หัวข้อ: 4 วิธีกล่าวขอโทษให้คนถูกใจ แบบนี้ไม่ให้อภัยก็เกินไปแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 18, 2016, 09:35:49 am 4 วิธีกล่าวขอโทษให้คนถูกใจ แบบนี้ไม่ให้อภัยก็เกินไปแล้ว ว่ากันว่า การขอโทษอย่างจริงใจเป็นกาวมหัศจรรย์ที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ได้ ไม่ว่าจะเจ็บแค้นเคืองโกรธกันด้วยเรื่องใดก็ตาม แต่รู้ไหมว่า คนแต่ละคนต้องการการขอโทษที่แตกต่างกัน แถมการเอ่ยคำขอโทษจากก้นบึ้งของหัวใจในบางครั้งอาจถูกมองว่าไม่จริงใจได้ด้วย ดอกเตอร์แกรี่ แชปแมน (Gary Chapman,PhD.) นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญการจัดการปัญหาชีวิตคู่แห่งสหรัฐอเมริกา และดอกเตอร์เจนนิเฟอร์ โทมัส(Jennifer Thomas, PhD.) ได้ระบุไว้ในหนังสือเรื่องThe Five Languages of Apology ว่า คนเรารับรู้ลักษณะการขอโทษที่ต่างกันถึง 5 แบบ :96: :96: :96: :96: คุณชอบการขอโทษแบบไหนกันนะ ลองจินตนาการว่าหากคนรักหรือเพื่อนฝูงทำผิดต่อคุณ สิ่งไหนที่คุณอยากได้ยินจากเขามากที่สุด 1. “ฉันเสียใจเหลือเกิน… ฉันรู้สึกแย่กับสิ่งที่ทำลงไปจริงๆ” 2. “ฉันผิดไปแล้ว… ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง” 3. “จะมีทางไหนบ้างไหมที่ฉันจะแก้ไขให้มันดีขึ้นหรือชดเชยให้คุณได้” 4. “ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว” 5. “ได้โปรดยกโทษให้ฉันเถิด” ans1 ans1 ans1 ans1 ตอบข้อ 1 แค่ “เสียใจ” ก็เกินพอ : คนที่เลือกข้อนี้มักเป็นคนฟอร์มจัด ไม่ค่อยแคร์สังคม หรือไม่ก็ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มีอีโก้สูงเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นคุณจึงเข้าใจดีว่า กว่าที่ใครสักคนจะยอมเอ่ยปากว่าเขาเสียใจที่ทำให้คุณเป็นทุกข์ เขาต้องออกแรงทลายกำแพงแห่งอัตตามากทีเดียว เพราะเหตุนี้เพียงได้ยินคำขอโทษ คุณก็แทบจะหุบยิ้มไว้ไม่อยู่แล้ว ตอบข้อ 2 ยืดอกรับผิดชอบ : ถ้าความโกรธของคุณละลายไปแทบจะทันทีที่คู่กรณียอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายผิด แสดงว่าคุณเป็นคนที่ยึดติดกับเรื่องแพ้ชนะอยู่ไม่น้อยทว่าขอเพียงเขาหรือเธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น คุณก็ไม่ต้องการอะไรอีก คนเลือกข้อสองมักเป็นคนเจ้าระเบียบ รักความยุติธรรม แต่เอาใจไม่ยาก ใครที่มีคนรักแบบนี้ หากมีปากเสียงกัน การรับผิดไว้ก่อน (แม้จะไม่ผิด) จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตอบข้อ 3 ชดใช้ + ชดเชย + แก้ไข = ขอโทษอย่างจริงใจ : คนเลือกข้อสามเป็นคนเชื่อคนยาก และชอบพิสูจน์ความจริงใจจากการกระทำมากกว่าคำพูด ดังนั้นเพียงการขอโทษและการยอมรับผิดยังไม่สามารถทำให้เขาหายโกรธได้ ใครที่อยากง้อคนกลุ่มนี้ ควรถามเขาตรงๆ ว่าพอจะมีวิธีที่คุณจะแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดไปได้หรือไม่ เพราะการเสนอตัวกลับไปแก้ไขจะทำให้ความโกรธสลายไปได้ง่ายที่สุด ตอบข้อ 4 สัญญาว่าจะไม่ผิดซ้ำ : คนตอบข้อสี่ต้องการหลักประกันว่าจะไม่เจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เสียใจแบบเดิมอีกในอนาคต และสิ่งที่อยากได้ยินที่สุดก็คือ คำสัญญาว่าจะไม่ทำผิดซ้ำสอง ที่จริงแล้วคนเลือกข้อสี่ไม่ใช่คนโกรธง่าย ต้องเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ จึงจะโมโหสักครั้ง อย่างไรก็ดี ใครที่สัญญาอะไรไว้ต้องพยายามทำตามคำสัญญาของตนด้วย มิฉะนั้นเขาอาจจะไม่อยู่ให้คุณขอโทษอีกก็เป็นได้ ตอบข้อ 5 “ง้อ” เท่านั้นที่ฉันต้องการ : คนตอบข้อห้าควรยอมรับมาเถอะว่า คุณจะยิ้มออกทันทีหากคนรักหรือเพื่อนขอร้องว่า “โปรดยกโทษให้ผมเถิด” เพราะสิ่งที่คุณต้องการก็คือการบอกว่าคุณสำคัญต่อเขาขนาดไหน สำหรับคนกลุ่มนี้ การขยันง้อ ขยันบอกรัก หรือขอฟังความคิดเห็นของเขาบ่อยๆ จะทำให้เขารู้สึกดีกับเรามากขึ้น :96: :96: :96: :96: แบบสอบถามนี้นอกจากจะทำให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้นแล้ว คุณยังสามารถนำไปถามคนรักหรือเพื่อนๆ ได้ด้วย เพราะถ้าคุณรู้ว่าเมื่อทำผิด เขาอยากได้ยินประโยคไหนจากคุณมากที่สุด ก็จะทำให้คุณสามารถเอ่ยคำขอโทษได้โดนใจเขามากขึ้น นอกจากนั้นหากคุณทำตามข้อแนะนำ 4 ข้อต่อไปนี้ รับรองว่าคำขอโทษของคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. เห็นความสำคัญของการขอโทษ จำไว้ว่า การขอโทษ เป็นการเปิดประตูไปสู่การให้อภัย อย่าทำตัวเป็นคนปากหนักที่คิดว่าถ้ารักกันจริงต้องอภัยให้กันได้ หรือคิดว่า เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าคุณรู้สึกผิด ไม่เห็นต้องบอก เพราะบางครั้งเขาก็ต้องการให้คุณยืนยันว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง 2. ไม่ผิดก็ขอโทษได้ การกล่าวคำขอโทษโดยที่ตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเป็นการส่งต่อความรู้สึกดีๆ “ทางอ้อม” ที่เขาจะตระหนักได้ทันทีว่าคุณยังห่วงใยเขาอยู่ 3. อย่ารอเวลาที่ใช่ หลายคนประวิงเวลาที่จะเอ่ยคำขอโทษโดยอ้างว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม พูดแล้วจะกลายเป็นการรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ที่ทำให้ไม่สบายใจ หรือยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องจัดการ ฯลฯ แต่ยิ่งทิ้งเวลาให้เนิ่นนานออกไปก็ยิ่งเอ่ยปากยากขึ้น ทางที่ดีจึงควรเอ่ยคำขอโทษทันทีที่รู้ว่าตัวเองทำผิด 4. ขอโทษบ่อยเท่าที่ต้องการ ถ้าคุณแสดงความรู้สึกผิด แล้วคู่กรณียังไม่ยกโทษให้ ก็อาจเปลี่ยนเป็นเสนอตัวรับผิดชอบ และถ้ายังไม่ได้ผลอีก คุณก็อาจง้อด้วยการสัญญาว่าจะไม่ทำผิดซ้ำ และถ้ายังไม่ได้ผล คุณก็สามารถเปลี่ยนวิธีขอโทษอย่างใหม่ได้อีก ขอให้คุณมีความเอาใจใส่ ตั้งใจจริงและไม่ท้อถอย เขาต้องสัมผัสความจริงใจของคุณได้อย่างแน่นอน :49: :49: :49: :49: มาฝึกขอโทษกันเถอะค่ะ เพราะสิ่งนี้มีพลังวิเศษจริงๆ เหมือนที่มาร์กาเร็ต ลี รันเบค (Margaret Lee Runbeck) นักเขียนชาวอเมริกันกล่าวไว้ว่า “การขอโทษคือน้ำหอมสุดมหัศจรรย์ที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศวุ่นวายสับสนให้กลายเป็นของขวัญล้ำค่าขึ้นมาได้” ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.goodlifeupdate.com/30252/healthy-mind/howtosaysorry/ (http://www.goodlifeupdate.com/30252/healthy-mind/howtosaysorry/) |