หัวข้อ: แนะนำคนกรุงเทพ นะคร้า.. กับร้านอาหาร อร่อย ๆ ( ใครไปชิมมาแล้วมาบอกด้วย ) เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ ธันวาคม 31, 2010, 09:09:57 am 50 ร้านอร่อยในกรุงเทพฯ
(http://board.postjung.com/data/513/513544-topic-ix-0.jpg) 1. โจ๊กสามย่าน : ถามใครๆ ก็บอกว่า ทีเด็ดอยู่ที่หมูหมัก ก้อนกลมกล่อม ประกอบกับเปิดขายเฉพาะ ช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน และช่วงเย็น ประมาณหลังเลิกเรียนพอดี เลยกลายเป็น เสบียงให้นิสิต อิ่มท้อง จนเรียนจบมาแล้ว นักต่อนัก 2. ข้าวราดแกงวัดเล่งเน่ยยี่ : ในซอยมังกร ข้างวัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจริญกรุง ขึ้นชื่อในแกงประเภทแกงกะทิ โดยเฉพาะแกงกระหรี่เนื้อ.. มาขายตั้งแต่ ประมาณ 16.00น. เป็นต้นไป 3. โจ๊กหม้อดิน ซอยมหาดไทย : ใช้หม้อดินมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เพราะหม้อดิน เป็นภาชนะธรรมชาติ ปลอดสารพิษ เวลาโดนความร้อน แถมเก็บ ความร้อนไว้ได้นาน เนื้อหมูใช้หมูที่ ไม่มีมัน ส่วนข้าวก็ใช้ข้าวหอมมะลิ ปัจจุบันเปิดขาย แฟรนไชส์ แบ่งปันกำไร และความอร่อย กันให้ทั่วๆ สนใจติดต่อที่ โทร 934-3995 4. ข้าวขาหมูสีลม : อยู่ในซอยตรงข้าง โรงพยาบางเลิดสิน คนแถวนั้นรู้จักในนามขาหมูโกโก้ ใครอยากมาลอง ต้องรีบมาช่วงเที่ยง หลังบ่ายโมงไม่รับประกัน เพราะจะขายหมดเร็วมาก 5. ข้าวมันไก่ตอนประตูน้ำ : นอกจากข้าวและไก่จะมีรสดีได้มาตรฐานแล้ว ที่ใครๆ ออกปากเห็นจะเป็นน้ำซุปร้อนๆ หอม และหวานน้ำต้ม กระดูกไก่ 6. ข้าวหมูแดงสีมรกต : ไม่ต้องสงสัยว่าข้าวหมูแดงทำไมเป็นสีเขียว..จริงๆ แล้วคือนามสกุลเจ้าของร้าน มีทีเด็ดตรงที่ทุกอย่า งล้วนผ่านกรรมวิธีการย่าง ย่างมาตลอดสี่สิบกว่าปี ร้านอยู่ในตรอกโรงหมู ตรงข้ามวัดไตรมิตร ขายเวลา 11.30น.-22.00น 7. ข้าวขาหมูเหม่งจ๋าย : จากแยกเหม่งจ๋ายมุ่งหน้า มาทางที่จะทะลุ ถนนเลียบทางด่วน จะเห็นร้านอาหารหลายร้านอยู่ด้านขวามือ ข้าวขาหมูร้านที่ว่าเป็นที่ชื่นชอบของคนรัก เครื่องในและหมูกรอบ 8. ข้าวผัดปู : อาหารจีนชนิดอื่นๆ ทั้งกระเพาะปลา รังนก กระทั่งหูฉลาม ทั้งหมดราคาย่อมเยาว์ และรสชาติสมเป็น อาหารจีนแท้ๆ โดยไม่ต้องขึ้นเหลา มีผัดหมี่หยังโจว กับข้าวผัดปูเป็นเมนูหลัก ร้านเปิดขายประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้าแยก ณ ระนอง ตรงข้ามสโมสรการท่าเรือ 9. ก๋วยเตี๋ยวหลอดเยาวราช : ร้านแรกเป็นรถเข็น อยู่ต้นถนนเยาวราชฝั่งขวา ก่อนแยกเข้าถนนผดุงด้าว สังเกตได้จากปริมาณคลื่นคน ที่อออยู่หน้าร้าน ลูกค้าบอกว่ามีดีที่เครื่องเยอะ และรสชาติเข้มข้น หรือถ้าอยากชิมก๋วยเตี๋ยวหลอด แบบที่ยังคงความเป็น หลอดไว้ ก็ต้องเดินเลยมาอีกนิด อยู่ฝั่งซ้ายมือ ปากซอยที่มีร้าน 7-11 อยู่ด้านใน เด็ด..