พิมพ์หน้านี้ - วันหนึ่ง ฉันทำอะไร ขณะนี้

วันหนึ่ง ฉันทำอะไร ขณะนี้
ชีวิตช่วงนี้ดูไร้สาระ นะ แต่ใครอยากเอาเป็นแบบอย่าง ก็เชิญนะ
๑ ตื่นเช้า ตื่นสาย ตื่นบ่าย ตื่นค่ำ เป็นเพราะว่า อธิษฐานนอนไม่เป็นเวลา คืออธิษฐาน ง่วงก็นอน ( เพราะว่า ไม่มีกิจกรรมอะไรเลย กับ ใคร ) จะบอกว่านอนก็ไม่เชิง ส่วนใหญ่ จะเป็นนั่งหลับ เพียงแต่ว่า มันอยู่นอกพรรษาจึงไม่ได้อธิษฐาน ไม่นอน เอาเป็น หลับ ก็แล้วกัน ระยการหลับก็สักประมาณ ๒ ถึง ๔ ชม ถ้านอนก็ สี่ ถ้านั่งก็ สอง
๒ ตื่นแล้ว สิ่งที่ต้องทำทุกครั้งเป็นนิสัยคือการกราบไหว้ พระรัตนตรัย ครูอาจารย์ และ ขอขมา และทำการอธิษฐาน ว่าข้าพเจ้าจักพยายามต้งมั่นศึกษาหลักธรรม ทั้ง ไวยากรณ์ และ ภาวนา จากนั้นก็ทำกิจไปเรื่อยเปื่อยคือ เดินจงกรม บ้าง ทำงานกวาดพื้น ถูพื้น ทำความสะอาด เข้าของเครื่องใช้ อันที่จริงก็ไม่มีอะไร มาก มันจึงไม่ถูกเรียกว่า กิจ แต่การเดินจงกรม ในช่วงจากตื่นนั้น ก็จะเดินประมาณ สามสิบนาที แล้วนั่งกรรมฐาน
๓ ฉัน( กิน ) ก็ส่วนใหญ่ไม่แน่นอน ในเวลา บางครั้งก็เช้า เจ็ดโมงเช้า บางครั้งก็เกือบเที่ยง แล้วแต่ว่าติดทำอะไรอยู่ สรุปก็คือ ฉัน เจ็ดโมง ถึง เที่ยง ในช่วงนี้ฉันก็ประมาณ ยี่สิบนาที ไม่มากอะไร ในเวลา
๔ ธรรมวิจยะหลักธรรม ยกหัวข้อธรรม แล้วทำการแตกย่อยหัวข้อธรรม ในหลักการบรรยายธรรม โดยต้องมีหลักการของกัจจายนะ อยู่เสมอ นั่นก็คือ ยกธรรม แล้วตั้งองค์บริกรรมให้ได้ และติดตามวิจาร จนถึงผล ของธรรมนั้น ก็เป็นอันสิ้นสุด
แจกธรรม ก็ดูสถานะการณ์ รอบด้านแจกธรรม ก็ต้องพิมพ์ ต้องพูด ต้องบันทึก ออกมาเป็นอักษร เป็นเสียง วีดีโอ
พิมพ์หนังสือ ไม่รู้ว่าจะขยันพิมพ์ไปทำไม เพราะออกมาแต่ละเล่ม คนบ่นกันว่า อ่านแทบไม่รู้เรือ่งกันเลย แต่ก็ขยันพิมพ์ไว้
๕ เข้าสมาธิ ( ขอเลี่ยงคำว่า สมาบัติ หรือ ผลสมาบัติ ) ประจำวัน อย่างน้อยวันละ 3 ชม. ดังนั้นวันหนึ่งคืนหนึ่งใช้ใช้เวลาจริง ๆ แค่ สิบกว่า ชม. เท่านั้นเพราะว่า นอนก็ สี่ นั่งก็ 3 เดินก็ สามสิบนาที นี่เรียกว่าอุทิศเวลาให้กับงาน พรหมจรรย์ จริง ๆ ก็เท่านี้ การนอนสำหรับฉันก็เป็นกิจพรหมจรรย์ เพราะตอนนอนหยุดปรุงแต่งทั้งหมด ฉันไม่มีความฝัน นอนไม่ฝัน ดังนั้นจึงเหมือนการพักผ่อนในสมาธิ
สรุปฉันเป็นครู อย่างน้อยไม่ทำกรรมฐาน ก็วันละ สามชั่วโมง ยิ่งเป็นช่วงเดินทางด้วยแล้วละก็ แทบจะทำตลอด ยกเว้นตอนเดินทางไกลด้วยเท้า ถ้านั่งรถก็เข้าสมาธิเลย
