หัวข้อ: พระครูยอดแก้ว วัดโพนสะเม็ก สร้างรัฐจำปาสักในลาว หนีการคุกคามจากอำนาจเวียงจัน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 14, 2017, 08:39:35 am (http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/03/%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%81.jpg) รูปหล่อพระครูโพนสะเม็ก [จากหนังสือ หลวงพ่อขี้หอม (เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก) พระสงฆ์ผู้นำชุมชนและการเมืองสองฝั่งโขง, สำนักพิมพ์มติชน 2544]พระครูยอดแก้ว วัดโพนสะเม็ก สร้างรัฐจำปาสัก ในลาวภาคใต้ หนีการคุกคามจากอำนาจเวียงจัน พระครูยอดแก้ว วัดโพนสะเม็ก รัฐล้านช้างเวียงจัน ถูกผู้มีอำนาจยุคนั้นคุกคามตามล่า จึงพาเชื้อสายพระเจ้าแผ่นดินหนีไปก่อบ้านสร้างเมืองเป็นรัฐจำปาสัก ราว พ.ศ. 2257 (ตรงกับยุคอยุธยา แผ่นดินพระเจ้าท้ายสระ) รัฐจำปาสัก ปัจจุบันคือ แขวงจำปาสัก อยู่ภาคใต้ของลาว สิลา วีระวงส์ (นักปราชญ์ลาว) เรียบเรียงเรื่องพระครูยอดแก้วไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ลาว (สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งที่สอง พ.ศ. 2539 หน้า 162-164) จะสรุปมาดังนี้ :96: :96: :96: :96: พระครูยอดแก้ว หนีการคุกคามจากเวียงจัน พ.ศ. 2233 เมื่อสมเด็จพระสุริยวงศาแห่งนครเวียงจันสวรรคต พระยาเมืองจัน ผู้เป็นเสนาบดีได้ชิงเอาราชสมบัติ แล้วพระยาเมืองจันจะรับเอานางสุมังคลา (พระธิดาพระเจ้าสุริยวงศา) ขึ้นเป็นเมีย (นางสุมังคลา เวลานั้นเป็นแม่หม้าย มีลูกชื่อเจ้าองค์หล่อ และที่ยังอยู่ในท้องอีกก็มี) แต่นางไม่ยอม นางจึงหนีไปพึ่งญาติโยมของพระครูยอดแก้ว วัดโพนสะเม็ก พระยาเมืองจันจะตามไปทำร้ายท่านพระครูอีก พระครูยอดแก้วจึงพาญาติโยมของตนประมาณ 3,000 คน อพยพหนีจากเวียงจัน และให้เชิญเอานางสุมังคลาไปซ่อนไว้ที่ภูสะง้อ แขวงเมืองบริคัน นางจึงไปประสูติลูกอยู่ที่นั่น ตั้งชื่อว่าเจ้าหน่อกษัตริย์ ฝ่ายพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก ได้พาครอบครัวญาติโยมของตนอพยพลงไปตามลำดับ ตั้งบ้านเรือนไปตามระยะทางก็มี จนถึงประเทศเขมร พระเจ้าแผ่นดินเขมรจะให้เก็บเงินจากคนลาวอพยพ คนละ 8 บาท พระครูยอดแก้วเห็นว่าลำบากนัก จึงพาญาติโยมถอยคืนมาตั้งอยู่เมืองเชียงแตง ที่เชียงแตง ท่านพระครูได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นองค์หนึ่ง เรียกว่าพระองค์แสน (ร.4 ให้อัญเชิญไปไว้ที่วัดหงส์รัตนาราม ฝั่งธนบุรี) ภายหลังได้ย้ายมาอยู่ดอนโขง และย้ายขึ้นมาถึงเมืองจำปาสักของนางแพง นางแพงจึงมอบเมืองให้พระครูยอดแก้วปกครอง ว่ากล่าวสั่งสอนประชาชนๆ ก็มีความเคารพนับถือเป็นอันมาก :sign0144: :sign0144: :sign0144: พระเจ้าสร้อยศรีสมุทร ท่านพระครูยอดแก้วปกครองเมืองจำปาสักแทนนางแพงพอสมควร เห็นว่ากิจการบางอย่างพระสงฆ์จะเข้าดำเนินการไม่ได้ เช่น การตัดสินใส่โทษผู้กระทำผิด เป็นต้น ท่านพระครูจึงให้ ’จารย์เสียงขึ้นมาเชิญเอาเจ้าหน่อกษัตริย์กับนางสุมังคลา ลงไปนครจำปาสัก แล้วทำพิธีอภิเษกเจ้าหน่อกษัตริย์ขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดินนครจำปาสัก ถวายพระนามว่า เจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร เมื่อ พ.ศ. 2257 โดยแบ่งเขตแดนออกจากเวียงจันฟากแม่น้ำโขง ทางฝั่งขวา นับแต่เมืองมุกดาหารลงไปทางด้านตะวันตก เอาเขตเมืองสุวรรณภูมิ ทุ่งกุลาร้องไห้ และสายแม่น้ำยัง ซึ่งไหลแต่ดงหมากอี ใต้เมืองนครพนมไปตกน้ำชี เหนือเมืองยโสธรเป็นเขตแดน เป็นอันว่าแขวงจำปาสักได้แยกออกเป็นประเทศเอกราชหนึ่งต่างหาก ในปี พ.ศ. 2257 พระเจ้าสร้อยศรีสมุทรได้ธิดาของเจ้าเขมร เมืองบันทายเพชร เป็นชายาองค์หนึ่ง นางนั้นได้โอรสกับเจ้าสร้อยศรีสมุทร นามว่า เจ้าโพธิสาร ท่านพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก เมื่อได้ตั้งเจ้าหน่อกษัตริย์ขึ้นเป็นเจ้าแผ่นดินในนครจำปาสักแล้ว ก็เดินทางขึ้นไปปฏิสังขรณ์พระธาตุพนมอยู่เสมอ จนถึง พ.ศ. 2263 ก็มรณภาพ รวมอายุได้ 90 ปี อัฐิของท่านส่วนหนึ่งญาติโยมได้สร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่วัดธาตุฝุ่น นครจำปาสัก อีกส่วนหนึ่งบรรจุไว้ที่เจดีย์ข้างพระธาตุพนม จ. นครพนม ซึ่งยังมีอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ พระเจ้าสร้อยศรีสมุทรสวรรคต พ.ศ. 2281 พระองค์มีโอรส 3 องค์ คือ เจ้าไชยกุมาร 1 เจ้าธัมมเทโว 1 เจ้าสุริโย 1 สุจิตต์ วงษ์เทศ : พระครูยอดแก้ว วัดโพนสะเม็ก สร้างรัฐจำปาสัก ในลาวภาคใต้ หนีการคุกคามจากอำนาจเวียงจัน ผู้เขียน : สุจิตต์ วงษ์เทศ ที่มา : มติชนออนไลน์ เผยแพร : 10 มี.ค. 60 http://www.matichon.co.th/news/491517 (http://www.matichon.co.th/news/491517) |