หัวข้อ: แจกธรรมหลังออกจากกรรมฐาน 35 ชม เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ มิถุนายน 12, 2017, 08:58:46 am ( แจกธรรมหลังออกจากกรรมฐาน 35 ชม จะเข้าต่อเนื่องอีกครั้ง เวลา 19.00 น. )
ออกจากกรรมฐาน ตี 3.40 น. ก็พักเอนกายต่ออีกหน่อย ตื่นอีกครั้ง 05.45 น. พิจารณา ธรรม ด้วยการ พิจารณา สังขาร ทุกขเวทนา มีโทมนัส มีโสมนัส มีอุเบกขา เหล่านี้ เกิด ขึ้นเพราะ อวิชชา เป็นปัจจัย จึงมีเรา มีของเรา มีตัวมีตนของเรา ตนส่วนนี้ไม่ใช่ร่างกาย ไม่ใช่ รูปขันธ์ แต่เป็น วิญญาณขันธ์ ที่เดินทางอย่างไม่รู้จักสิ้นสุด ไม่รู้จัก เหนื่อยหลาบจำกับความทุกข์ เมื่อจิตเสวยโทมนัส โสมนัส อุเบกขา จึง ยึดถือว่า เรา นั่น เรา นั่นของเรา นั่นตัวตนของเรา บุญก็ของเรา ทานก็ของเรา ศีลก็ของเรา ภาวนาก็ของเรา อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ระดับสูงจริง ๆ อย่างนี้ถึงจะเห็นว่า ทุกสรรพสิ่ง ไม่มีอะไร ที่น่าอาลัย หรือ ให้หลงรัก เลย รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ทั้งน่ารื่นรมย์และไม่น่ารื่นรมย์ ก็เป็นเพียง ความว่างเปล่า ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน รูปทีใกล้ รูปที่ไกล หยาบ หรือ ละเอียด เลว หรือประณีต อันบุคคลไม่ควรเข้าไป ยึดมั่น ถือมั่น เป็นของไม่เที่ยง เป็นของไม่สะอาด เป็นสิ่งที่่ไม่เที่ยง เป็นสิ่งที่ไม่สะอาด อันใคร ๆ ไม่ควรบอกว่า นั่นเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ โสมนัส โทมนัส อุเบกขา อันย้อมด้วยอามิส และหรือไม่ได้ย้อมด้วยอามิส ก็ไม่ควรพอใจ หรือไม่พอ เพราะไม่มีความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตนเลย รูป สวย หรือ ไม่สวย งาม หรือ ไม่งาม รูปที่เป็นกลาง มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างนั้น เสียง ที่ไพเราะ หรือ ไม่เราะ หรือ เสียงที่เป็นกลาง มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างนั้น กลิ่นที่ ที่สบาย หรือ ไม่สบาย หรือ กลิ่นที่เป็นกลาง มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างนั้น รส ที่อร่อย หรือ ไม่อร่ิย รสที่เป็นกลาง มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างนั้น สัมผัส อันชอบใจ และ ไม่ชอบใจ ที่เป็นกลาง สัมผัสมีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างนั้น ธรรมและอารมณ์ ที่กระทบกับ ความรู้สึก นึกคิด จำได้ และกำหนดรู้นั้น มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างนั้น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และ ธรรมารมณ์ อันอาศัยเรือนคือกายมีรูปขันธ์ อันอาศัยจิตที่ประกอบด้วยความชอบ ความชัง ความเป็นกลาง อันไม่ควรกำหนัดยินดี หรือส้องเสพด้วยความขัดเคือง เพราะว่างจากเรา ว่างจากของเรา ว่างจากตัวตนของเรา นามกาย อันอาศัยธรรมชื่อว่า ความถือตัว มีความชอบ มีความชัง ทั้งที่เป็นอดีต และอนาคต ทั้งที่เป็นปัจจุบัน ภายใน หรือ ภายนอก หยาบ หรือ ละเอียด เลว หรือ ประณีต อยู่ในที่ใกล้ อยู่ในที่ไกล เป็นสิ่งปฏิกูล เป็นของน่าเกลียด เป็นไปกับธรรมารมณ์ ที่ จำไว้ รู้สึก และปรุงแต่ง อันบุคคลไม่พึงเสพว่า เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา ภูตกาย ที่อาศัย สัญญา และ เวทนา สืบต่อว่า นี่เป็นเราเป็นฉันเป็นข้าเป็นเอ็งเป็นกูเป็นตัวเป็นตน ก็สิ้นสุดลงเพราะรู้ตามความเป็นจริงว่า เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ปราศจากความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตน อันบุคคลไม่พึงเข้าไปยึดมั่นถือมั่นว่า นั่นเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา ภูตกายที่เป็นอดีต มีเหตปัจจัย อย่างนี้ ก็เกิดอย่างนี้ เมื่อรู้เหตอย่างนี้ ก็ดับเหตุนั้นเสีย เมื่อเหตุนั้นดับ ดังกระดิ่งที่ต้องลม พัดไปพัดมา มีเสียงฉันใด เมื่อจิตได้เห็นได้ยินได้กลิ่นได้รส ได้ถูกต้อง ได้รู้ ก็เป็นสักว่า ความเกิดขึ้น ความตั้งอยู่ และดับไปอย่างนี้ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงอันบุคคลไม่พึงเข้าไปอาลัย เพราะเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป อย่างนั้นนั้นเทียว ขอดวงตาเห็นธรรม จงมีแก่ท่านทั้งหลายเถิด ขอความสำเร็จ ในธรรมจงมีแก่ท่านทั้งหลายเถิด ขอความสวัสดี จงมีแก่ทุกท่านเถิด เจริญธรรม / เจริญพร หัวข้อ: Re: แจกธรรมหลังออกจากกรรมฐาน 35 ชม เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มิถุนายน 12, 2017, 08:22:08 pm ขออนุโมทนาสาธุ
หัวข้อ: Re: แจกธรรมหลังออกจากกรรมฐาน 35 ชม เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ มิถุนายน 13, 2017, 09:51:06 pm :25: st11 st12
|