หัวข้อ: ลาวพนัสนิคม ร่วมปราบกบฏตั้วเหี่ย ฉะเชิงเทรา เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 26, 2016, 08:25:47 am (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2016/05/%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA01.jpg) ชาวบ้าน ต. เนินพระธาตุ อ. พนัสนิคม จ. ชลบุรี ร่วมงานสืบสานประเพณีเนินธาตุ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2559 มีเลี้ยงพระตั้งแต่เช้า แล้วเดินเวียนรอบเจดีย์ 3 รอบโดยมีผู้ตีฆ้องนำขบวนโปรยดอกไม้ เซ่นสรวงด้วยอาหารชนิดต่างๆ เช่น หัวหมู น้ำมะพร้าว ขนมหวานและผลไม้ลาวพนัสนิคม ร่วมปราบกบฏตั้วเหี่ย ฉะเชิงเทราและเป็นกองกำลังอารักขาเจ้าฟ้ามงกุฎ ที่วัดบวรฯ อ. พนัสนิคม จ. ชลบุรี บริเวณลุ่มน้ำพานทอง อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางเส้นทางคมนาคมมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์มีลำน้ำพานทองเป็นลำน้ำสายหลักของพนัสนิคม มีต้นน้ำอยู่เขตที่สูง (บริเวณเทือกเขา จ. ระยอง) ไหลผ่านพนัสนิคม ไปลงแม่น้ำบางปะกง ใกล้ปากน้ำออกอ่าวไทย :96: :96: :96: :96: :96: ชุมชนเก่าสุด 3,000 ปีมาแล้ว ชุมชนเก่าสุดของพนัสนิคม อยู่บ้านโคกพนมดี (ต. ท่าข้าม) ราว 3,000 ปีมาแล้ว นักโบราณคดีขุดพบโครงกระดูกเจ้าแม่ (หมอผี หัวหน้าเผ่า) มีลูกปัดนับแสนเม็ดฝังรวมอยู่ด้วย เมืองเก่าสุด 1,500 ปีมาแล้ว : เมืองเก่าสุดของพนัสนิคม อยู่ในตัวอำเภอ เรียกสมัยหลังว่าเมืองพระรถ (ชื่อสมมุติจากนิทานลาว) เป็นเมืองโบราณยุคทวารวดี รับศาสนาจากอินเดีย อายุอยู่ในราวหลัง พ.ศ. 1000 รุ่นเดียวกับเมืองนครปฐมโบราณ เมืองร้าง : เมืองโบราณยุคทวารวดีที่พนัสนิคม ลดความสำคัญ ในที่สุดรกร้างไปราวหลัง พ.ศ. 1500 หรือ 1,000 ปีมาแล้ว เพราะเส้นทางคมนาคมเปลี่ยนไป แล้วมีบ้านเมืองแห่งใหม่ใกล้ทะเลเติบโต มีความสำคัญแทนที่ชุมชน 3,000 ปีมาแล้วที่บ้านโคกพนมดี (ต. ท่าข้าม อ. พนัสนิคม จ. ชลบุรี) เป็นเนินดินสูงจากที่ราบเห็นได้ชัดเจน น่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แหล่งฝังศพตระกูลหมอผีหัวหน้าเผ่าซึ่งเป็นหญิง (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2016/05/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B5-768x576.jpg) ชุมชน 3,000 ปีมาแล้วที่บ้านโคกพนมดี (ต. ท่าข้าม อ. พนัสนิคม จ. ชลบุรี) เป็นเนินดินสูงจากที่ราบเห็นได้ชัดเจน น่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แหล่งฝังศพตระกูลหมอผีหัวหน้าเผ่าซึ่งเป็นหญิงลาวจากนครพนม บุกเบิกพนัสนิคม ลาวลุ่มน้ำโขง หักร้างถางพงบุกเบิกก่อบ้านสร้างเมืองพนัสนิคม มีเจ้าเมืองชื่อ พระอินทรอาษา ตั้งแต่ยุค ร.3 ระหว่าง พ.