สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

จับสึกพระพม่า พิมพ์ซองผ้าป่าแอบอ้างชื่อวัดเรี่ยไรเงิน(คลิป)

วันที่ 12 กรกฎาคม เมื่อเวลา 13.00 น. นายจำนงค์ จันทรวงศ์ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลพัฒนาที่ 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนา ได้เข้าตรวจสอบภายในกุฏิพระหม่อง ใจดี  อายุ 71 ปี พระลูกวัดวัดเขางูสันติธรรม หมู่ 6 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าพระรูปดังกล่าวได้พิมพ์ซองผ้าป่าเป็นภาษาพม่า เพื่อแอบอ้างหาผลประโยชน์ ให้ลูกศิษย์ที่เป็นชาวพม่าไปเรี่ยไรเงิน

จากการตรวจสอบภายในกุฏิพระองค์ดังกล่าว พบซองผ้าป่าซึ่งเป็นซองจดหมายใช้ตรายางธรรมจักรมาประทับหลังซอง ส่วนภายในนั้นพิมพ์เป็นภาษาพม่า เชิญชวนให้มาทำบุญถวายผ้าไตรกับตนเอง โดยมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อใส่ไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังพบเงินสดกว่า 30,000 บาท อยู่ภายในกุฏิ โดยพระรูปดังกล่าวอ้างว่าเป็นเงินของตนเองที่มีคนมาร่วมทำบุญให้ และพบใบสุทธิพระซึ่งภายในมีการแก้ไขเลขประจำตัว ตรวจสอบเลขประจำตัวพบว่าเจ้าของใบสุทธิ  ชื่อนายหม่อง ใจดี อายุ 35 ปี แต่พระหม่อง ใจดี ที่ถูกจับนั้นอายุ 71 ปี และชื่อนายหม่องก็ถูกจำหน่ายออกจากสารบบไปนานแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องนำใบสุทธิดังกล่าวไปตรวจสอบอีกครั้งว่าได้ชื่อและนามสกุลรวมทั้งหมายเลขประจำตัวนี้มาได้อย่างไร

 :96: :96: :96: :96: :96:

น.ส.วราภรณ์ พงษ์ศักดิ์ อายุ 35 ปี ผู้ที่ได้รับซองผ้าป่า เล่าว่า มีชาวพม่านำซองผ้าป่ามาเรี่ยไรเงิน ซึ่งตนอยากจะร่วมทำบุญ  แต่เนื่องจากอ่านภาษาพม่าไม่ออก จึงได้ให้คนงานพม่าที่พูดไทยได้อ่านให้ฟัง ก็พบว่าซองนี้มาจากวัดเขางูสันติธรรม และเมื่อโทรศัพท์มาสอบถามตามเบอร์โทรที่มีในซองก็พบว่าเป็นพระอยู่ที่วัดเขางูสันติธรรมจริง ซึ่งวัดดังกล่าวนั้นมีญาติของตนเองเป็นเจ้าอาวาสอยู่  จึงได้มาสอบถามว่ามีการพิมพ์ซองผ้าป่าเป็นภาษาพม่าหรือไม่ ซึ่งทางวัดก็บอกว่าไม่มีการพิมพ์ซองผ้าป่ามานานแล้ว และถ้าเป็นภาษาพม่าด้วยแล้วไม่เคยพิมพ์เลย จึงคิดว่าน่าจะมีการแอบอ้าง จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบ

จากการสอบสวนพระหม่องให้การยอมรับว่า ตนเองนั้นเคยบวชที่วัดบ้านบ่อ อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี และย้ายมาจำพรรษาที่วัดเขางูสันติธรรม เมื่อปี 2549 และทางลูกศิษย์ได้ทำการจัดพิมพ์ซองผ้าป่ามาให้เพื่อแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ที่เคารพนับถือตนเองไปเรี่ยไรเพื่อนำเงินมาร่วมทำบุญ เพิ่งจะเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเงินที่ได้ก็แบ่งมาทำบุญที่วัดด้วย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าการเรี่ยไรผิดต่อวินัยสงฆ์ จึงได้ประสานกับพระสมุห์วศิน วิสุทโธ รักษาการเจ้าอาวาสวัดเขางูสันติธรรม เพื่อนำพระหม่องไปทำการสึกจากการเป็นพระ เพราะถ้ายังให้อยู่ก็จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับวัด พร้อมทั้งให้กลับไปอยู่ภูมิลำเนาของตัวเองต่อไป


ชมคลิปได้ที่
https://youtu.be/d9EBtGuNoHg (https://youtu.be/d9EBtGuNoHg)
ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news/209797 (http://www.matichon.co.th/news/209797)

