สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 03, 2016, 09:36:02 am



หัวข้อ: เจอแล้ว.!! "ต้นมักกะลีผล" ที่ถูกแชร์สนั่นโลกโซเชียลฯ ที่แท้อยู่ "เพชรบูรณ์"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 03, 2016, 09:36:02 am
(https://1.bp.blogspot.com/-UUj8Df8hVs0/V3Kb28_OUMI/AAAAAAAAB4M/WWCy7PB1-9kwLzr-gtM6TKHyzdBFML0QwCLcB/s640/3.JPG)



เจอแล้ว.! "ต้นมักกะลีผล" ที่ถูกแชร์สนั่นโลกโซเชียลฯ ที่แท้อยู่ "เพชรบูรณ์" ผลห้อยโตงเตงเต็มต้น

จากกรณีที่ในโลกโซเชียลฯได้มีผู้โพสต์ภาพ "ต้นมักกะลีผล หรือ ต้นนารีผล"  ต้นไม้ในเทพนิยายที่ออกผลคล้ายกับหญิงสาวเปลือยกาย ว่ามีอยู่จริงที่ในสวนป่าหิมพานต์ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และมีการแชร์ต่อกันในโลกโซเชียลมีเดียร์ กันเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งผู้ที่มีความเห็นเชื่อว่าน่าจะมีอยู่จริง และผู้ที่ไม่เชื่อว่าจะมีอยู่จริง ขณะที่บางกระทู้ได้แชร์ว่ามีอยู่จริงแต่อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เขมร พม่า และ อินเดีย เป็นต้น

ล่าสุดได้มีผู้แชร์ต่อไปว่า มีอยู่จริงในพุทธธรรมสถานวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ จนทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงนี้ได้มีบรรดานักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญ หลั่งไหลกันเดินทางมาเที่ยวชม รวมทั้งผู้ที่ต้องการมาชมต้นมักกะลีผลที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว กันเป็นจำนวนมาก


(https://1.bp.blogspot.com/-sKJ5cG-59tc/V3KcJgWsx_I/AAAAAAAAB4U/yFusXXqe4DIIwQnoiJVDRj7QiAoJGYmMACLcB/s640/3.JPG)

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่สวนป่าหิมพานต์ ตั้งอยู่หมู่ 8 บ้านทุ่งตีนผา ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีเนื้อที่เกือบ 700 ไร่ มีการปลูกต้นไม้ที่หาชมยาก รวมทั้งรูปปั้นสัตว์ และต้นไม้ตามเทพนิยายในวรรณคดีหลากหลายชนิด โดยเฉพาะต้นมักกะลีผล หรือ ต้นนารีผล ที่เป็นกระแสโด่งดังที่ในสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้

นายบัญชา มหาแสน เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสวนป่าหิมพานต์ กล่าวว่า เจ้าของสวนป่าหิมพานต์ เป็นคนรักธรรมชาติ ชอบปลูกต้นไม้ และชอบศึกษาเกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า รวมทั้งเทพนิยายในวรรณคดีต่างๆ จึงได้จ้างช่างให้ทำการสร้างต้นมักกะลีผลขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539  โดยภายในลำต้นหล่อด้วยปูนซีเมนต์แล้วหุ้มด้วยไฟเบอร์กลาส ส่วน กิ่ง ก้าน ใบ และ ผล ทำจากไฟเบอร์กลาสทั้งหมดในราคา 350,000 บาท โดยมีกินรีผลอยู่ จำนวน 52 ตัว แต่ปัจจุบันได้ถูกนักท่องเที่ยว และชาวบ้าน ใช้ไม้ไผ่สอยขโมยไปจำนวนเกือบ 30 ตัว เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลของต้นมักกะลีผลจริงๆ


(https://4.bp.blogspot.com/-u0ZUUq-mjyc/V3Kckgjh5GI/AAAAAAAAB4g/VO1r17AamXAMseq6gypBvxpbWxIL6iczACLcB/s640/3.JPG)

(https://4.bp.blogspot.com/-QrytNQ7Jc8s/V3Kc4mtxXHI/AAAAAAAAB4o/JVGfHIIWFUsUPxO4tyhyxzsigdbBQ2irACLcB/s640/3.JPG)

นายบัญชา มหาแสน ยังกล่าวต่ออีกว่า ต้นมักกะลีผล เป็นต้นไม้อยู่ในวรรณคดี ในทศชาติชาดกในชาติที่ 10 เกี่ยวกับพระเวสสันดร เป็นบุตรของพระเจ้าสัญชัยและพระนางผุสดี และมีลูกชายก็คือพระเวสสัญดร ช่วงนั้นได้เกิดภัยพิบัติ ภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล พระเวสสัญดรก็ได้มอบช้างเผือก 1 คู่ ทำให้เกิดฝนตกต้องตามฤดูกาลขึ้นมา แต่พวกอำมาตย์กลับไม่พอใจ พระเจ้าสัญชัยก็เลยขับไล่พระเวสสัญดรให้เข้าไปอยู่ในป่า ซึ่งในป่าหิมพานต์ก็มีต้นมักกะลีผล ทางเจ้าของสวนป่าหิมพานต์จึงได้จินตนาการขึ้นมา เนื่องจากในทศชาติชาดกในชาติที่ 10 กล่าวไว้ว่า ต้นมักกะลีผล จะสูงใหญ่มากและจะออกลูกเป็นผู้หญิงเปลือยกาย โดยพระอินทร์เป็นผู้นิมิตรสร้างขึ้น เพื่อให้เหล่าคนธรรพ์ และพวกฤษีนั้น ลดละจากกามคุณทั้ง 5

จึงได้สร้างต้นมักกะลีผลต้นนี้ขึ้นมาในราคา 350,000 บาท สร้างมาได้ 10 กว่าปี ทำด้วยไฟเบอร์กลาส ข้างในจะเป็นปูนหุ้มด้วยไฟเบอร์กลาส ต้นนี้ จึงเป็นต้นที่จินตนาการขึ้นมามีเพียงต้นเดียว ในโลกนี้คิดว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะเป็นต้นไม้ในเรื่องทศชาติชาดก เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าจะแชร์ต่อ เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ทำจากจินตนาการ ของจริงไม่มี ส่วนที่เขาบอกว่ามีอยู่ที่อื่นๆอีกนั้น ตนก็ต้องขอดูก่อนถ้ามีลักษณะเหมือนกันก็แสดงว่าทำลอกเลียนแบบก๊อบปี้จากเรา ไป เพราะเราสร้างขึ้นมาเองทำขึ้นมาเอง ส่วนที่เขาไปแชร์ในเฟสบุ๊คว่าเป็นต้นไม้ที่มีชีวิตจริงๆนั้น ไม่มีชีวิตจริงๆเพราะว่าเป็นต้นไม้ที่เราสร้างขึ้นมาเอง ไม่มีชีวิตจริงๆและไม่น่าจะแชร์ต่อ


(https://1.bp.blogspot.com/-MJt9KNFsbd8/V3KdKZL8NEI/AAAAAAAAB40/2ISyirojyNwVhiCJdzstgxY0BtTsMNDmACLcB/s640/3.JPG)


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://topnewsth.blogspot.com/2016/06/blog-post_88.html (http://topnewsth.blogspot.com/2016/06/blog-post_88.html)


หัวข้อ: Re: เจอแล้ว.!! "ต้นมักกะลีผล" ที่ถูกแชร์สนั่นโลกโซเชียลฯ ที่แท้อยู่ "เพชรบูรณ์"
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 03, 2016, 05:58:07 pm
เอามาเล่าให้ฟัง