ศ. 2367-2394 เกือบ 200 ปีมาแล้ว มีข้อความในพระราชพงศาวดาร ว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทรอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) ลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวจากเมืองนครพนม ประมาณ 2 พันคน ขอสวามิภักดิ์ขึ้นต่อกรุงเทพฯ สมัย ร.2 เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 ให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ” แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน จึงได้ไปอยู่เมืองพนัสนิคม (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2016/05/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%96-768x576.jpg) แนวคันดินเมืองพระรถ ยุคทวารวดี ต. หน้าพระธาตุ อ. พนัสนิคม จ. ชลบุรี ลาวพนัสนิคม ปราบกบฏตั้วเหี่ย พ.ศ. 2391 พระอินทรอาษา เจ้าเมืองพนัสนิคม คุมลาวยกไปทางบกปราบกบฏจีนตั้วเหี่ยเมืองฉะเชิงเทรา (ที่อยู่ต่อแดนกัน) มีพรรณนาในพระราชพงศาวดารฯ เรื่อง เจ้าพระยาพระคลัง กับเจ้าพระยาบดินทร เดชา ปราบจีนตั้วเหี่ย เมืองฉะเชิงเทรา จะคัดมาโดยจัดย่อหน้าใหม่ให้อ่านสะดวก ดังนี้ “เจ้าพระยาบดินทรเดชา ยกมาถึงเมืองฉะเชิงเทราวันจันทร์เดือน 5 ขึ้น 14 ค่ำ ตั้งอยู่เหนือเมือง เจ้าพระยาพระคลังยกขึ้นไปทางเรือ ให้จมื่นไวยวรนารถเข้าตีพวกตั้วเหี่ยอยู่ที่นอกกำแพงเมือง ซึ่งตั้งอยู่ตามโรงหีบ พวกลาวเมืองพนัศนิคมยกมาทางบก พวกจีนตั้วเหี่ยหลบหลีกอยู่ในโรงไม่เห็นตัว พระอินทรอาสาให้เอาไฟจุดเผาโรงเสียเป็นหลายโรง พวกจีนทนอยู่ไม่ได้ก็ออกมาสู้รบกับพวกลาว พวกจีนแตกหนีไป อ้ายจีนเชียงทองเห็นว่า จะสู้มิได้ก็ให้ท่านผู้หญิงหุ่น ภรรยาพระยาศรีราชอากร มากราบเรียนท่านเจ้าพระยาพระคลังว่า จีนเชียงทองหาได้รู้เห็นเป็นตั้วเหี่ยด้วยไม่ อ้ายจีนบู๊และพวกตั้วเหี่ยทั้งปวงยกย่องให้เป็นเจ้านาย ครั้นไม่ยอมก็จะฆ่าเสีย กลัวตายก็ต้องยอม บัดนี้จีนเชียงทองจะจับตัวอ้ายจีนบู๊มาลุแก่โทษ เจ้าพระยาพระคลังก็รับยอมให้เกลี้ยกล่อม จีนเชียงทองคุมสมัครพรรคพวกไปจับอ้ายจีนบู๊ที่ในกำแพงเมือง เอามาส่งท่านเจ้าพระยาพระคลังๆ จึ่งให้จมื่นไวยวรนารถคุมตัวอ้ายจีนบู๊ อ้ายจีนเชียงทอง อ้ายจีนขุนพัฒน์ (ลัก) อ้ายจีนหลงจู๊ชี หลงจู๊ยี่ หลงจู๊ตัด เข้ามากรุงเทพมหานคร ฝ่ายพวกตั้วเหี่ยหานายใหญ่มิได้แล้วก็ระส่ำระสาย ครั้น ณ เดือน 5 แรม 5 ค่ำ ก็ทิ้งเมืองเสียหนีเอาตัวรอด พวกกองทัพไทยจับได้ตัวนายจีนห้วยเสี้ยวตั้วเหี่ย จีนเอี้ยงยี่เหี่ย จีนเน่าซาเหี่ย จีนโปยี่เหี่ย จีนเสงซาเหี่ย จีนตูยี่เหี่ย จีนเกา จีนกีเฉาเอย จีนโผ จีนหลงจู๊อะ จีนกีเถ้าแก่สวนอ้อย จีนลก นายทัพนายกองไทยฆ่าตายเสียก็มาก พวกชาวบ้านซึ่งหนีจีนตั้วเหี่ยอยู่ในป่า รู้ว่าพวกตั้วเหี่ยแตกแล้วก็พากันออกมา พบเจ๊กจีนที่ใดก็ฆ่าเสียสิ้น ไม่รู้ว่าจะเป็นจีนตั้วเหี่ยหรือมิใช่ตั้วเหี่ย ครั้งนั้นพวกจีนไม่มีที่พึ่ง หาผู้ใดจะช่วยธุระมิได้ ก็พากันผูกคอตายเสียเป็นอันมาก ที่ไม่ฆ่าตัวเสียก็โกนผม เอาผ้าเหลืองห่มโพธิ์ห่มพระพุทธรูปเอามานุ่งห่ม ด้วยเป็นธรรมเนียมจีนโทษผิดถึงตายแล้ว ถ้าโกนผมบวชเสียได้ก่อนแล้วก็ไม่มีโทษ ถึงเป็นข้าศึกกันก็ไม่ทำอันตราย ธรรมเนียมไทยไม่ถือดังนั้นก็ฆ่าฟันเสียสิ้น พวกจีนก็หนีเดินบกมาเมืองชลบุรี ลาวเมืองพนัศนิคมอยู่ต้นทางก็สกัดฆ่าพวกจีนอยู่ที่นั่น ศพกองอยู่แห่งละ 9 คน 20 คน 30 คน เรี่ยรายอยู่ที่ทุ่งนาป่ารกก็เป็นอันมาก ฆ่าแล้วก็ถอดเอาเสื้อกางเกงตัดเอาไถ้ แล้วผ่าท้องค้นเอาเงินในไส้พุง ลางคนก็ได้บ้าง เกิดเป็นผลประโยชน์ขึ้นพิเศษ ที่รอดหนีลงมาถึงเมืองชลบุรีได้ พระยาชลบุรีก็ให้จับฆ่าเสีย พวกจีนตายครั้งนั้นหลายพัน ศพลอยในลำน้ำเมืองฉะเชิงเทราติดเนื่องกันไปทุกคุ้งน้ำ จะนับประมาณมิได้” :96: :96: :96: :96: :96: ลาวพนัสนิคม อารักขาเจ้าฟ้ามงกุฎ พ.ศ. 2394 พระอินทรอาษา เจ้าเมืองพนัสนิคม คุมลาวเป็นกองกำลังอารักขาเจ้าฟ้ามงกุฎ วัดบวรนิเวศฯ เสด็จขึ้นเสวยราชย์เป็น ร.4 หลัง ร.3 สวรรคต มีพรรณนาในพระราชพงศาวดารฯ จะคัดมาโดยจัดย่อหน้าใหม่ให้อ่านสะดวก ดังนี้ “ครั้นมาถึง ณ วันพุธเดือน 4 แรม 8 ค่ำ ท่านเจ้าพระยาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม ให้จมื่นราชามาตยพลขันธ์ไปเฝ้าสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ามงกุฎสมมติเทววงศ์พงศ์อดิศรกษัตริย์ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กราบทูลว่าจะเชิญเสด็จครองศิริราชสมบัติ จะโปรดรับหรือมิโปรดขอให้ทราบด้วย จึ่งมีรับสั่งว่า ท่านผู้หลักผู้ใหญ่พร้อมใจกันอัญเชิญแล้วก็จะต้องรับเจ้าพระยาพระคลังได้ทราบกระแสรับสั่งแล้ว จึงสั่งขุนอักษรสมบัติ เสมียนตรากรมท่า คุมทหารปืนปากน้ำนาย 1 พระนนทบุรี คุมเลขทหารปืนปากน้ำนาย 1 พระอินทรอาษา คุมลาวเมืองพนัศนิคมนาย 1 รวม 3 นาย ไปตั้งกองจุกช่องล้อมวงนั่งยามตามเพลิงรักษาอยู่รอบวัด มิให้ผู้คนแปลกปลอมเข้าไปได้” อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี สมัย ร.5 เมืองพนัสนิคม เปลี่ยนฐานะเป็นอำเภอพนัสนิคม ขึ้นกับจังหวัดชลบุรี เมื่อ พ.ศ. 2441 สืบจนทุกวันนี้ ผู้เขียน : สุจิตต์ วงษ์เทศ ที่มา : มติชนออนไลน์ เผยแพร่ : 18 พ.ค. 59 http://www.matichon.co.th/news/140981 (http://www.matichon.co.th/news/140981) |