นี่เป็นข้อบกพร่อง ที่ทางคณะสงฆ์ ไทย เรา บกพร่อง ไม่สามารถตรวจสอบ ทะเบียนประวัติผู้บวช เพียงเพราะต้องการให้ได้ยอด มาก ๆ เวลามีการจัดบวช ซึ่งชาวต่างประเทศ มักอาศัย ช่องว่างอันนี้ กับบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่นำเอาชื่อผู้ตายบ้าง ผู้หายสาปสูญไปเข้าทะเบียน เป็นคนบ้านนั้น แล้วก็มาเข้าบวช

    การบวช บวชจริง เป็นพระจริง แต่ทะเบียน ประวัติที่ยืนไว้ แสดงไว้ นั้นเป็นของปลอม ถูกสวมมา ดังนั้นเวลาท่านถูกส่งไปอยู่วัดใดวัดหนึ่ง ตามที่คณะสงฆ์ จัดงานส่งไปอยู่ จึงอยู่ได้ แต่มันก็จะมาปูดเรืองแดง ออกมา ก็อย่างกรณีอย่างนี้ ทำให้พระจริง ชาวไทย เดือดร้อน

   ช่วงที่อาจารย์ เข้ารักษา ที่ รพ. สระบุรี ก็มีพระลักษณแบบนี้ เข้ามาทำการรักษา แต่พอ รพ. ทำใบเบิกอะไรต่าง ๆ ตามสิทธิ์ ปรากฏ ทะเบียนฟ้องว่า ชื่อที่ใช้นั้น เป็นคนตายแล้ว ดังนั้น รพ. จึงเข้มข้นเรื่องบัตรประชาชน ไม่สนใจใบสุทธิ ทั้ง ๆ ที่ปลอมนี้ ไม่มีใยสุทธิ

    ตอนนั้นเข้า รพ. หน่วยงาน บัตร บ่นอาจารย์ ว่าต้องใช้บัตรประชาชน เราก็ตอบว่า บวชมาเป็น สิบ ๆ ปี บัตรประชาชนไม่มี มีแต่ใบสุทธิ เขาจะให้กลับไปเอา ตัวเราก็ปวดท้องอย่างมาก มันโอดโอย เลยกลายเป็นว่า หน่วยงานก็ใจดำ ต้องมีการโวยวายขึ้นมา

    หรือ พยาบาลก่อนตรวจ ก็เห็นว่า เราความดันขึ้นสูง เขาบอกให้ไปนอนเตียง แต่ว่า เราไปไม่มีใครไปด้วย ก็มายืนบ่นว่า ต้องเอาคนมาด้วย คิดดูสิ เราปวดท้องอย่างหนึก พยุงกายไม่ไหว พยาบาล มาพูดซ่ำแซะ เพียงแต่บอกว่า งานเขาหนัก อย่ามาทำให้เป็นภาระ เอาเนาะ คนปวดท้องจะยืนไม่ได้ แทนที่จะได้หาหมอ มันไล่เรากลับให้ไปหาคน ตามคนมาเข็นเตียง ตอนนั้นรู้สึกสงสาร โยม ดูเหมือนจะทุกข์ใจ แทนที่จะมองว่า ได้ดูแลพระเป็นบุญกลับมองว่า ทำให้เขาเดือดร้อน ก็เลยพูดกลับโยมไปว่า โยมกลับไปทำงานของโยมเถอะ ของฉัน แล้วแต่บุญแต่กรรม เถอะ พูดตรง ๆ ไปขอเข้าการรักษา โรงพยาบาล ไม่เคยมีความประทับใจสักครั้ง ทั้งที่หมอพยาบาล เจ้าหน้าที่ รพ มีการอบรมธรรม เข้าครอสธรรมะ แต่พวกที่อบรม นี้ไม่เคยเจอ เจอแต่พวกที่ไม่เคยเห็นไปอบมรม
 
   ปัญหา ของคณะสงฆ์ ที่เวลาจัดงานบวช พระเป็นหมู่ เอายอดตัวเลข ก็เลยขาดความรัดกุม ในการตรวจสอบผู้อบวช คนอื่นมองปัญหา ดูว่า เบา แต่ที่จริง มันนำซึ่งพระไม่ดี

    ส่วนตัวมองพวกนี้ เป็นการบวชที่โมฆะ เพราะให้ประวัตปลอม เจตนาหลอกลวง ไม่บริสุทธิ แต่ต้น วินัจฉัย คือ การบวชเป็นโมฆะ

    ;)

เพราะการแอบอ้าง หรือพระปลอมพวกนี้


ทำให้พระจริงอยู่ลำบาก ครับ