เช่นกัน 10. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสศรีย่าน : ตู้ใส่เส้นและลูกชิ้นค่อนข้างเก่า เนื่องจากทำมาหลายสิบปี แต่ก็ยังคงความอร่อยของลูกชิ้นไว้เช่นเดิม อยู่บริเวณตลาดศรีย่าน 11. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเด้งได้ : เป็นร้านพี่น้องอยู่ใกล้ๆ กัน บริเวณท่าน้ำราชวงศ์ กระซิบว่าเจ้าของร้านไม่ค่อยอยากให้ลง แต่เพราะความอร่อยของลูกชิ้น และเส้นที่เหนียวนุ่ม เราจึงจำเป็นต้องแนะนำ 12. หมี่กรอบจีนหลี สมัย ร.5 : เรื่องมีอยู่ว่า คุณทวดของเจ้าของร้านอพยพ มาจากเมืองจีนมาทำหมี่กรอบ ขายอยู่ บริเวณท่าน้ำตลาดพลู ซึ่งเป็นย่านที่มีขุนนางอาศัยอยู่เยอะ วันหนึ่งพระพุทธเจ้าหลวง ปลอมพระองค์เสด็จฯ ตรวจราชการ แล้วทรงได้กลิ่นหมี่ ใกล้สุก เมื่อเสด็จฯ ครั้งต่อๆ มาจึงแวะเสวย และมีพระราชดำรัส ให้ไปผัดในวัง ปัจจุบันหมี่กรอบจีนหลี ยังตั้งอยู่ที่เดิม ขายสิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม 13. ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย สมทรงโภชนา : เจ้าของสูตรซึ่งเป็นชาวสวรรคโลกแท้ๆ เพิ่มเสียชีวิตได้ไม่นาน พี่วรรณลูกสาว จึงรับหน้าที่ปรุงรสก๋วยเตี๋ยว ให้ได้ครบรส เดิมตั้งอยู่ใน ซอยวัดสังเวช ถนนท่าพระอาทิตย์ เดี๋ยวนี้ขยับขยายขึ้นไปอยู่ บนศูนย์ อาหาร เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว 14. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาโบราณ จันทบุรี : ร้านตั้งอยู่เลยวัดตรีทศเทพ เลี้ยวซ้ายไปเล็กน้อย เป็นลูกชิ้นปลาทำเองจากเจ้าของร้าน กิตติศัพท์ เรื่องรสชาติมีมาก พอๆ กับการไม่ง้อ ลูกค้า คนเรื่องมาก ต้องระวัง จะถูกเชิญให้ไปรับประทานร้านอื่น 15. ก๋วยเตี๋ยวไหหลำ : แปลกกว่าก๋วยเตี๋ยวธรรมดาตรงเส้นที่คล้ายเส้นเกี้ยมอี๋ แต่ยาวกว่า ใส่ผักกาดดองตามสูตรไหหลำ เนื้อหมูและวัวเลือกมาอย่างดี อยู่ตรงสะพานขาว ถนนลูก หลวง ใกล้โรงหนังแอมบาสเดอร์เก่า 16. เย็นตาโฟวัดแขก ถนนสีลม : ใครเคยไปบริเวณวัดแขก จะเห็นว่าทุกร้านล้วนขึ้นป้ายว่าเย็นตาโฟวัดแขกเจ้าเก่า แนะนำได้เพียงว่า ร้านดั้งเดิมคือร้านที่อยู่ใกล้กับวัดแขกมากที่ สุด แต่เรื่องรสชาติต้องลองชิมดูเองว่าร้านไหนจะถูกปากใครมากกว่า จานเด่นจานเด็ด 