สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 30, 2016, 07:27:55 am



หัวข้อ: พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่อง “ฤกษ์ยาม” ไว้อย่างไร.?
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 30, 2016, 07:27:55 am


(http://www.madchima.net/forum/gallery/30_30_10_16_7_27_13.jpeg)


พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่อง “ฤกษ์ยาม” ไว้อย่างไร.?

ถาม : พระพุทธเจ้าตรัสถึงฤกษ์ยามไว้อย่างไรคะ.?

ตอบ : พระพุทธเจ้าตรัสถึงฤกษ์ยามไว้ในสุปุพพัณหสูตรไว้ดังนี้
        “ภิกษุ ทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้าก็เป็นเวลาเช้าที่ดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเที่ยง เวลาเที่ยงก็เป็นเวลาเที่ยงที่ดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกายประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นก็เป็นเวลาเย็นที่ดีของสัตว์เหล่านั้น”

ดังนั้น ฤกษ์ยามคือช่วงเวลาที่เหมาะสม สะดวก และมีความพร้อม ในการประกอบกิจการงานนั้น ๆ นั่นเองส่วนการหาฤกษ์ยามในการมุ่งประโยชน์นั้น ให้มองไปที่กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม คือ ทำดี พูดดี คิดดี หากมีครบทั้งสามอย่างเมื่อใดก็ถือว่าเป็นฤกษ์อันเป็นมงคล เป็นฤกษ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองหากประวิงเวลาในการทำดีก็จะพลาดฤกษ์ยามอันดี คือประโยชน์อันจะพึงมีพึงได้ไปได้

      ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในนักขัตตชาดกว่า
     “ประโยชน์ได้ล่วงเลย คนโง่เขลาผู้มัวคอยฤกษ์อยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้”    
     หากใครปรารถนาจะให้ชีวิตของตนมีแต่ความเป็นมงคลก็ต้องปฏิบัติตามมงคลนั้นๆ นั่นเอง



ธรรมะจากพระอาจารย์ ดร.พระมหาบวรวิทย์ รตนโชโต  : พระอาจารย์ผู้ไขปัญหา
http://www.secret-thai.com/category/dhamma-daily/ (http://www.secret-thai.com/category/dhamma-daily/)


หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่อง “ฤกษ์ยาม” ไว้อย่างไร.?
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ตุลาคม 30, 2016, 09:36:25 pm
ขออนุโมทนาสาธุ


หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่อง “ฤกษ์ยาม” ไว้อย่างไร.?
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ ตุลาคม 31, 2016, 11:34:44 am
ที่จริงหลายคนไปเข้าใจผิดว่า พระพุทธเจ้า ไม่ทำตามฤกษ์ยาม

คำว่า ฤกษ์ยามในพระพุทธศาสนา ไม่ได้หมายถึงไปดูดวงดาว อย่างพวกพราหมณ์ แต่ว่า ฤกษ์ยามของพระพุทธศาสนาหมายถึงกาลอันเหมาะสม

   พระพุทธเจ้า เป็นผู้เลือกฤกษ์ยามเช่นกัน ภาษาธรรมเรียกว่า กาลัญญุตา รู้จักกาลเวลา

   เช่นไปโปรด ปัญจวัคคีย์ ก็ต้องผ่าน การเสวยวิมุตติก่อน
   ไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร ก็ต้องไปปราบ ชฏิล 3 พี่น้องก่อน
   ไปโปรดพุทธมารดา ก็ดูกาลแห่งการเข้าพรรษา
   ไปโปรดพุทธบิดา ก็เช่นกัน

    แม้แต่การดับขันธปรินิพพาน ก็ต้องเลือกเมือง เลือกสถานที่ และเวลาอันเหมาะสม

   ดังนั้น ฤกษ์ยามในพระพุทธศาสนา นั้น หมายถึง กาลอันสมควร ไม่ใช่สอนไม่ให้ใช้ ฤกษ์ยาม เพราะฤกษ์ยามเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังเช่นกัน ถ้าไม่ใช่กาลอันเหมาะสม บางครั้งกระทำลงไปก็ไม่เกิดผล

   เหมือนชิงสุกก่อนห่าม

     ;)