สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ เมษายน 25, 2017, 09:02:10 am



หัวข้อ: สลด!! พายุพัดต้นตาล วัดธาตุพนม อายุกว่า 100 ปี โค่นทับ 2 แม่ลูกดับ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 25, 2017, 09:02:10 am
(http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/04/240460_%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%9A11.jpg)


สลด!! พายุพัดต้นตาล วัดธาตุพนม อายุกว่า 100 ปี โค่นทับ 2 แม่ลูกดับ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 เมษายน ร.ต.อ.ณัชพล ดวงกางกอ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเกิดเหตุพายุฝนตกหนักลมพัดแรง ทำให้ต้นตาลเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หักโค่นทับชาวบ้าน บาดเจ็บเสียชีวิต จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยนาวาธาตุพนม ไปตรวจสอบให้การช่วยเหลือ โดยในที่เกิดเหตุบริเวณวัดทางทิศเหนือ

พบชาวบ้านกำลังเร่งให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายถูกต้นตาลอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ความยาวกว่า 40 เมตร หักโค่นทับร่าง เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้การช่วยเหลือออกจากที่เกิดเหตุ ปฐมพยาบาลนำส่งไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม แต่ไม่สามารถช่วยเหลือชีวิตไว้ได้ เนื่องจากถูกยอดต้นตาลโค่นทับอย่างแรงบริเวณศีรษะ ทราบชื่อภายหลัง คือ นางนิภาพร อนุ อายุ 44 ปี พร้อมด้วยลูกชาย คือ นายพิชญ์ อนุ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 7 บ้านดอนกลาง ชุมชนหลังวัดพระธาตุพนม ซึ่งทั้งสองมีอาชีพถ่ายภาพรับจ้างภายในบริเวณวัด

โดยจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะทั้งสองแม่ลูกนั่งอยู่ในซุ้มร้าน ทำการพรินต์ภาพถ่ายให้ลูกค้า เนื่องจากมีอาชีพถ่ายภาพรับจ้างภายในวัด ได้มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักนานนับชั่วโมง ทำให้ต้นตาลขนาดใหญ่อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่อยู่ห่างจากผู้ตายทั้งสองนั่งประมาณ 40 เมตรได้หักโค่นลงมา เพราะสภาพเก่าผุพังตรงโคนต้น ทำให้ส่วนยอดต้นตาลทับไปยังทั้งสองแม่ลูก จนได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตดังกล่าว สร้างความสลดใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ฝากเตือนประชาชน นักท่องเที่ยว ที่มาทำบุญหรือมาเที่ยวชมวัด หากเกิดพายุฝน ให้หาที่หลบในที่ปลอดภัย เนื่องจากภายในวัดมีต้นไม้ขนาดใหญ่และต้นตาลเก่าแก่จำนวนมาก อาจเกิดโค่นล้มทำให้รับอันตรายได้


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news/539425 (http://www.matichon.co.th/news/539425)