สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 07, 2017, 02:20:23 pm



หัวข้อ: “วัดร่องเสือเต้น” วิหารน้ำเงินฟ้าสวยสง่า สุดศักดิ์สิทธิ์สะดุดตา!
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 07, 2017, 02:20:23 pm


“วัดร่องเสือเต้น” วิหารน้ำเงินฟ้าสวยสง่า สุดศักดิ์สิทธิ์สะดุดตา

วัดร่องเสือเต้น ในอดีตสถานที่นี้เคยเป็นที่ตั้งของวัดร้างมาก่อน ดังจะพบเห็นเศษซากอิฐโบราณในบริเวณแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อ 80-100 ปีก่อนจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ในสมัยนั้นยังไม่มีบ้านเรือนและผู้อาศัยอยู่มากนัก สัตว์ป่าในสมัยนั้นมีมากโดยเฉพาะเสือ ที่ชอบกระโดดร่องน้ำไป ๆ มา ๆ ชาวบ้านเรียกว่า “ร่องเสือเต้น”

(http://p1.isanook.com/ho/0/ud/23/116929/w1.jpg)

และกลายเป็นชื่อหมู่บ้านเรียกว่า “บ้านร่องเสือเต้น” ในปีพุทธศักราช 2537 ชาวบ้านร่องเสือเต้นทุกหลังคาเรือนได้ประชุมปรึกษาหารือกันเรื่องการบูรณะวัดร่องเสือเต้น จุดประสงค์เพื่อเป็นศูนย์รวมด้านจิตใจของชาวบ้านและเป็นที่ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา เพราะชาวบ้านยังไม่มีที่ทำบุญในหมู่บ้าน ต่างไปทำบุญวัดต่างๆ อย่างกระจัดกระจาย ดังนั้นชาวบ้านจึงได้ช่วยกันพัฒนาสถานที่แห่งนี้และได้ให้ชื่อว่า “วัดร่องเสือเต้น”

ปัจจุบันมีผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาร่วมด้วยช่วยกันสร้างถาวรวัตถุ เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาสืบต่อกันมา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชุมชนร่องเสือเต้น ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นพระอุโบสถใหม่ที่สร้างขึ้น ด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ ที่มีศิลปะที่มีความสวยงดงามแปลกตา มีพระอุโบสถ์สีฟ้า สวยสดงดงามตา พุทธศิลป์อันล้ำค่า นำพาพุทธศาสน์มาเยือน


(http://p1.isanook.com/ho/0/ud/23/116929/w2.jpg)

จากฝีมือการรังสรรค์ของ นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และเคยเข้าไปทำงานที่วัดร่องขุ่น เป็นศิลปะประยุกต์ที่ เป็นเอกลักษณ์ใช้เฉดสีเป็นสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทอง ลวดลายต่างๆ ที่พริ้วไหวนั้น

ซึ่ง สล่านก ได้จากการเรียนรู้จากอาจารย์ แต่ศิลปะของ อาจารย์จะใช้โทนสีขาว และมีการใช้กระจก แต่ของสล่านกดัดแปลงมาเป็นการใช้สีน้ำเงินฟ้าแทนเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะประติมากรรมบันไดพญานาคที่ใช้เฉดสีเดียวกันนั้นมีความชดช้อยและลวดลายแตกต่างจากประติมากรรมทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด


(http://p1.isanook.com/ho/0/ud/23/116929/w3.jpg)

ได้นำเอารูปแบบผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พ.ศ.2544 ผู้สร้างบ้านดำ จ.เชียงราย ที่มีความโดดเด่นเรื่อง เขาและงามาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะช่วงเขี้ยวของพญานาคมีความพลิ้วไหว อ่อนช้อย  สีน้ำเงินฟ้า แสดงถึงธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ขจรขจายทั่วโลก ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่เป็นความจริงตามเหตุและผลเปรียบเสมือนดังท้องฟ้าที่สดใส เป็นศิลปะแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่แฝงด้วยหลักธรรมคำสอนของพุทธองค์

โดยพระวิหารแห่งนี้ให้นิยามว่าเป็นทิพยสถาน คือ เป็นการสรรเสริญพระพุทธเจ้าทั้งในรูปแบบของประติมากรรมและจิตรกรรม เมื่อคนเข้าไปมีจิตใจดีก็จะรักษาศีลก่อให้เกิดสมาธิ และปัญญาตามมา โดยชาวต่างชาติและชาวไทยจะขนานนามว่า "Blue Temple" มีพระประธานสีขาว สูง 6.50 เมตร หน้าตักกว้าง 5 เมตร

และอีกหนึ่งที่งดงามชื่อว่า “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" มีพระประธาน สีขาวมุกขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก รวมทั้งยังได้รับพระราชทานนามพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ ที่หมายความว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคล เจ้าในความเป็นราชา เป็นที่พึ่งในสามโลก”


(http://p1.isanook.com/ho/0/ud/23/116929/w4.jpg)

นอกจากนั้นด้านหลังวิหารมีพระพุทธรูปสีขาวปาง ห้ามญาติ องค์ใหญ่ ประดิษฐานตรงด้านหลัง ถัดไปคือ "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์" มีความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุ ได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงฆปรินายก สุดศักดิ์สิทธิ์และตอนนี้เป็นที่วัดดัง และมาแรงอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงราย

(http://p1.isanook.com/ho/0/ud/23/116929/w5.jpg)

และเพื่อเป็นการชักนำให้ชาวพุทธหัดกลับมาเข้าวัด และศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และผู้ที่ต้องการศึกษาเพื่อการหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร สิ่งนั้นคือ อริยสัจ 4 คือความจริงอันประเสริฐ และมรรค 8 คือหนทางที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์นั่นเอง

(http://p1.isanook.com/ho/0/ud/23/116929/w6.jpg)


ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
http://horoscope.sanook.com/116929/ (http://horoscope.sanook.com/116929/)