หัวข้อ: “พระครูโสภณธรรมจักร” บริหาร “วัดพระขวาง” ที่ชุมพรให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 01, 2016, 12:38:53 am (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397901.JPEG) “พระครูโสภณธรรมจักร” บริหาร “วัดพระขวาง” ที่ชุมพรให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจพอเพียงต้แบบ เรื่อง/ภาพ : ถนอม ขุนเพ็ชร์ “พระครูโสภณธรรมจักร” เจ้าอาวาสวัดพระขวาง อำเภอเมืองชุมพร เป็นผู้นำโครงการสามพลังร่วมสร้างคนวัดพระขวางให้อบอุ่น ที่สนับสนุนโดย สสส. ชวนชาวบ้านมาปลูกผักในวัด เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ร่วมบุญกุศล ลดความขัดแย้ง (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397902.JPEG) ท่านพระครูฯ เล่าว่า ปกติที่วัดมีกิจกรรมสำคัญอยู่ 6 งาน มีการตักบาตรเทโว ตักบาตรปีใหม่ สงกรานต์ งานประจำปีสมโภชหลวงพ่อพระขวาง ลอยกระทง และงานสวดกลางบ้าน “โยมมาวัดอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว จังหวะว่าดินที่มาลงใหม่ที่วัดเป็นดินดี อาตมาเลยชวนคนมาปลูกพืชผักในพื้นที่วัดโดยไม่ใช้สารเคมี ตอนแรกเริ่มปลูกดอกดาวเรืองตัดดอกขาย หลังจากนั้น ส่งเสริมปลูกถั่วพู ต่อด้วยการปลูกสามอย่าง คือ ข่า แตง ถั่ว ในที่เดียวกัน เป็นระบบเศรษฐกิจพอเพียงในวัด” (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397903.JPEG) พื้นที่ปลูกในวัดทั้งหมดอยู่รอบโบสถ์ วิหาร กุฏิ รวมแล้วราว 2 ไร่ ที่ถูกใช้เป็นประโยชน์ รายได้ทั้งหมดจากการขายพืชผักในรอบที่ผ่านมา ยอดคงเหลือ 70,000 กว่าบาท เอาเงินให้วัดเพื่อทำกิจกรรมสำคัญ 6 อย่าง และใช้ทำกิจกรรมเสริมอย่างอื่น คนที่มาร่วมเหมือนได้ร่วมทำบุญ ขณะเดียวกัน ได้ความรู้กลับไปทำที่บ้านต่อ สำหรับคนซึ่งที่บ้านไม่มีพื้นก็มาทำที่วัดได้ สำหรับโครงการสามพลังร่วมสร้างคนวัดพระขวางให้อบอุ่นนั้น มีเป้าหมาย ให้เด็ก ผู้ใหญ่ และคนแก่มารวมกัน ซึ่งเรื่องนี้ท่านพระครู เล่าว่า สภาพชุมชนที่นี่แม้ปัญหาดังกล่าวดูจะไม่มาก อาจมีความขัดแย้งทางความคิดในชุมชน เมื่อเอาวัดมาเป็นศูนย์กลางสถานการณ์ก็ดีขึ้นมาก (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397904.JPEG) “การเทศน์อาตมาเน้นเศรษฐกิจพอเพียง ให้รู้จักใช้ รู้จักจ่าย รู้จักมัธยัสถ์ ยิ่งภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ แต่ละครอบครัวลำบาก ก็เป็นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง” ท่านพระครู กล่าวว่า เศรษฐกิจพอเพียงถ้ามองในเชิงพระพุทธศาสนาก็สามารถอธิบายได้ เรื่องหลักที่ท่านพูดกับชาวบ้านที่นี่บ่อยๆ คือ การครองชีพโดยรู้หลักมัธยัสถ์ อดออม ใช้จ่ายเฉพาะแต่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้คิดถึงวันข้างหน้าที่อาจเจ็บไข้ได้ป่วย หลักเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคน เรื่องแบบนี้คนเข้าใจ แต่จะเอาไปใช้ได้หรือไม่ขึ้นกับตัวบุคคล (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397905.JPEG) “บางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ได้อะไรกับคนอื่น หรือครอบครัว อาตมาก็ติดป้ายเขตปลอดบุหรี่ เขตปลอดเหล้า ปลอดการพนัน หากมีงานศพ หรืองานอะไร เราก็จะขอในส่วนนี้ไม่ให้มี” กิจกรรมโครงการ สสส.