สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2017, 09:33:29 pm



หัวข้อ: กรมอนามัย เผย พระสงฆ์ไทยฟันผุสูง แนะ 6 วิธีดูแลฟัน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2017, 09:33:29 pm



(https://www.khaosod.co.th/wp-content/uploads/2017/02/monkSDC1443201.jpg)


กรมอนามัย เผย พระสงฆ์ไทยฟันผุสูง แนะ 6 วิธีดูแลฟัน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย พระสงฆ์ไทยร้อยละ 96 ฟันผุ เหตุฉันอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลในปริมาณมาก และขาดการทำความสะอาดช่องปากที่ดี พร้อมแนะ 6 วิธีดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน

นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า พระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากมีปัญหาสุขภาพช่องปาก ทั้งโรคฟันผุโรคเหงือกอักเสบรวมถึงโรคปริทันต์บางครั้งพบเป็นทั้งโรคฟันผุและโรคปริทันต์ในเวลาเดียวกันทั้งที่ยังอายุน้อย  จากการสำรวจสุขภาพฟันพระภิกษุสงฆ์โดยกระทรวงสาธารณสุข ปี 2556 พบว่า มีฟันผุถึง ร้อยละ 96 ซึ่งสูงกว่าการมีฟันผุในประชากรวัยทำงาน 35-44 ปี ที่พบฟันผุร้อยละ 86 โรคฟันผุในพระภิกษุสงฆ์และสามเณรอาจจะเนื่องมาจากอาหารที่ญาติโยมนำมาใส่บาตรหรือนำมาถวาย นอกจากควรลดอาหารประเภทหวาน มัน เค็มแล้ว ควรคำนึงถึงเครื่องดื่ม เช่นชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือน้ำหวานต่างๆ ซึ่งมีส่วนประกอบน้ำตาลอยู่ในปริมาณมาก เมื่อฉันบ่อยๆ และไม่ทำความสะอาดช่องปากให้เพียงพอและถูกวิธีก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุมากขึ้น นอกจากนี้ พระสงฆ์และสามเณรไม่ค่อยมีโอกาสมาพบทันตแพทย์ โรคในช่องปากจึงอาจลุกลามไปจนถึงขั้นสูญเสียฟัน

 :96: :96: :96: :96:

     “ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพช่องปากพระสงฆ์และสามเณรสามารถทำได้โดย
    1) แปรงฟันให้สะอาดด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งหลังฉันอาหาร ควรแปรงลิ้นด้วยทุกครั้งหากแปรงฟันทันทีไม่ได้ ให้บ้วนปากให้สะอาดทุกครั้งหลังมื้ออาหารควรใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันทั่วทุกซี่ วันละ 1 ครั้งก่อนนอน 
    2) เน้นผัก ผลไม้ เพื่อเสริมสร้างฟันให้แข็งแรงและมีเส้นใยช่วยทำความสะอาดฟันผลไม้จำพวก แตงกวา ฝรั่ง มะเขือเทศ ชมพู่    จะช่วยในการทำความสะอาดฟัน อาหารที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม สับปะรด กะหล่ำปลี แครอท ผักคะน้า มีความสำคัญ  ในการรักษาเหงือก ฟัน กระดูกอาหารที่มีวิตามินบี2 เช่น ถั่วลิสง รำ ถั่วเหลือง มะม่วง จะช่วยป้องกันมุมปากแตก ลิ้นอักเสบ
    3) พบทันตบุคลากรเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างน้อยปีละ1ครั้งและตรวจสุขภาพในช่องปาก     ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบสิ่งผิดปกติควรรีบไปรักษา
    4) หลีกเลี่ยงการฉันลูกอม ลูกกวาด ท็อฟฟี่ ขนมกรุบกรอบของจุบจิบ ขนมหวานเหนียว หรือขนมหวานจัด
    5) ไม่ควรสูบบุหรี่หรือใช้ยาสูบทุกประเภทเพราะทำให้ช่องปากสกปรกมีกลิ่นปากเหงือกอักเสบและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งช่องปาก และ
    6) ไม่ใช้ฟันกัดหรือขบของแข็ง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด



ขอบคุณภาพข่าวจาก
https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_219833 (https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_219833)