สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 02, 2017, 10:26:58 am



หัวข้อ: ช่วยคนที่ตกทุกข์ เพราะกรรมเก่าเป็นการแทรกแซงกฎแห่งกรรมหรือไม่.?
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 02, 2017, 10:26:58 am

(http://www.goodlifeupdate.com/wp-content/uploads/2016/08/%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%8C-696x364.jpg)


ช่วยคนที่ตกทุกข์ เพราะกรรมเก่า เป็นการแทรกแซงกฎแห่งกรรมหรือไม่.?

ผู้อ่านถาม : เมื่อเจอคนที่กำลังตกทุกข์ ซึ่งอาจเป็นเพราะกรรมเก่าหรืออาจเป็นผลกรรมในปัจจุบันของเขา แล้วเราช่วยให้เขาพ้นทุกข์ ถือเป็นการสร้างกุศลหรือเป็นการแทรกแซงกฎแห่งกรรมคะ แล้วกรณีใดจึงจะเรียกว่าแทรกแซงกฎแห่งกรรม

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ตอบ : เป็นเรื่องที่วินิจฉัยยากว่าสิ่งดีๆ หรือสิ่งที่ไม่ดีซึ่งกำลังเกิดขึ้นกับคนที่อยู่เบื้องหน้าของเรานั้นเป็นผลมาจาก “กรรมเก่า” ของเขาเอง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ หากเราเห็นว่าใครกำลังตกทุกข์ได้ยาก เราก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุดแล้วจึงช่วยเหลือเขา เมื่อช่วยอย่างถึงที่สุดแล้วช่วยไม่ได้ก็จึงปล่อยวางโดยถือหลัก “สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป”

การแทรกแซงกฎแห่งกรรมจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราเห็นอยู่ซึ่งๆ หน้าแล้วว่า คนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากนั้นเขาทำ “เหตุ” ที่เลวมาก่อนหน้านั้นอย่างชัดเจน แต่ครั้นตกทุกข์ได้ยากแล้ว เรากลับเข้าไปช่วยด้วยเมตตา (แต่ขาดปัญญาที่เป็นกลาง) อย่างนี้จึงถือเป็นการแทรกแซงกฎแห่งกรรม เช่น ลูกไปเที่ยวผับแล้วชกต่อยกัน เกิดยิงคนตายขึ้นมา กฎหมายนำตัวลูกไปขังคุก รอวันพิพากษา แต่แม่กลับพยายามใช้เงิน “ง้างกฎหมาย” ด้วยการแทรกแซงการพิพากษา จนทำให้การลงโทษนั้นผิดจากดำกลายเป็นขาว คนผิดพ้นผิด (หนีกฎหมายได้ แต่หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้) การทำการในลักษณะนี้เรียกว่าแทรกแซงกฎแห่งกรรม

แต่ก่อนที่เราจะสรุปว่าเราแทรกแซงกฎแห่งกรรมหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดต้องใช้ปัญญาพิจารณาอย่างดีที่สุดก่อนเสมอ เพราะหากเราไปตั้งแง่ว่า ทุกคนที่กำลังได้รับผลร้ายในชีวิตเป็นเพราะกรรมชั่วไปเสียทั้งหมด เราก็เลยไม่อยากช่วย เพราะเกรงว่าการช่วยจะเป็นการแทรกแซง การคิดอย่างนี้ถือว่าประมาทอย่างยิ่ง คนที่คิดอย่างนี้มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นคนใจไม้ไส้ระกำ ยอมปล่อยให้มนุษย์เผชิญชะตากรรมเลวร้ายโดยไม่ช่วยเหลือเกื้อกูล

ด้วยเหตุดังนั้น เวลาเห็นใครตกทุกข์ได้ยาก ลำบากแทบล้มประดาตาย ก็จงใช้ปัญญาพิจารณาหาเหตุผลอย่างดีที่สุดเสมอ เมื่อพิจารณาถี่ถ้วนแล้วจึงช่วยหรือจึงไม่ช่วยด้วยปัญญา ไม่ใช่ด้วย “อคติ” ที่เข้าใจไปเองจากปรากฏการณ์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้าในขณะนั้น


ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
http://www.goodlifeupdate.com/30497/healthy-mind/dhamma/dhamma-daily/help-karma/ (http://www.goodlifeupdate.com/30497/healthy-mind/dhamma/dhamma-daily/help-karma/)