หัวข้อ: กลัวผิดศีลธรรม ทำไมลืมแฟนเก่าไม่ได้.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 04, 2016, 10:13:00 pm กลัวผิดศีลธรรม ทำไมลืมแฟนเก่าไม่ได้.? ปุจฉา-วิสัชนา พระไพศาล วิสาโล ปุจฉา : กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะ เมื่อ ๕ ปีที่แล้วมีโอกาสได้เจอกับแฟนเก่า (รักครั้งแรก) ทั้งที่ไม่เคยติดต่อกันมา ๒๑ ปีต่างคนก็มีครอบครัวแต่ทำไมเรายังรักและคิดถึงเขาอยู่เสมอ พอมีโอกาสได้พบเจอกันใหม่ยิ่งทำให้เรารักเขาและผูกพันกันมากขึ้นทำให้คิดมาก เพราะผิดศีลธรรม เคยไปปฏิบัติธรรมหลายครั้งแต่ก็ยังลืมเขาไม่ได้รักเขามาก มันเหมือนยางเหนียวที่ติดแน่น อยากจะเลิกติดต่อก็ทำไม่ได้สักที มันเป็นกรรมเก่าหรือเปล่าที่ทำให้เราต้องมาพบกันมาใช้กรรมอีกครั้ง วิสัชนา : ความประทับใจบางอย่างยากที่จะลืมเลือน ไม่เพียงกับใครบางคนเท่านั้น แม้กับสถานที่หรือประสบการณ์บางอย่างที่ให้ความรู้สึกดีๆ กับเรา เรามักจะระลึกนึกถึงเสมอ ยิ่งไม่เคยมีความรู้สึกดีแบบนั้นอีกเลยหลังจากนั้น ก็ยิ่งหวนระลึกนึกถึงบ่อยๆ เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับกรรมเก่าแต่ปางก่อนก็ได้ มันเกิดจากความประทับใจที่ฝังแน่นในปัจจุบันชาติต่างหาก หากคุณอยากเลิกติดต่อ คุณย่อมทำได้ เป็นแต่ใจคุณไม่ได้มีความอยากเลิกอย่างแท้จริง อีกทั้งใจไม่แข็งพอ ส่วนหนึ่งเพราะยังไม่เห็นโทษของการกระทำดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง หรือเพราะยังหลงใหลในความสุขหรือรสชาติของประสบการณ์ดังกล่าว เมื่อถึงคราวที่คุณต้องประสบทุกข์จากการกระทำดังกล่าว ถึงตอนนั้นคุณอาจได้คิดก็ได้ว่าไม่น่าพลั้งเผลอเลย แต่นั่นอาจจะสายไปแล้วก็ได้ ตอนนี้ยังไม่สายที่คุณจะกลับมาทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะเจ็บปวดในช่วงแรก แต่ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียใจหรือรู้สึกผิดในภายหลัง ask1 ans1 ask1 ans1 ปรากฎการณ์ คนทรงเจ้า เป็นเรื่องจริงหรือไม่.? ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์ไพศาลค่ะ บ้านของโยมนับถือคนทรงเจ้ามาก ที่บ้านเองคุณลุงและคุณป้าก็เข้าทรงด้วยค่ะ โยมสงสัยมาตลอดว่าการทรงเจ้ามีจริงหรือไม่ และควรปฏิบัติอย่างไรหากโยมหมายเดินตามทางที่พระพุทธองค์สอน แต่ใจหนึ่งก็ไม่อยากลบหลู่และไม่อยากทำตัวแปลกแยกกับคนที่บ้านค่ะ น้อมขอพระอาจารย์ช่วยชี้แนะเจ้าค่ะ วิสัชนา : ปรากฏการณ์คนทรงเจ้านั้น มีคำอธิบายได้หลายทาง ทางจิตเวชศาสตร์อธิบายว่าเป็นการเปลี่ยนบุคลิกไปเป็นอีกคนหนึ่งจากแรงผลักดันของจิตไร้สำนึก แต่อีกทางหนึ่งก็อธิบายว่าเป็นเพราะมีจิตอื่นมาเข้าร่าง ประการหลังนั้นอาตมาว่ามีความเป็นไปได้ แม้ยังไม่สามารถยืนยันได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่นั่นเป็นเพราะวิทยาศาสตร์หรือวิทยาการในปัจจุบันยังมีข้อจำกัด ไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางจิตได้ทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามจากเรื่องราวที่เคยได้ยินมา คนทรงเจ้าบางคนได้ยอมรับว่า หลายครั้ง “เจ้า” ไม่มาเข้าร่าง เขาก็ต้อง “แสดง” ทำทีเหมือนว่ามีเจ้ามาเข้าทรง อาตมาเชื่อว่าการทรงเจ้าในเวลานี้ ที่เป็นของจริงนั้นมีน้อย ส่วนใหญ่เป็นการแสดง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเจ้าไม่สามารถมาเข้าได้ตลอดเวลาหรือทั้งวัน บางครั้งเหตุปัจจัยไม่อำนวยให้เจ้ามาเข้าได้ ก็จำเป็นต้องทำทีเหมือนว่ากำลังมีเจ้ามาเข้าร่าง หาไม่ผู้ที่มากราบไหว้จะเสียศรัทธาหรือเกิดปัญหาตามมา ดังนั้นจึงไม่ควรเชื่อคนทรงเจ้าทุกอย่าง ควรใช้หลักกาลามสูตร โดยเฉพาะข้อที่ว่า “อย่าปลงใจเชื่อเพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้” สำหรับกรณีของคุณ ควรปฏิบัติต่อลุงและป้าดังญาติผู้ใหญ่ แม้คุณไม่เชื่อเรื่องเข้าทรง ก็อย่าให้ความไม่เชื่อดังกล่าวมาบั่นทอนความสัมพันธ์ในฐานะหลานกับลุงและป้า ควรมีความรักความเคารพท่าน อย่ารังเกียจหรือดูถูกท่าน จะว่าไปแล้วการทรงเจ้าของท่านอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังเดือดร้อน ต้องการที่พึ่งทางใจก็ได้ หากท่านไม่ได้ทำเพราะหวังประโยชน์ส่วนตน หรือหลอกลวงผู้อื่น ก็น่าจะยอมรับได้ ขอบคุณบทความจาก http://www.komchadluek.net/detail/20160604/228916.html (http://www.komchadluek.net/detail/20160604/228916.html) |