สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 09:44:36 am



หัวข้อ: พระสัมพุทธพรรณี (ตอนแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 09:44:36 am

(https://www.khaosod.co.th/wp-content/uploads/2017/05/1-162-696x473.jpg)


พระสัมพุทธพรรณี (ตอนแรก)

ถาม : ขอทราบประวัติความเป็นมาของพระสัมพุทธพรรณีที่ทรงสักการะในพระราชพิธีสำคัญ....นุ้ย

ตอบ นุ้ย : พระสัมพุทธพรรณี เป็นพระพุทธรูปสำคัญอีกองค์หนึ่งของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่พระอุโบสถวัดพระศรี รัตนศาสดาราม

นอกจากนี้ ยังมีพระสัมพุทธพรรณี องค์จำลอง ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร จำลองจากพระสัมพุทธพรรณีองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

พระสัมพุทธพรรณีเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประทับขัดสมาธิราบ หล่อด้วยโลหะสำริดและกะไหล่ทองคำสุกปลั่ง มีขนาดหน้าตักกว้าง 49 เซนติเมตร ความสูงถึงยอดพระรัศมี 67.5 เซนติเมตร ความสูงจากฐานถึงยอดพระรัศมี 93 เซนติเมตร และความสูงจากฐานถึงยอดฉัตร 206 เซนติเมตร

 :25: :25: :25: :25:

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งดำรงสมณเพศเป็นพระวชิรญาณภิกขุ โปรดให้หล่อขึ้นขณะประทับอยู่ที่วัดสมอราย (วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร) จากที่ทรงทุ่มเทพระอุตสาหวิริยะศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างแตกฉานลึกซึ้ง และได้ทรงศึกษาพุทธลักษณะของการสร้างพระพุทธรูป ทรงพบว่าพระพุทธรูปควรมีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์ทั่วไป การที่นายช่างในอดีตทั้งหลายพากันสร้างพระพุทธรูปให้มีโหนกนูนขึ้นเหนือพระเศียรคล้ายครึ่งวงกลม และเรียกว่าพระเกตุมาลานั้น ผิดไปจากความเป็นจริง แม้นายช่างในอดีตจะอธิบายว่า เพราะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้แจ้งด้วยพระองค์เอง ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ดังนั้น จึงต้องทรงมีพระสติปัญญาสูงส่งกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไปเป็นอย่างมาก ดังนั้น มันสมองของพระพุทธองค์จึงดันเอากะโหลกพระเศียรให้ปูดนูนสูงขึ้น ข้อนี้เป็นที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในพุทธลักษณะ

ด้วยเหตุดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2373 พระวชิรญาณภิกขุ จึงได้ทรงพระกรุณาฯ ให้ ขุนอินทรพินิจ เจ้ากรมช่างหล่อปั้นหล่อพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะตามที่ทรงศึกษามา และให้มีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์ธรรมดามากที่สุด

โดยให้มีพระเศียรส่วนบนเรียบเกลี้ยง ไม่มีโหนกนูนหรือพระเกตุมาลาตั้งอยู่บนกลางพระเศียรอย่างที่เคยสร้างกันมา กับทั้งลักษณะการครองผ้าจีวรของพระพุทธรูป ก็ให้มีลักษณะตามแบบธรรมยุติกนิกายตามที่ได้ทรงบัญญัติไว้ และให้มีริ้วรอยกลีบของผ้าจีวรยับพับไปมาตามแบบธรรมชาติทุกประการ

 st12 st12 st12 st12

พระพุทธรูปองค์ดังกล่าว สร้างตามอย่างพุทธลักษณะที่พระองค์ทรงสอบสวนได้ ด้วยพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะให้พระพุทธรูปนี้เป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรจุแผ่นทองคำจารึกดวงพระพรรษาและแผ่นพระสุพรรณบัฏทองคำจารึกพระนามเต็มที่ได้รับพระราช ทานจากพระราชบิดา คือรัชกาลที่ 2 เมื่อแรกเสด็จพระราชสมภพ รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุที่ได้แสดงปาฏิหาริย์เฉพาะพระพักตร์ให้ได้ทรงประจักษ์ด้วยสายพระเนตรของพระองค์เองลงไว้ในองค์พระพุทธรูปองค์นี้ด้วย และถวายนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระสัมพุทธพรรณี”

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ หอสวดมนต์วัดราชาธิวาสวิหาร เพื่อทรงนมัสการ ครั้นเมื่อเสด็จฯ ไปประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสัมพุทธพรรณีไปยังวัดบวรนิเวศวิหารด้วย จนเมื่อเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยประดิษฐานอยู่ที่ฐานชุกชีด้านหน้าขององค์พระแก้วมรกต

ฉบับพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) ติดตามที่มาแห่งการจัดสร้างพระ สัมพุทธพรรณีองค์จำลอง ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วัดราชา ธิวาสราชวรวิหาร


คอลัมน์ รู้ไปโม้ด โดย น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก https://www.khaosod.co.th/amulets/news_348135 (https://www.khaosod.co.th/amulets/news_348135)


หัวข้อ: พระสัมพุทธพรรณี (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 09:50:05 am


(https://www.khaosod.co.th/wp-content/uploads/2017/05/1-178-696x379.jpg)


พระสัมพุทธพรรณี (ตอนจบ)

ฉบับวานนี้ (15 พ.ค.) “นุ้ย” ถามถึงประวัติความเป็นมาของพระสัมพุทธพรรณี เมื่อวานตอบไปถึงการจัดสร้างพระสัมพุทธพรรณี ซึ่งปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทั้งบอกไว้ด้วยว่า พระพุทธรูปนี้มีองค์จำลองด้วย โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเช่นกัน

พระสัมพุทธพรรณี องค์จำลอง ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางสมาธิ ราบ ขนาดหน้าตักกว้าง 20 นิ้ว วัสดุโลหะกะไหล่ทอง จำลองจากพระสัมพุทธพรรณีองค์ที่ประดิษ ฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

เหตุแห่งการหล่อพระสัมพุทธพรรณีองค์จำลอง ด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปรารภจะทรงสถาปนาวัดราชาธิวาสวิหารที่รกร้างชำรุดทรุดโทรมให้เป็นพระอารามที่งามยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน มีพระราชประสงค์ที่จะได้พระพุทธรูปมาประดิษฐานในพระอุโบสถ พระราชดำริว่า

พระอารามแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชบิดา เสด็จมาประทับเมื่อครั้งทรงผนวชและได้สถาปนาธรรมยุติกนิกายขึ้น เมื่อประทับจำพรรษาอยู่ในพระอาราม ได้ทรงหล่อพระพุทธรูปองค์หนึ่ง โดยโปรดให้ช่างหล่อในพุทธลักษณะที่ทรงเห็นควรจะเป็น คือไม่มีพระเกตุมาลา แล้วทรงบรรจุดวงพระชะตา พระสุพรรณบัตรเดิม และพระบรมสารีริกธาตุไว้ในองค์พระ พระราชทานนามว่า “พระสัมพุทธพรรณี” ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้ไว้ที่พระตำหนัก ภายหลังเมื่อทรงย้ายไปประทับยังวัดบวรนิเวศฯ ก็โปรดให้เชิญไปด้วย ครั้นเมื่อเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญไปประดิษฐานไว้บนฐานชุกชีด้านหน้า ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

 st11 st11 st11 st11

ดังนั้นเพื่อทรงนมัสการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศลถวายแด่พระราชบิดา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำริว่า “พระสัมพุทธพรรณีเปน พระซึ่งทูลกระหม่อมทรงสร้างขึ้นในวัดราชาธิวาส ประจุพระสุพรรณบัตร และดวงพระชันษา เปนพระที่สมควรจะอยู่ในวัดนี้ แต่องค์เดิมที่จะเชิญกลับออกมาไม่ได้เปนอันขาด จึงเห็นควรจะหล่อจำลองขึ้นใหม่” (พระราชหัตถเลขา ๒๕๑๔, ๑๙๖-๑๙๗)

ในปี พ.ศ.2451 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ พระวรวงศ์เธอพระองค์ เจ้าประดิษฐวรการ ออกแบบปั้น โดยถ่ายแบบจากพระสัมพุทธพรรณีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อหล่อสำเร็จ ทรงประกอบพิธีกะไหล่ทอง และให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุใน พระศก แล้วสมโภช แต่พระองค์เสด็จสวรรคตก่อนที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปในพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงอัญเชิญพระสัมพุทธพรรณีจำลองไปประดิษฐานในพระอุโบสถวัดราชาธิวาสวิหารตามพระราชจำนง ในปี พ.ศ.2462 พร้อมกับบรรจุพระราชสรีรางคารสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนี พระพันปีหลวง ใต้พุทธบัลลังก์ด้วย

ย้อนไปครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้ปั้น ทรงให้ช่างปั้นหุ่นถ่ายแบบอย่างพระสัมพุทธพรรณีองค์นี้ขึ้นใหม่ พระสัมพุทธพรรณีหล่อใหม่สำหรับวัดราชาธิวาสมีแบบอย่างพุทธลักษณะเช่นเดียวกับพระสัมพุทธพรรณีองค์เดิมที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสอบสวนได้ คือ ไม่มีพระเกตุมาลา พระจีวรเป็นริ้วเช่นเดียวกับการครองผ้าของพระภิกษุ พระเกตุมาลาซึ่งไม่ปรากฏนี้ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าประดิษฐวรการได้ทรงแก้ไขแบบให้มีพระรัศมีขึ้นเหนือยอดพระเศียร

และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระรัศมีถวายเป็นพุทธบูชา 4 องค์ คือ พระรัศมีสำริดกะไหล่ทอง พระรัศมีนาก พระพระรัศมีแก้วขาว และพระรัศมีแก้วน้ำเงิน นอกจากนั้นยังได้ทรงกำหนดให้มีการเปลี่ยนพระรัศมีของพระสัมพุทธพรรณีตามฤดูกาลเช่นเดียวและพร้อมกันกับการเปลี่ยนเครื่องทรงของพระแก้วมรกตด้วย โดยทรงกำหนดให้พระรัศมีสำริดกะไหล่ทองใช้สำหรับฤดูร้อน พระรัศมีแก้วสีน้ำเงินสำหรับฤดูฝน และพระรัศมีนาก หรือแก้วขาว สำหรับฤดูหนาว



คอลัมน์ รู้ไปโม้ด โดย น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก https://www.khaosod.co.th/amulets/news_349773 (https://www.khaosod.co.th/amulets/news_349773)


หัวข้อ: Re: พระสัมพุทธพรรณี (ตอนแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 02:57:36 pm
 st12