวจสอบพื้นที่ที่มีการไถปรับหน้าดินพื้นที่ทั้ง 3 จุดแล้ว พบว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้งหมดเนื้อที่รวมกันประมาณ 11-0-1 ไร่ มีจุดที่ 1 เนื้อที่ประมาณ 7-2-74 ไร่ จุดที่ 2 เนื้อที่ประมาน 2-2-77 ไร่ จุดที่ 3 เนื้อที่ประมาณ 0-2-50 ไร่ และอยู่ในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ อีกประมาณ 5 ไร่ การปฏิบัติงานอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง.



ขอบคุณภาพข่าวจาก
ภาพจาก ฉก.ราบ 17 แม่ฮ่องสอน /จนท.ฉก.ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้
http://www.thairath.co.th/content/608644 (http://www.thairath.co.th/content/608644)