หัวข้อ: เปิดสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ 5 ยุค เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 11, 2016, 08:46:00 am (http://www.dailynews.co.th/admin/upload/20160610/news_ZmxDYSVERX173127_533.jpg) เปิดสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ 5 ยุค กรมศิลปากร อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุรวม 5 ยุคสมัย ให้ประชาชนสักการะ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร 10 มิ.ย.- 30 ต.ค.นี้ เฉลิมพระเกียรติในหลวงครองราชย์ 70 ปี วันนี้(10มิ.ย.) เวลา09.09 น.ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 5 ยุคสมัย18 รายการ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสักการะ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 7 รอบ 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) และประชาชน เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก (http://www.dailynews.co.th/admin/upload/20160610/news_KgqjrBZaHr173147_533.jpg) รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมศิลปากร ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีขณะบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ณ ดินแดนแห่งนี้ มาเป็นเวลายาวนานกว่า 1,400 ปี รวม 5 ยุคสมัย ได้แก่ ทวารวดี ล้านนา สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ซึ่งเก็บรักษาอยู่ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสาม พระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ รวม 18 รายการ มาประดิษฐานรวมกันเป็นครั้งแรก เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสกราบบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. ถึงวันที่ 30 ต.ค. 2559 ภายใต้ชื่อกิจกรรม “กราบบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เถลิงราชย์นวธรรมราชา” "พระบรมสารีริกธาตุถือเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศาสดาและเป็นหนึ่งในสิ่งมงคลสูงสุดที่พุทธศาสนิกชนสักการบูชา ซึ่งเมืองที่สำคัญจะมีการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในพระสถูปที่เป็นศูนย์กลางของบ้านเมือง เสมือนดั่งมีพระพุทธองค์เสด็จประทับเป็นประธานในบ้านเมืองนั้น และยังเป็นเครื่องยืนยันหรือประจักษ์พยานว่าพระมหากษัตริย์ ทรงปกครองบ้านเมืองและราษฎรโดยยึดมั่นอยู่ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จนได้รับสมัญญานามว่า"ธรรมราชา" และได้ทรงทำนุบำรุง และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรจนถึงปัจจุบัน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/501780 (http://www.dailynews.co.th/education/501780) |