สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 22, 2016, 12:30:53 pm



หัวข้อ: มองให้เป็นเห็นแต่ความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 22, 2016, 12:30:53 pm
(http://www.goodlifeupdate.com/wp-content/uploads/2016/05/happyy-696x365.jpg)


มองให้เป็นเห็นแต่ความสุข
บทความให้กำลังใจจากนายแพทย์ชวโรจน์

ผมมีโอกาสดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดระยะแพร่กระจายรายหนึ่ง เธออายุ 48 ปีไม่เคยมีโรคประจำตัวใดๆ ไม่เคยป่วยจนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล และที่สำคัญเธอไม่เคยสูบบุหรี่หรือสูดดมควันไฟที่ทำให้เสี่ยงเป็นโรคนี้มาก่อนเลย ยิ่งไปกว่านั้นผมเพิ่งทราบประวัติเพิ่มเติมภายหลังจากลูกชายว่าเธอเป็นคนใจบุญ ชอบเข้าวัดฟังธรรมและทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมออีกด้วย

1 เดือนก่อนผมพบกับคุณน้าคนนี้ที่โรงพยาบาล ท่านมาตรวจด้วยเรื่องหายใจเหนื่อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด รับประทานอาหารได้น้อย และปวดท้องมาก ผมตรวจพบว่าปอดข้างขวาของเธอมีเสียงผิดปกติ และคลำพบก้อนบริเวณช่องท้องด้านบน จึงสั่งตรวจเอกซเรย์เพิ่มเติม ระหว่างรอผลการตรวจผมพอมีเวลาจึงชวนคุย คุณน้าเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย และเป็นกันเองเธอดูมีความสุขมากเวลาพูดถึงการไปทำบุญที่วัด เธอเล่าว่า มีอาการเป็น ๆ หาย ๆมานานแล้ว แต่เกรงใจลูกชายจึงไม่ได้บอก ได้แต่ซื้อยามารับประทานเองแถมยังพูดติดตลกว่า

“ป้าคงไม่เป็นมะเร็งใช่ไหมหมอ ถ้าเป็น ป้าคงทำใจลำบาก ยังอยากอยู่ทำบุญอีกหน่อย”

แต่แล้วชีวิตจริงก็เล่นตลกกับเธอ เมื่อผลการตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอดและอยู่ในระยะแพร่กระจาย หลังรู้ผลการตรวจ สีหน้าท่าทางของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

 :96: :96: :96: :96:

2 สัปดาห์ก่อน อาการของเธอแย่ลงอย่างรวดเร็ว ลูกชายเล่าว่า เมื่อกลับไปถึงบ้าน เธอมีอาการซึมเศร้า รับประทานอาหารได้น้อยกว่าเดิมและไม่ยอมรับประทานยาที่ให้ คอยแต่พูดตัดพ้อ พร่ำบ่นว่าเธอโชคร้าย ทำดีมาทั้งชีวิต แต่ได้รับการตอบแทนด้วยการป่วยเป็นโรคมะเร็ง

1 สัปดาห์ก่อน ลูกชายของเธอยังคงดูแลมารดาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาเขารู้ดีว่าแม่จะอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้เธอไม่ยอมรับประทานอะไรนอนซึมและเหม่อลอยแทบตลอดเวลา เวลานอนมักละเมอและตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ลูกชายพยายามให้เธอมีความสุข เขานิมนต์พระภิกษุมาที่ห้อพักแทบทุกวัน เพื่อให้แม่ถวายสังฆทานเฉกเช่นที่เคยทำแล้วมีความสุข แต่นั่นดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้แม่ดีขึ้นเลย

และเพียงหนึ่งเดือนหลังจากตรวจพบโรค เธอก็จากโลกนี้ไปเร็วกว่าผลการพยากรณ์ตามระยะของโรค และที่สำคัญ ลมหายใจสุดท้ายของเธอเป็นลมหายใจพร้อมคราบน้ำตาบนใบหน้า เป็นการจากไปแบบไม่สงบสุข เธอคงคิดไม่ถึงว่าได้สร้างบาดแผลไว้ในใจของลูกชายที่เธอรักเสียแล้ว

 ans1 ans1 ans1 ans1

“แม้เป็นคนดี แต่ก็อาจไม่ใช่คนที่มีความสุข”

ผมเริ่มเข้าใจประโยคนี้เมื่อนึกทบทวนถึงเรื่องราวของผู้ป่วยรายนี้ เธอหมั่นทำแต่ความดีมาตลอดชีวิต เธอมีครอบครัวที่ดี มีลูกชายที่เอาใจใส่ดูแลไม่เคยห่าง แม้กระทั่งยามป่วยก็พยายามหาทางให้เธอทำในสิ่งที่เคยทำแล้วมีความสุขความสุขอยู่รายล้อมรอบตัวเธอ แต่เหตุใดเธอจึงดูไม่มีความสุขหรือเพราะเธอมองไม่เห็นความสุข

การจะมองเห็นความสุขที่มีอยู่หรือไม่นั้น ควรเริ่มจากการฝึกยอมรับสภาพตามความเป็นจริงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เมื่อใจยอมรับความจริงได้ จิตใจก็จะนุ่มนวลอ่อนโยน และสงบลงโดยอัตโนมัติ จิตใจที่สงบนี้คือรากฐานที่ทำให้เราเปิดรับความสุขได้อย่างง่ายดาย

ความสุขหรือความทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเป็นผลมาจากเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นมาชั่วคราวในชีวิตของเรา ท่าทีและการยอมรับตามความเป็นจริงต่อเหตุการณ์นั้น ๆ เป็นตัวกำหนดว่าเราจะมีความสุขหรือความทุกข์ เพราะเราเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่ได้ แต่สามารถกำหนดท่าทีและความรู้สึกที่มีต่อเหตุการณ์นั้น ๆ ได้ถ้าเรามองเป็นก็จะเห็นความสุข


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.goodlifeupdate.com/30178/healthy-mind/hapiness/ (http://www.goodlifeupdate.com/30178/healthy-mind/hapiness/)