สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มกราคม 21, 2017, 09:21:34 am



หัวข้อ: "วัดนาคกลางวรวิหาร" สักการะพระเจ้าตากสิน พระ​อิริ​ยาบ​ถ​ 9 ครึ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 21, 2017, 09:21:34 am



"วัดนาคกลางวรวิหาร"
สักการะพระเจ้าตากสินฯ พระ​อิริ​ยาบ​ถ​ 9 ครึ่ง มหาราชแห่งเมืองธนบุรี

 
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699401.JPEG)
ศาลาสุธรรมภาวนา (ศาลาพระเจ้าตาก)

        ใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ ถ้าได้ไปทำบุญให้จิตใจชื่นบานคงจะดีไม่น้อย ยิ่งวัดวาอารามในกรุงเทพฯ มีมากมายตั้งหลายแห่ง แต่ถ้าพูดถึงวัดเล็กๆ แต่มีเรื่องราวที่น่าสนใจที่ซ่อนอยู่ สำหรับฉันแล้ว “วัดนาคกลางวรวิหาร” ก็เป็นวัดที่น่าสนใจไม่น้อย

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699402.JPEG)
ที่ประดิษฐานหลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ

        “วัดนาคกลางวรวิหาร” ตั้งอยู่ที่ เขตบางกอกใหญ่ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร โดยสันนิษฐานว่าแต่เดิมเป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่สมัยในพระเจ้าตากสินมหาราชนั้น วัดแห่งนี้ถือว่าตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน เพราะห่างจากพระราชวังเพียงแค่ 500 เมตรเท่านั้น วัดแห่งนี้จึงมีความสำคัญในสมัยกรุงธนบุรีเป็นอย่างมาก

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699404.JPEG)
หลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ

        นอกจากนั้นฉันได้ทราบมาอีกว่าที่วัดแห่งนี้ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ที่ชาวบ้านนับถือกัน นั่นคือ หลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ ประดิษฐานที่มณฑปจัตุรมุขเป็นพระพุทธรูปปางหนึ่งที่มีความเก่าแก่ ซึ่งเรียกว่า ปางฉันสมอ หรือปางถือผลสมอ มีพระพุทธลักษณะแบบปางมารวิชัยคือนั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลาทรงผลสมอ (ผลสมอเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ทรงพระบรมพุทธานุญาตให้พระภิกษุสามเณรฉันได้ตลอดเวลาแม้ในยามวิกาลเพราะเป็นเภสัชขนานเอก) พระหัตถ์ขวาคว่ำลงที่พระชานุหล่อด้วยโลหะ หน้าตักกว้าง 29 นิ้ว สูงจากฐานถึงพระเกศ 47 นิ้ว ห่มจีวรคล้ายแบบจีนและทิเบต พระเกศแบบบัวตูม นัยว่าแต่เดิมประดิษฐานอยู่ทางภาคเหนือ ได้ถูกอัญเชิญเคลื่อนย้ายเข้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์และมาประดิษฐานเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประจำวัดนาคกลางวรวิหาร จนถึงทุกวันนี้ โดยหลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ มีชื่อในเรื่องพระที่มีพุทธคุณเด่นในด้านรักษาโรคภัยไข้เจ็บ จึงมีคนที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บไปกราบไหว้ขอพรให้หายจากอาการที่เป็นอยู่ ส่วนคนปกติทั่วไปก็จะไปขอพรไม่ให้เจ็บป่วยกัน

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699405.JPEG)
หลวงพ่อพระพุทธประสิทธิ์ พระประธานในพระอุโบสถ

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699406.JPEG)
ภาพเขียนลายไทยเล่าประวัติของพระพุทธเจ้า

        จากนั้นเดินไปพระอุโบสถหลังใหญ่ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะทรงไทย หลังคา 3 ชั้น มุงกระเบื้องประดับช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ ส่วนพระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดคือ หลวงพ่อพระพุทธประสิทธิ์ พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ ลงรักปิดทอง พร้อมทั้ง พระพุทธรูปบูชาต่าง ๆ และพระอัครสาวกเบื้องขวา เบื้องซ้าย ในกำแพงพระอุโบสถยังมีภาพวาดภาพเขียนลายไทยเล่าประวัติของพระพุทธเจ้าให้ได้ชมกันอีกด้วย

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699407.JPEG)
บรรยากาศภายนอก ศาลาสุธรรมภาวนา

        อย่างที่ฉันบอกไปข้างต้นว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี และที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง วัดแห่งนี้จึงได้มีความผูกพันกับพระองค์ท่าน เพราะพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ทรงมีต่อพระพุทธศาสนา พระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชสมัยของพระองค์ คือ การกอบกู้เอกราชจากพม่าหลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง และยังทรงส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา โดยมีเรื่องเล่าไว้ว่า พระภิกษุรูปหนึ่งที่อยู่ในพระวิหารได้นิมิตรว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอยากมาประทับที่วัดนาคกลางวรวิหารแห่งนี้ โดยในนิมิตให้ไปอัญเชิญพระบรมรูปของพระองค์ พระภิกษุรูปนั้นพร้อมทั้งญาติโยมจึงไปหาตามนิมิตร และก็ได้พบพระบรมรูปที่ปั้นด้วยดินเหนียวตั้งอยู่ระหว่างวัดเครือวัลย์ กับกองทัพเรือ จึงได้มีการอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดนาคกลาง โดยสร้างศาลขึ้นแต่ปัจจุบันไม่มีศาลนั้นแล้ว เหลือแต่พระบรมรูปที่ทางวัดได้ซ่อมแซมบูรณะเก็บไว้เป็นอย่างดี

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699408.JPEG)
พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในพระอิริยาบถต่าง ๆ จำนวน 9 พระองค์ครึ่ง
       
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699409.JPEG)
พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชครึ่งองค์

        จากนั้นทางวัดจึงได้สร้าง ศาลาสุธรรมภาวนา (ศาลาพระเจ้าตาก) ตั้งอยู่ทางซ้ายมือของพระอุโบสถ ภายในศาลาสุธรรมภาวนา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนิมิตฯ หรือหลวงพ่อทอง และพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในพระอิริยาบถต่าง ๆ จำนวน 9 พระองค์ครึ่งอาทิ ปางนั่งเมือง ปางทรงม้า (แบบวงเวียนใหญ่) ปางทรงม้า (แบบจันทบุรี) ปางยืน (ออกรบ) ปางยืน (ทรงเครื่องพระมหากษัตริย์) ปางอุบาสก (นั่งวิปัสสนา) ปางอุบาสก (เดินจงกลม) ปางผนวช (นั่งวิปัสสนา) และปางผนวช (ยืนทรงบาตร) และพระบรมรูปครึ่งองค์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าของศาลาพร้อมทั้งทหารเสือคู่พระทัย เพื่อเป็นการสืบสานตำนานพระเกียรติคุณ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระวีระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพคืนสู่แผ่นดินไทย

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000000699410.JPEG)
คลองมอญ

        นอกจากนั้นจุดด้านหลังยังมีจุดให้ชมคลองมอญ เป็นคลองธรรมชาติคลองหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างเขตบางกอกใหญ่กับเขตบางกอกน้อย ที่มาของชื่อคลองมาจากที่ริมสองฝั่งคลองเป็นชุมชนชาวมอญเรียงรายกันไปตลอดแนว เป็นจุดสัมผัสบรรยากาศริมน้ำไปอีกแบบ
       
       วัดนาคกลางเป็นวัดเล็กๆ ที่ถือว่ามีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจ หากวันหยุดไม่รู้จะไปไหนก็ลองมาไหว้สักการะเยี่ยมชม  “วัดนาคกลางวรวิหาร” ดูสักครั้ง
       
       สำหรับศาลาสุธรรมภาวนานี้ ทางวัดเปิดให้ท่านสาธุชนทั้งหลายได้เข้าสักการบูชา ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึงเวลา 17.00 น. ทุกวัน


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000006698 (http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000006698)