สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 07, 2016, 09:18:09 pm



หัวข้อ: พระปล่อยเงินกู้-กินดอกเบี้ย กม.ให้ทำได้แต่ผิดธรรมวินัย
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 07, 2016, 09:18:09 pm


(http://www.dailynews.co.th/admin/upload/20160607/news_PKRuggCgFm114923_533.jpg)



พระปล่อยเงินกู้-กินดอกเบี้ย กม.ให้ทำได้แต่ผิดธรรมวินัย

ทนายความยันไม่มีกฎหมายใดห้ามไว้ อ้างฎีการะบุ “พระภิกษุ” ปล่อยเงินกู้กินดอกเบี้ยได้ ขณะผอ.กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ย้ำแม้ภิกษุถือเป็นนิติบุคคล แต่ขัดพระธรรมวินัย โทษสูงสุดลาสิกขาพ้นสมณเพศ

ยังคงไม่ได้ข้อยุติ หลังทั้ง 4 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากดีเอสไอ, วัดพระธรรมกาย, เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมกันหารือถกปมกรณีประสานมอบตัว และแจ้งข้อกล่าวหากับ พระเทพญาณมหามุนี หรือ “พระธัมมชโย” ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ทั้งนี้พระธัมมชโย ยืนเงื่อนไขขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนบางคน โดยอ้างว่าไม่ไว้วางใจ ตามที่ปรากฏในข่าวมาแล้วนั้น
 
ขณะที่ในโลกโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกเช่นเคย หลังทนายความชื่อดัง เจ้าของทวิตเตอร์ @tanaiwirat ได้โพสต์รูปภาพโดยมีข้อความอ้างฎีกา 3773/2538 ระบุ “รู้ยัง พระภิกษุปล่อยกู้กินดอกเบี้ยได้” เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 7 มิ.ย. “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมจากทนายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ด้วยว่า ข้อความดังกล่าวไม่ได้สนับสนุน แต่เป็นการให้ความรู้ โดยโจทก์ซึ่งเป็นพระภิกษุ ได้นำเงินส่วนตัวออกให้กู้ยืมคิดดอกเบี้ย ซึ่งไม่มีกฎหมายใดห้ามไว้ และไม่มีการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายห้าม จึงไม่ขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โจทก์มีสิทธินำสัญญากู้ยืมเงินมาฟ้องเรียกต้นเงินและดอกเบี้ยจากจำเลยได้
 
 :96: :96: :96: :96: :96:

“ฎีกาชิ้นนี้ตัดสินขณะโจทก์ ซึ่งคือพระภิกษุ ยังอยู่ในสมณะเพศ การที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนาให้กู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ย ไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 แม้จะบวชก่อนปล่อยกู้ หรือปล่อยกู้ขณะเป็นพระภิกษุและลาสิกขาออกไป กฎหมายไม่ได้เขียนห้ามไว้ แต่เมื่อผู้ปล่อยกู้เป็นพระภิกษุ จะขัดพระธรรมวินัยอย่างไร ต้องดูตามหลักคำสอนอีกที” ทนายความ ระบุ
 
ด้านนายประทีป พูลลาภ ผอ.กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนา เปิดเผยว่า แม้ในทางกฎหมายพระภิกษุถือว่าเป็นนิติบุคคล แต่สมณะที่ครองผ้ากาสาวะ (ผ้าเหลือง) อยู่นั้น ไม่สามารถทำได้ทุกกรณี เนื่องจากขัดแย้งต่อพระธรรมวินัยและกฎเถรสมาคม โดยกรณีเช่นนี้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาไม่มากนัก ซึ่งพศ.จะส่งให้เจ้าคณะจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งหากเป็นการกระทำครั้งแรก อาจเพียงว่ากล่าวตักเตือน หรือทำหนังสือสั่งห้ามเป็นลายลักษณ์อักษร แต่หากยังดื้อดึงกระทำผิดพระวินัยซ้ำ อาบัติเป็นอาจิณ จะมีบทลงโทษถึงที่สุด “ลาสิกขา” พ้นจากเพศสมณะของภิกษุ.

 
 
(https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-0/p526x296/13339650_10154893979509745_5287230547727859762_n.jpg?oh=af7539e0b985abb7242087a9df1654ed&oe=580927C0)
ไม่ได้สนับสนุน แต่เก็บไว้เป็นความรู้ !!


ขอบคุณภาพ : @tanaiwirat...
ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/501021 (http://www.dailynews.co.th/education/501021)