17. ไก่ย่างแม่วันเพ็ญ : ไก่ย่าง และไก่ย่างทอดร้อนๆ ทอดจนกรอบ แล้วโรยเครื่องเทศให้หอม เข้าได้ทั้งจากซอยอาภาภิรมย์ ข้างกรมการค้าส่งออก ถนนรัชโยธิน หรือจากซอย โชคชัย 4 ถนนลาดพร้าวก็ได้ ผู้ไม่คุ้นทางสามารถโทรศัพท์ สอบถามได้ที่ 0 1818 2608 18. กระเพาะปลาน้ำแดง : ใช้เวลาเตรียมแต่เช้ามืดเพื่อเปิดขายตอนประมาณสี่โมงเย็น ถึงสี่ทุ่ม เพราะต้องเคี่ยวกระดูกไก่นาน 4 ชั่วโมง ผสมกับเครื่องปรุงอย่างดี ทำให้ได้น้ำ หอมหวาน แต่เดิมขายในรถ เดี๋ยวนี้กลายเป็นแผงอยู่หน้าที่จอดรถ ตลาดสวนหลวง ใกล้สนามกีฬาแห่งชาติ 19. อาหารไทย ร้านครัวอรรถรส ซอยเสือใหญ่อุทิศ : มีทั้งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ส้มตำผลไม้ ขนมจีนน้ำเงี้ยว ฯลฯ รวมไว้ในร้านเดียวกัน เจ้าของรวบรวมอาหารอร่อย จากที่ต่างๆ มา พัฒนารสชาติ ปรับส่วนที่เข้มข้นเกินไป ให้อร่อยลงตัวไปอีกแบบ หาร้านไม่เจอ โทรศัพท์ถามได้ที่ 0 2541 7043 20. ส้มตำจตุจักร : ฝั่งตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. ผ่านซุ้มหนังสือเก่าเลี้ยวขวา จะเจอร้านส้มตำฝุ่นตลบ ซึ่งมีอาหารอีกหลายอย่าง ให้เลือก อาทิ ไก่ทอด หมูยอ ก๋วยจั๊บญวน ที่อร่อย อาจเป็นเพราะรอนานจนหิวก็เป็นได้ 21. ปลาหมึกย่างสยามสแควร์ : คุณป้าใช้ปลาหมึกสดๆ จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด ราคาอาจสูงไปนิด แต่ก็สมเหตุสมผลกับค่าทำเล และคุณภาพอาหารอยู่ในสยามสแควร์ ซอย 4 22. ไก่ทอด 7 กระทะ : ไก่ทอดจนกรอบเกรียม รวมกับกระเทียมเจียวร้อนๆ ทำให้มีลูกค้ามากมายมายืนรอ เมื่อไม่ทันใจจึงต้องใช้กระทะถึง 7 ใบ จากแยกรัชดา-สุทธิสาร มุ่ง หน้าเข้าแยกที่จะลัดออกสู่ลาดพร้าว อยู่ทางซ้ายมือ 23. ไก่ทอดเจ๊กี : บางคนเรียกไก่ทอดโปโล เพราะตั้งอยู่ในซอยโปโล ตรงข้ามสวนลุมพินี เป็นร้านเก่าร้านแก่ตั้งแต่รุ่นเจ๊กี คือคุณแม่ คิดสูตรไก่ทอดโรยกระเทียมเจียวหอม พร้อม อาหารประเภทส้มตำน้ำตก เปิดบริการตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า มีบริการจัดส่งบริเวณใกล้เคียง โทรศัพท์สั่งได้ที่ 0 2655 8489 24. เป็ดย่างพูลสิน : เลยวัดตรีทศเทพมาเล็กน้อย เป็ดย่างสุกกำลังเหมาะจนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว 25. ห่านพะโล้ฉั่วคิมเฮง : ตรงมาจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ข้ามแยกคลองตันมาถนนพัฒนาการ จะเห็นร้านใหญ่ซ้ายมือ ร้านดั้งเดิมปัจจุบัน ยังอยู่ท่าดินแดง ชื่อฉั่วกิมฮวด เก่าแก่ จนได้รับฉายาว่าเป็นห่านสามชั่วคน 26. ไก่ย่างจิรพันธ์ : ร้านขายอาหารอิสลามล้วนๆ นอกจากไก่ย่างยังมีเนื้อสะเต๊ะ ข้าวหมกไก่ แถมด้วย ข้าวหมกแพะ จากถนนรามคำแหงเลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 มุ่งหน้าไป ทางมอเตอร์เวย์ จะอยู่ทางซ้ายมือ เลยปั๊มเชลล์ ไปประมาณ 500 เมตร 27. เนื้อย่างเกาหลี สูตรบึงพลาญชัย : ต้นตำรับดั้งเดิมขายอยู่ใกล้ๆบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด คุณนิภานำสูตรมาตั้งร้านที่หมู่บ้าน ต.รวมโชค ซอยโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปรอบๆ หม้อย่าง สามารถทานได้เลย เพราะผ่านการปรุงมาแล้ว 28. สะอาด : ขายเสต๊กที่ผ่านการดัดแปลงรสชาติ ให้เข้ากับคอคนจีนได้เป็นอย่างดี ในร้านยังมีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน อยู่บนถนนอิสรภาพ ใกล้สี่แยกบ้านแขก 29. ห่านพะโล้สะพานเหลือง : ผ่านการต้มมาอย่างดีจนเนื้อไม่เหนียว และไม่คาวเหมือนห่านพะโล้ทั่วๆไป อยู่ย่านสะพานเหลือง ริมถนนพระราม 4 ถ้ามุ่งหน้าหัวลำโพงจะอยู่ ด้านซ้ายมือ ก่อนถึงแยกบรรทัดทอง อาหารว่างและของหวาน 30. กาแฟโบราณเอี๊ยะแซ : โบราณสมชื่อ เพราะเปิดมาแล้วเจ็ดสิบกว่าปี ใช้เมล็ดกาแฟจากไร่ประจำ นำมาคั่วทำให้ได้รสกาแฟแท้ดั้งเดิม เปิดรับคนตื่นเช้าตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไปจนถึง สี่ทุ่ม ที่ร้านบนถนนเยาวราช-พาดสาย ตรงข้ามเท็กซัสสุกี้ นอกจากนี้ยังหาดื่มได้ ตามศูนย์อาหารทั่วกรุงเทพฯ และเซ็นเตอร์พ้อยท์ เอาใจคอกาแฟรุ่นใหม่ 31. ขนมเบื้องวังเดิม : สังเกตเห็นได้ง่าย เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่า ขนมเบื้องธรรมดา ใช้แป้งถั่วเขียวละเลงเป็นแผ่น เพราะหอมกว่าแป้งสาลี แล้วเคลือบด้วยไข่ มีให้เลือกทั้งไส้ หวาน และไส้เค็มชื่อวังเดิม เพราะร้านเก่าอยู่แถววังเดิม เดี๋ยวนี้อยู่ลานอาหารไทย ดิโอลด์สยามพลาซ่า 32. ไอศกรีมทิพรส : ไอศกรีมกะทิหลากชนิด มีให้เลือกทั้งกะทิโบราณ กะทิรวมมิตร และกะทิทรงเครื่อง มีบริการแพ็คกลับบ้านได้ ราคาไม่แพง อยู่บริเวณสี่แยกเตาปูน มุ่งหน้า ไปทางตลาดเตาปูน 33. ร้านขนมไทยหวานดำรงค์ : ร้านปัจจุบันเปิดมาตั้งแต่ปี 2508 ได้มรดกทางฝีมือการทำขนมมาจากคุณแม่ ซึ่งเจ้าของร้านถ่อมตัวว่า ไม่ได้มาจากวังไหน แต่คุณหญิงหลายๆ ท่านก็มาสั่งทำขนมชั้นขนาดใหญ่ตะโก้ และขนมเปียกปูน อยู่เสมอๆ ร้านเปิดเจ็ดโมงเช้า ถึงหนึ่งทุ่ม หยุดวันอาทิตย์ อยู่ในตลาดเจริญ ผล ใกล้สี่แยกเจริญผล หรือจะโทรศัพท์สั่งก็ย่อมได้ ที่ 0 215 2345 34. ถั่วแปบ ซอยละลายทรัพย์ : เดิมขายสาคูและข้าวเกรียบปากหม้อ แล้วมาทำถั่วแปบเสริม แต่ด้วยความที่ถั่วแปบเจ้านี้แป้งนิ่มกำลังดี ลูกค้าหันมาซื้อกันมากจนทำไม่ทัน จึงต้อง หันมาขายเฉพาะถั่วแปบเป็นหลัก ที่ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม 35. ปอเปี๊ยะ/ มะตะบะ ท่าพระจันทร์ : กรรมวิธีการทอดต่างจากร้านอื่น ตรงทอดแป้งเป็นแผ่นบางโรยด้วยไส้ นำมาซ้อนกัน 3 ชั้น ห่อด้วยแป้งแล้ว จึงทอดอีกครั้ง วิธีนี้จะทำให้ มีความกรอบ และนุ่มพอดิบพอดี ร้านใกล้ๆ กันขายปอเปี้ยะทอด ที่ใส่เครื่องกุ้ง และหมูสับเต็มๆ คำ รสดีด้วยเครื่องเทศและความกรอบใหม่ 36. โรตีกรอบ หน้าเพาะช่าง : พัฒนามาจากโรตีแผ่นกลมธรรมดา มาเป็นโรตีแผ่นสี่เหลี่ยมทอดจนกรอบ ใส่กล่องหรือใส่จาน แนะนำให้ทานร้อนๆ จะอร่อยเป็นทวีคูณ 37. เซ็งซิมอี๊ : อี๊ หมายถึงแป้งที่ปั้นเป็นรูปร่างต่างๆ ส่วนเซ็งซิม หมายถึงชื่นใจ เซ็งซิมอี๊ ร้านที่ว่าเป็นร้านสะท้านโลกันต์ อยู่บริเวณตลาดสวนหลวงเช่นกัน ขายช่วงเย็นๆ ไปจน ค่อนคืน 38. ลอดช่องสิงคโปร์ : ชื่อร้านประโยชน์ อยู่ระหว่างสามแยกกับวงเวียน 22 เป็นร้านเล็กๆ แต่รสชาติไม่เล็กเหมือนร้าน 39. ไอศกรีมไข่แข็ง : โดยการใส่ไข่แดงล้วนๆ ลงในไอศกรีมกะทิ ความเย็นจะกลบกลิ่นคาว กลายเป็นรสชาติหอมมันแทน ร้านอยู่ถัดจากเซ็งซิมอี๊ที่ตลาดสวนหลวงไปประมาณ 2-3 ห้อง 40. ซ่าหริ่มชูถิ่น : บอกชื่อไป ไม่มีใครไม่รู้จัก ขายทั้งซ่าหริ่มและขนมไทยอีกหลายชนิด คนชอบทำขนมหลายคน ดีอกดีใจที่ร้านนี้มีแป้ง ทำขนมขาย พร้อมวิธีทำบอกเสร็จสรรพ แต่จริงๆ แล้วร้านเขาขายแป้งมาแต่เดิมต่างหาก 41. มนต์ นมสด : ชื่อร้านคือชื่อเจ้าของร้าน คุณมนต์ช่วยคุณพ่อทำร้านนม-กาแฟ มาตั้งแต่ 10 ขวบเริ่มตั้งแต่เป็นรถเข็น ย้ายที่แล้วที่เล่าจนมาได้ที่ปัจจุบันอยู่ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพฯ เปิดขายตั้งแต่14.00น. 42. ราดหน้า 4 สี : คือสีของเส้น รวมกับสีน้ำตาลของหมูหมัก สีเหลืองของไข่ดาว และสีน้ำตาลเข้มของหมูแฮม ซึ่งจริงๆ แล้วคือหมูทอดกระเทียม แต่ลูกค้าเห็นว่าอยู่คู่กับไข่ดาว ก็เลยพากันเรียกหมูแฮมจนติดปาก ร้านชิ้งกี่ เคยมีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ รวมทั้งคนใหญ่คนโตหลายๆ ท่านมาแล้ว อยู่ ใกล้สวนรมณีย์นาถ ถัดจาก ซอยร้านหวายนายเหมือนไปหนึ่งซอย 43. ผัดไทยสำราญราษฎร์ : ผัดไทยร้านนี้เป็นผัดไทยกุ้งสดเจ้าแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ตรงข้ามประตูผัดวัดสระเกศ ใกล้ๆ กันมีผัดไทย ทิพย์สมัย ให้เลือกชิมได้อีกที่ ในบริเวณ เดียวกันจะมีอาหารอร่อยหลายร้าน แต่ขอให้ระวังสอบถามราคาก่อน เพราะอาหารบางร้าน ก็ราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ 44. เย็นตาโฟประตูผี : เลยร้านผัดไทยมาจะเห็นร้านตี๋เย็นตาโฟ อยู่ตรงหัวมุมแยกสำราญราษฎร์ ตั้งโต๊ะขายช่วงกลางคืนเต็มพื้นที่ และคนก็มากพอๆ กับจำนวนโต๊ะ สอบถามได้ ความว่าลูกชิ้นมีหลากหลาย และน้ำซุปก็อร่อย เกินหน้าเกินตาเย็นตาโฟร้านอื่น 45. ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ : ร้านที่แนะนำนี้ทำทั้งก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ และก๋วยเตี๋ยวอบไก่ สูตรแรกจะคั่วเส้นกับไข่จนหอมแห้ง อีกสูตรใส่ไข่ แล้วปิดฝาหม้อให้กลิ่นอบอยู่ข้างใน อยู่ซอยตรง ข้ามโรงพยาบาลกลาง 46. ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล : ร้านนี้ขายทั้งคั่วทะเลและคั่วไก่ แต่ที่ขึ้นชื่อจะเป็นคั่วทะเล เพราะใส่ทั้งกุ้ง และปลาหมึกให้ด้วย อยู่ในซอยข้างตลาดวรจักร หาไม่ยาก แต่ทางวังเวงเล็ก น้อย สาวๆ อยากลองควรหาใครไปเป็นเพื่อนสักคนสองคน 47. ข้าวมันไก่เจ๊ยี : ตรงข้ามวัดสระเกศ ขึ้นชื่อเรื่องข้าวมันแสนนุ่ม และไก่ต้มยุ่ยกำลังดี ขายช่วงสายๆ จนถึงกลางวัน ต้องรีบไปเช่นกัน เพราะช้าหมดจะอดชิม 48. ข้าวต้มปลา 5 แยก : บริเวณ 5 แยกพลับพลาไชย ความอร่อยอยู่ที่ความสดของเนื้อปลากะพงปลาหมึก กุ้ง และหอยนางรมตัวโต เมื่อปรุงกับข้าวต้มร้อนๆ น้ำจะออกมาจาก 49. ก๋วยเตี๋ยวหลอด : ก๋วยเตี๋ยวหลอดในซอยข้าง สถานีตำรวจพลับพลาพไชย ก็มีข้อดีที่เส้นนุ่มกำลังดี ไม่เหนียวเกินไป ไม่เละเกินไป และไม่มันเกินไป ทานอร่อยได้ไม่แพ้ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 50. ก๋วยจั๊บเผ็ด : เนื่องจากตำเม็ดพริกไทยใส่ลงไป ตอนทำน้ำต้มกระดูก แถมโรยพริกไทยในชามอีกครั้ง เพื่อให้รสชาติเข้มข้น ถึงใจ มีสาขาอีกร้านเป็นญาติกัน เปิดร้านใหญ่อยู่ ตลาดเยาวราช แต่ความเข้มข้น อาจจะไม่เท่า เพราะที่นี่อาซิ่มท้าว่า คนเป็นหวัดมากิน หวัดหายกันมาแล้วทุกราย ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยโรงเลี้ยงเด็ก แต่เจ้าของบอกว่า อยู่ในซอยนาคบำรุง ต่างหาก ตัวเนื้อ ทำให้ข้าวต้มหอม และหวาน ใครเคยไปกินที่ไหนมาแล้วบ้างเอ่ย ? หัวข้อ: 10 ความลับสุดยอดที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับร้านอาหารริมทาง เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ ธันวาคม 31, 2010, 09:19:39 am "10 ความลับสุดยอด"..ที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับร้านอาหารริมทาง ..
