หัวข้อ: กรมศิลป์ชี้ เสมาโบราณบ้านเล้า มีอายุราว 1,200 ปี ในยุคทวารวดี เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 14, 2017, 01:20:19 pm (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/01/201701131623012-20041021173804.jpg) กรมศิลป์ชี้เสมาโบราณบ้านเล้ามีอายุราว 1,200 ปีในยุคทวารวดี นอภ.ขออย่าลูบ-ทาแป้ง-ปิดทอง วันที่ 13 มกราคม 2560 จากกรณีที่ชาวบ้านได้พบใบเสมาหินทรายที่บริเวณแปลงนาของนางทิพันธ์ วันชูพริ้ง และได้เคลื่อนย้ายมาเก็บรักษาไว้ที่วัดชัยศรีบ้านเล้า หมู่ที่ 6 บ้านเล้า ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของชาวบ้าน ที่สลับเปลี่ยนมาเฝ้าดูป้องกันมิจฉาชีพเข้ามาขโมย และประชาชนที่ทราบข่าวได้เดินทางมากราบไหว้จำนวนมาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. นายสัมฤทธิ์ กิตติโชค สุขสงค์ นายอำเภอกมลาไสย และนางสาวสุภาวดี อินทรประเสริฐ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 10 จ.ร้อยเอ็ด พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังวัดชัยศรีบ้านเล้า เพื่อตรวจสอบใบเสมาหินทรายโบราณที่พบใหม่ 1 ชิ้น และที่พบก่อนหน้านี้อีก 3 ชิ้น ก่อนลงพื้นที่สำรวจจุดขุดค้นพบที่แปลงนานางทิพันธ์ วันชูพริ้ง และที่บริเวณดอนอารักษ์ หรือดอนปู่ตาพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเล้า โดยมีธวัธชัย ศรีขัดเค้า กำนันตำบลหลักเมือง นายวัฒนา นาสมหมาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านเล้า และชาวบ้านจำนวนมากนำสำรวจ นางสาวสุภาวดี กล่าวว่า สำหรับใบเสมาหินทรายที่พบใหม่ล่าสุดมีภาพจำหลักน่าจะเป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติ รูปทรงขนาดใหญ่ ทำจากหินทรายสีแดงสมัยทวารวดี มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-16 หรือราว 1000-1200 ปี ใกล้เคียงกับที่พบในพื้นที่เมืองฟ้าแดดสงยาง และจากการลงพื้นที่สำรวจจุดค้นพบได้ทราบว่าก่อนหน้านี้บริเวณแปลงนาของนางทิพันธ์ฯ ได้พบมาก่อน 2 ชิ้น เป็นใบเสมาหินทรายเช่นเดียวกันแต่ไม่มีภาพจำหลัก ลักษณะที่พบใบเสมาวางราบกับพื้นและในบริเวณคาดว่าน่าจะมีในใต้ดินอยู่อีก นอกจากนี้ยังพบว่ามีใบเสมาขนาดใหญ่สูงเกือบ 2 เมตร อีก 1 ชิ้นโดยชาวบ้านระบุว่าพบในเขตดอนอารักษ์ หรือดอนปู่ตาของบ้านเล้า ห่างจากจุดที่พบใหม่ประมาณ 1 กม.เท่านั้น (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/01/201701131623018-20041021173804-768x512.jpg) “พื้นที่ที่พบใบเสมาโบราณสันนิษฐานว่าในอดีตเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกกำหนดเขตแดนด้วยหลักใบเสมาโบราณเป็นคติความเชื่อตามหลักพระพุทธศาสนา โดยที่พบในเขตบ้านเล้า ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จะมีทั้งไม่มีลวดลายและมีภาพจำหลัก ใบใหญ่ที่สุดทราบว่าพบตั้งแต่ปี 2537 ต่อมาก็พบเป็นเศษของใบเสมาหินทรายที่ไม่สมบูรณ์นัก กระทั่งในเดือน ต.ค. 2558 พบใบเสมาหินทราย 2 ชิ้น และมาพบอีก 1 ชิ้น ในบริเวณเดียวกัน โดยชาวบ้านได้นำมาตั้งไว้หน้าศาลาการเปรียญวัด และสร้างศาลาหลังเล็กป้องกันแดดลมและฝน ส่วนใบที่พบใหม่ตั้งอยู่กลางแจ้งที่จะต้องฝากให้ชาวบ้านช่วยดูแลรักษา แต่ทั้งนี้ก็จะส่งข้อมูลให้ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ในขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ส่วนพิพิธภัณฑ์ ก็จะเข้ามาตรวจสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ เป็นสมบัติของชาติและแผ่นดิน ซึ่งต่อจากนี้ก็จะฝากให้ชาวบ้านเล้าได้ช่วยกันดูแลรักษาต่อไป” นางสาวสุภาวดี กล่าว (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/01/201701131623015-20041021173804-768x512.jpg) ด้านนายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย โดยทางชาวบ้านได้จัดตั้งเต้นท์รองรับประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้ เป็นการอำนวยความสะดวก และหลังจากการพูดคุยกับนักโบราณคดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปในเรื่องของการรักษาวัตถุโบราณ ในอนาคตคงจะต้องสร้างอาคารครอบบริเวณลานพระประธานพระพุทธมิ่งมงคลมหาโชคชัย แบบถาวร และนำใบเสมาที่เก็บรักษาไว้ในวัดชัยศรีบ้านเล้าทั้งหมดมาไว้ที่เดียวกัน โดยหวังให้เป็นพื้นที่ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ รวมถึงให้ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ดูแลทรัพย์อันมีค่าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนของประชาชนทั่วไปที่เดินทางมากราบไหว้บูชาใบเสมาโบราณ ต้องขอร้องงดการลูบ ทาแป้ง ปิดทองและการสรงน้ำเนื่องจากจะเป็นการทำลายวัตถุโบราณที่เป็นหินทรายที่กร่อนง่ายเสียหายได้ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news/426560 (http://www.matichon.co.th/news/426560) |