ดังนั้นท่านที่บ่นว่า ทำไม่ได้ มันเป็นเพราะว่าไม่ได้ ทำสมาธิ ต่างหากไม่ใช่ทำเพราะมัวแต่เอาเวลาไปรื่นเริงกับโลก ก็อาจจะใช่เพราะว่า ท่านยังอยู่ในโลก มันก็จะสวนกับความคิดของท่านกันเอง ว่า ไม่อยากเกิด แต่มัวทำตัวอยู่ในโลก มันขัดกันนะ ถ้าไม่อยากเกิดต้องวางโลก ลง และทำความสันโดษ วิเวกทางจิตให้มากขึ้น ยุ่งโลกให้น้อยลง นี่ถึงจะก้าวหน้าได้ จะแบกโลก แล้วภาวนาด้วยไปไม่ได้ นะ
ขออภัยห้องนี้ต้องพูดตรง ไม่อ้อมค้อม
ฉันเป็นครูอาจารย์ ที่ไม่เข้มงวด เพราะฉันทราบดีว่า ถ้าท่านยังไม่อยากไป สู่ โลกุตตระ ฉันก็จะไม่ยื้อ หรือ ดึงให้พวกท่านมาลำบากลำบนกับฉันใน การวิเวก เพราะอย่างไรเสีย ถ้าจะเป็นพระอรหันต์ อย่างไร ก็ต้องทำวิเวก มันหนีไม่ได้ ฉันเองก็หนีไม่ได้ จึงต้องอยู่อย่างวิเวก เพื่อขัดเกลากิเลส ในช่วงที่วิเวก ขัดเกลากิเลสนั้น ไม่มีคำว่า สบาย ที่นอนฉันไม่เคยปูผ้า เป็นพื้นกระเบื้องหมอนหนึ่งใบผ้าห่มพืนหนึ่ง มีเท่านั้น ไม่มีฟูก ไม่ปูเสื่อ เสื้อผ้า บางครั้งใส่จนกลิ่นเน่าทั้งตัว เพราะบางครา ครูทานสั่งให้ทำตบะ ไม่ให้อาบน้ำ ซักผ้า อยู่ดมตัวเอง จะได้คลายรักตัว หลงตัว ซึ่งพอได้เจริญกิจ ดำเนินปัจจัย สี่ ตามที่ครูท่านสอนก็เห็นกองกระดูกกองเน่า ผุพังของตัวเอง
ถ้าท่านทั้งหลาย สามารถเข้าสมาธิ และระลึกอดีต ได้ว่าตายอย่างไร เห็นตัวเองตายอย่างไร จิตเคยไปจุติอย่างไร ท่านทั้งหลายคงจะไม่มัวประมาทหลงเพิลดเพิลน สิ่งที่เป็นมายา ในโลกธรรม ในปัจจุบันนี้เป็นแน่ แต่กว่าจะทำได้ขนาดนี้ ก็ต้องมีความเพียรติดต่อ ต้องสละละจริง ทำเล่นไม่ได้ จะมาเหยาะแหยะ อาทิตย์ นั่งกรรมฐานครั้ง เดือนหนึ่งทำครั้ง อย่างนี้ อย่ามาเสียเวลาบ่นกับฉัน เพราะฉันรู้ดีว่า ทำอย่างนีไม่มีทางทีจะพ้นจากสังสารวัฏได้ ยุคนี้ไม่ใช่ยุค ของอุคติตัญญู ที่ฟังธรรมจบแล้วเป็นพระอรหันต์ คนในยุคปัจจุบันนี้ล้วนแล้วเป็น เวไนยยะ อยู่ระดับ สามทั้งนั้น ดังนั้น พระพุทธชินสีห์ จึงทรงทำนายว่ายุคนี้เป็นยุคของพระอนาคามี จะหาพระอรหันต์ได้ยากมากนั่นเอง
ท่านทั้งหลาย การภาวนา ไม่ใช่เครื่องประเล้าประโลมจิตใจให้อยู่ในโลก แต่การภาวนา ทางกัจจายนะนั้น ถือว่า เป็นการเดินพรหมจรรย์ ความปรารถนา เป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้ ดังนั้นใครใคร่ปรารถนา ภาวนาอย่างไร ก็ตามสบาย ฉันอาจจะไม่มีเวลา สอนใครมากนักตอนนี้ เพราะหลายท่านคิดว่า ฉันคงมีเวลาจะสอนพวกท่านกัน อยู่ จึงประมาท ในการเรียนศึกษาภาวนา
วันนี้ฉันยังรอศิษย์ มาเรียน อานาปานสติ อยู่ มีใครภาวนาสุขสมาธิ ก็มาสอบเลยนะ กำลังรอ คนที่พร้อม รับธรรม

(http://www.madchima.net/forum/gallery/30_07_12_14_6_37_05.jpeg)

สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน