สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 07, 2016, 12:14:22 am



หัวข้อ: ยัน 'แกะสลักหลวงพ่ออู่ทอง' ไม่บุกรุก-ใช้พื้นที่เหมืองร้าง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 07, 2016, 12:14:22 am

(http://www.dailynews.co.th/admin/upload/20160905/news_ZnkVhOdIKE014525_533.jpg)


ยัน 'แกะสลักหลวงพ่ออู่ทอง' ไม่บุกรุก-ใช้พื้นที่เหมืองร้าง

สำนักพุทธศาสนาสุพรรณฯ ยืนขออนุญาตก่อสร้าง พระแกะสลักบนภูผา ถูกต้องทุกอย่าง วัดป่าเลไลย์ฯเป็นผู้ริเริ่ม หวังให้เป็นพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในโลก เผย ไม่ได้เป็นการบุกรุกหรือระเบิดภูเขา เพราะเป็นเหมืองร้าง

จากกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเซียล ถึงการสร้างพระแกะสลัก “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” หรือหลวงพ่ออู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี บนภูผาใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการรุกพื้นที่ป่าหรือไม่นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ย. นาอานนท์ รักผล เจ้าพนักงานศาสนสมบัติชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สุพรรณบุรี ได้ชี้แจงว่า การก่อสร้างพระดังกล่าว ได้มีการขออนุญาตถูกต้อง เดิมมีบริษัทได้สัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หินเมื่อปี 2534 จากนั้นไม่มีการต่อสัญญา เลยกลายเป็นเหมืองร้าง กระทั่งพระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลย์วรวิหาร เข้ามาพัฒนาเพื่อทำประโยชน์แก่ชาวเมืองอู่ทอง และพระพุทธศาสนาของ จ.สุพรรณบุรี โดยมีดำริจะสถาปนาพระพุทธรูปแกะสลักภูผาใหญ่ที่สุดในโลก และก่อสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัด เพราะก่อนหน้านี้สุพรรณบุรี ไม่มีพุทธมณฑลประจำจังหวัดมาก่อน โดยมีการขออนุญาตจากหน่วยงานราชการอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน พอได้รับอนุญาตจึงเริ่มดำเนินการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2560

 :25: :25: :25: :25:

ด้านพระธรรมพุทธิมงคล กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรียังไม่มีพุทธมณฑล หรือพื้นที่กว้างขวางสำหรับพุทธศาสนิกชน พื้นที่ก่อสร้างพระแกะสลักเป็นเนื้อที่กว้างราว 500 ไร่ ทางคณะสงฆ์จังหวัดไปขอใช้ประโยชน์ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี และขออนุญาตดำเนินการจากกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง แต่ไม่เป็นลักษณะของการบุกรุก หรือเข้าไประเบิดภูเขาเพื่อที่มาแกะสลักพระพุทธรูป เดิมเป็นที่ทิ้งขยะชาวบ้าน อาตมาเห็นว่าเป็นหน้าผาราบเรียบดี น่าจะสลักพระได้ จึงขอรับงานแกะสลักพระ จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรียินดีและอนุโมทนา โดยกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ตรงนี้ประมาณ 100 ไร่ พระพุทธรูปแกะสลักภูผาใหญ่ที่สุดนี้ จะเป็นโครงการที่ชาวพุทธทั่วโลกชื่นชมยินดี และให้ความสนใจเดินทางมากราบไหว้บูชา เพราะโครงการดังกล่าวถือเป็นที่สุดในโลก เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รอง ผวจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ตนเคยพาเพื่อนไปกราบไหว้พระแกะสลัก เพื่อความเป็นศิริมงคล และยังอดชื่นชมความฉลาดของคณะสงฆ์ ที่รู้จักใช้พื้นที่รกร้างให้เป็นพุทธสถานหรือพุทธมณฑล ในที่สุดพุทธมณฑลแห่งนี้ จะเป็นกันชนไม่ให้ผู้คนขยายพื้นที่บุกรุกป่าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย พอวันนี้มีบางคนใส่ร้ายป้ายสี มองด้วยสายตาที่เคลืองแคลง ใช้ถอยคำดูหมิ่นรุนแรง จาบจ้วง ให้ร้ายโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง.


ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/521572 (http://www.dailynews.co.th/regional/521572)