มีส่วนทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างวัดกับชุมชนชัดเจนขึ้น จากภาพที่ชาวบ้านก็จะมาวัดเป็นประจำ จากหน้าที่รับผิดชอบ 6 กลุ่มงานของวัด แต่ละกลุ่มมีคนรับผิดชอบหลักกลุ่มละ 20 กว่าคน (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397906.JPEG) “การแก้ปัญหาชุมชน วัดคงแก้ทุกอย่างไม่ได้ คงได้แค่ส่วนหนึ่ง หรือบางส่วน พระอาจแนะนำได้ แต่พอกลับไปบ้านเป็นเรื่องของบุคคล ครอบครัว คงไปยุ่งไม่ได้” ท่านมองว่ายิ่งคนรุ่นใหม่มีปัญหาหลายอย่าง มองว่าการเข้าวัดไม่ทันสมัย เข้าวัดแล้วยังใช้เวลาไปกับโทรศัพท์มือถือ เรื่องแบบนี้สอนได้ แต่เปลี่ยนพฤติกรรมยาก ท่านมองว่า ประโยชน์ที่ชาวบ้านมาร่วมโครงการ ทำให้คนได้ออกกำลังกาย อยู่บ้านอาจะไม่ได้ทำ แต่มาวัด ได้ทำงาน ปลูกพืชผัก ดูแลต้นไม้ ขุดดิน พูดคุยกัน แต่อยู่บ้านอาจไม่ได้คุยกัน (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397907.JPEG) “มาช่วยปลุกต้นไม้กัน ก็ได้ความชำนาญในการเพาะปลูกกลับไปทำเองได้ ผลผลิตก็ปลอดสารพิษ ช่วยสุขภาพ รายได้ที่เข้ามายังมาสนับสนุนกิจกรรมของวัด เป็นบุญ” ท่านบอกว่า ถ้าชาวบ้านเอาแนวคิดกลับไปทำที่บ้าน ทางวัดจะสนับสนุน หรือว่าเอางบประมาณนี้ไปทำในชุมชนก็ได้ อย่างที่จะมีการส่งเสริมปลูกส้มจิ๊ดครอบครัวละต้น เมื่อได้ผลผลิตไปจำหน่ายก็เอาเงินมาเป็นส่วนรวม วัดพร้อมสนับสนุนกิจกรรมของชาวบ้าน และชุมชนในเรื่องที่เป็นไปได้ เช่น ให้ใช้พื้นที่วัดจัดกิจกรรมที่เหมาะสม ให้ของวัดไปใช้ บางครอบครัวที่ฐานะไม่แข็งแรง หากมีคนล้มเจ็บตายทางวัดก็ช่วย แต่ในงานศพก็ห้ามการพนัน และดื่มสุราอย่างเด็ดขาด (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/559000004397908.JPEG) วัดพระขวาง เป็นศูนย์รวมทางจิตใจ พระครูโสภณธรรมจักร เล่าถึงประวัติความเป็นมาว่า เริ่มก่อตั้งปี พ.ศ.2380 หรือเมื่อ 179 ปีมาแล้ว ตามตำนานน่าจะชื่อ วัดนางชีจัน แล้วร้างไปจนมีพระพุทธรูปลอยน้ำมาตามแม่น้ำชุมพร ชาวบ้านเห็นอยากนิมนต์ขึ้นมาอยู่ที่บนวัด ใช้เชือกชักลากขึ้นมา แต่ไม่ขึ้น ช้างชักลากก็ยังไม่ขึ้น เวลากลางคืนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ในคืนนั้นชาวบ้านคนหนึ่งที่มาช่วยชักลากพระพุทธรูปขึ้นจากน้ำได้ฝันว่า พระมาบอกว่าให้ญาติโยมในหมู่บ้านช่วยกันสร้างฐานพระพุทธรูป แล้วเอาสายสิญจน์ไปผูกองค์ท่านเอาไว้ ท่านจะขึ้นมาเอง หลังจากมีการทำฐานพระพุทธรูป ใช้สายสิญจน์ไปผูก หลวงพ่อขึ้นมาอยู่บนฐานเองอย่างน่าอัศจรรย์ จากตำนานเล่าขานถึงพระพุทธรูปแห่งวัดพระขวาง ซึ่งจะมีงานสมโภชทุกปีในแรม 14 ค่ำ เดือน 5 ชาวบ้านมักบนบานหลวงพ่อด้วยหนังตะลุง มโนราห์ มวย วัวชน ควายชน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปี ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9590000042623 (http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9590000042623) |