หัวข้อ: ภาวนา ให้จิต สาธารณะ ดั่งดอกหญ้า เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 30, 2017, 11:03:39 am (https://wallpaper.thaiware.com/upload/wallpaper/2013_06/20906_11060_130608211635_K4.jpg)
คำสอนของครูฉันเมื่อฉันท้อแท้ ในขณะภาวนาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ท่านบอกว่า พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนี้ อันไม้จันทร์แม้จะแห้ง ก็ไม่ทิ้งกลิ่น หัสดินแม้จะก้าวลงสู่สงคราม ก็ไม่ทิ้งลีลา อ้อยแม้จะเข้าสู่หีบยนต์ ก็ไม่ทิ้งรสหวาน อันบัณฑิตทั้งหลาย แม้จะประสบทุกข์เจียนตาย ก็ไม่ทิ้งธรรม และบทธรรมแค่นี้ แหละที่ทำให้ฉัน มีความพยายามในการภาวนา บางครั้งการภาวนา ไปมองสังคมไม่ได้ บางทีไม่ได้มีใครชื่นชม ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้น ในการภาวนาของเรา เลย ดังนั้นถ้าเราเอาชีวิตไปแขวนไว้กับสังคมมาก ๆ การภาวนาจริง ๆ จะทำไม่ได้ เพราะถ้าเขาร้อนหนาวหิวกระหาย เขาก็ไม่เอากัน ในเรื่องการภาวนา โดยเฉพาะ เรื่อง อุปธิวิเวก นั้นมีความสำคัญมาก ต่อ ชีวิต พระจริง ๆ ก็คือ อันนี้ ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลายไม่ว่าจะประสบกับความทุกข์ ข่นแค้น อดอยากปากแห้ง คับข้องหมองใจเพียงใดแม้ทุกข์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าด้วยโรคที่จะทำให้ตาย และกำลังจะตาย ก็อย่าได้ท้อแท้ ต่อ การรักษากุศล ภาวนากุศล กันเลยจะมากจะน้อย ต้องรักษาไว้ ให้พันขอบ ของ อบายภูมิ 4 อย่าได้มีฐานะ ตกต่ำไปเป็นสัตว์นรก เปตร อสุรกาย และ สัตว์เดรัจฉาน เลย เพราะว่า โอกาสสร้างกุศลในเพศ มนุษย์ มีได้ยาก ประโยคอื่น ฉันอาจจะไม่เข้าใจเลยในขณะนั้น แต่ประโยคนี้ เป็นประโยคที่ทำให้ฉันไม่ท้อถอย ในการภาวนา "อันบัณฑิตทั้งหลาย แม้จะประสบทุกข์เจียนตาย ก็ไม่ทิ้งธรรม" ขอดวงตาเห็นธรรม จงมีแก่ท่านเถิด ขอความสำเร็จในธรรม จงมีแก่ท่านเถิด ขอท่านทั้งหลาย จงถึงซึ่ง ความสวัสดี เถิด เจริญพร หัวข้อ: Re: ภาวนา ให้จิต สาธารณะ ดั่งดอกหญ้า เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤษภาคม 30, 2017, 09:34:00 pm ขออนุโมทนาสาธุ
|