ผมเองเป็นเจ้าของร้านอาหาร มีประสบการณ์ต่างๆมามากมาย อยากมา share ให้คุณทั้งหลายได้อ่านเล่นๆ ลองสังเกตุดูนะว่า มันจริงมั้ย? 1. แก้วน้ำล้างแบบไม่ใช้น้ำยาล้างจาน เกือบทุกร้าน 90% จะล้างแบบจ้วงๆ น้ำสักสองสามครั้งเป็นอันเสร็จพิธี แล้วมันจะสะอาดมั้ยเนี่ย ยิ่งหวัด 2009 กำลังระบาดอยู่ด้วยนะ...เสียว จริงๆ 2. ประหยัดน้ำล้างจานกันจัง กะละมังเดียว ล้างเกือบ 200 จาน ร้านเหล่านี้มักมีแหล่งน้ำน้อย หรือต้องจ่ายตังค์ค่าน้ำแพง 3. ตะเกียบเก๊า-เก่า บางร้านเป็นพลาสติกด๊ำ-ดำ บางร้านใช้ไม้ไผ่ขึ้นราดำ....เฮ้อ... เศร้าง่ะ 4. กระทะผัดแล้วผัดอีก จนมีแต่กลิ่นไหม้ ระหว่างจานแค่ราดน้ำแล้วใช้ตะหลิวเขี่ยกระทะดัง เชี๊ยะ เชี๊ยะ เชี๊ยะ เป็นอันเสร็จ เรียกว่าไม่ล้งไม่ล้างมันแหละ... 5. น้ำเปล่าที่ให้กินฟรีน่ะ น้ำก๊อกล้วนๆ บางร้านใจดีใช้น้ำก๊อกมาต้มกะใบชา โอเคล่ะครับ ถือว่าน้ำประปาดื่มได้? (จิงอะ?) 6. ทำไมมีแต่ข้าวเสาไห้ง่ะ มีข้าวหอมมะลิบ้างไหมครับ หรือว่าคนรุ่นใหม่กินข้าวหอมมะลิไม่เป็น ??? 7. เกือบทุกร้านไม่ใช้น้ำปลาทิพรสจริง เอาน้ำปลาถูกๆ มากรอกใส่ขวดทิพรสเฉยเลย ถ้าโชคดีก็เจอร้านที่เปลี่ยนพริกทุกวัน โชคร้ายเจอพริก ? ทับถมกันข้ามปี! 8. ผัดกะเพรายอดฮิตของทุกท่าน มีส่วนผสมของผงชูรสประมาณ 1 ช้อนชาพูนๆ (ถ้าคุณกินทุกวัน ปีนึง 300 กว่าช้ อนชา) มิน่าแชมพูหยุดการหลุดร่วงของเส้นผมจึงขายดี๊-ดี อีกอย่างมีร้านไหนล้างกะเพราบ้าง สังเกตมาหลายร้านแล้ว เด็ดจากกิ่งมาผัดไม่เคยเห็นร้านไหนล้างเลย แล้วขี้ดิน สารพิษฯลฯ เต็มๆครับ แถมหมูก็ให้แม่ค้าที่ตลาดใส่เครื่องปั่นออกมาเสียละเอี ยด ไม่มี การล้างอย่างเด็ดขาด! แหวะ กินกันเข้าไป 9. น้ำมันที่ใช้ผัด เป็นน้ำมันเก่า ( ผ่านการทอดจนใช้ไม่ได้แล้ว) เขาจะเก็บรวบรวมใส่ปี๊บเก่าๆ (ขึ้นสนิมง่ะ) และขายต่อให้พ่อค้านำไปผ่านกรรมวิธี แล้วนำมาแบ่งถุงขาย... (มะ เร็ง ทั้ง นั้น เลย ค๊าบ พี่น้อง! ) 10. เคยกินหมูนุ่มๆ เนื้อนุ่มๆ มั้ยครับ แหะๆ ทั้งหมดนั้นเค้าไม่ได้หมักด้วยกรรมวิธีธรรมชาติหรอกครับ ใช้ผงปีศาจ (เพื่อนผมเรียกผงปีศาจฮะ) มาหมักให้นุ่มเร็วๆ ที่สำคัญไม่มียี่ห้อไหนผ่านการรับรองด้วย อิอิ อยากรู้ว่าแรงแค่ไหน ใ ห้ตักใส่มือสัก 1/4 ช้อนชาครับ หยดน้ำลงไป 1 หยด กำไว้ 1 นาที หนังมือไม่ลอกก้อแสดงว่าคุณไม่ใช่มนุษย์แล้วล่ะคร๊าบบบบ ผมทำร้านอาหารมานาน...เห็นสิ่งเหล่านี้ในสังคมไทยแล้ว รับไม่ด๊าย... รับไม่ได้ครับ... ถ้าคุณไม่แคร์ก็ช่างปะไร แต่ผมห่วงใยสุขภาพคุณนะครับ! |