หัวข้อ: หมอผีวางคุณไสย "หลวงพ่อคูณ" บังอาจเสกหนังควายเข้าท้อง สุดท้ายกรรมไปตกที่ลูกเมีย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 30, 2017, 09:24:28 am (http://img.tnews.co.th/userfiles/images/paragraph__1_552.jpg) ไม่รู้จักบาป..หมอผีชั่ววางคุณไสย "หลวงพ่อคูณ " บังอาจเสกหนังควายเข้าท้อง สุดท้ายกรรมไปตกที่ลูกเมีย ต้องมาคุกเข่าให้ช่วย.. หมอผีไม่เกรงกลัวบาป.. บังอาจทำคุณไสย หลวงพ่อคูณ เป็นที่รู้จักกันอยู่ว่าหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิอาจารย์ผู้โด่งดัง แห่งวัดบ้านไร่ ตำบลกุตพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ท่านเคยผจญกับสิงสาราสัตว์และภูตผีวิญญาณมามากมาย หรือแม้แต่พวกพ่อมดหมอผีที่โด่งดังทางไสยศาสตร์มนต์ดำ หลวงพ่อคูณท่านก็เจอมาแล้วเช่นกัน และท่านก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ทุกครั้งด้วยศิลปศาสตร์ทางคาถาอาคมที่ล้ำลึก และที่เราจะกล่าวถึงหลวงพ่อคูณในบรรทัดต่อไปนี้ จะกล่าวถึงเฉพาะตอนที่ท่านได้ผจญกับหมอผีชาวบ้านป่าที่ลองดีกับท่านในครั้งหนึ่ง ขณะท่านออกธุดงค์ไปตามป่าตามเขา เพราะไปขัดผลประโยชน์เขานั่นเอง ตอนที่หลวงพ่อคูณบำเพ็ญภาวนา อยู่ที่ภูควาย จนมีความคุ้นเคยกับชาวบ้านและผจญกับภูตผีวิญญาณอย่างเอกอุ รวมทั้งเสือโคร่งตัวเท่าม้าคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะเอาชีวิต หรือเป็นอารักขาหรือเปล่าไม่มีผู้ใดได้ล่วงรู้จิตใจเสือ @@@@@ กับชาวบ้านหลวงพ่อคูณได้รับความศรัทธาเลื่อมใสยิ่งนัก นอกจากท่านจะนำคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกเผยแพร่แล้วหลวงพ่อคูณท่านยังช่วยเยียวยารักษาคนป่วยจากโรคร้ายต่างๆด้วยสมุนไพร ทำให้เกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้า แต่ภายใต้ความศรัทธาของชาวบ้านป่านั้น กลับไปขัดผลประโยชน์กับหมอผีอยู่กลุ่มหนึ่งที่เคยทำมาหากินกับชาวบ้านมาช้านานซึ่งทำการรักษาด้วยวิธีการทางไสยศาสตร์และสมุนไพรที่รู้มางูๆปลาๆ ทำให้อาการป่วยของชาวบ้านไม่หาย ต้องเจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมาก มาทุเลาเบาบางลงก็ตอนที่หลวงพ่อคูณเข้าช่วยรักษาเยียวยา @@@@@ นี่แหละคือเหตุแห่งการอาฆาตลองดีหมายเอาชีวิต ขั้นแรกพวกมันทำด้วยวิธีเบาะๆ ก่อนคือตกกลางคืนพวกมันจะทำเป็นผีไปหลอก เอาไม้ไปขว้างปาหรือไม่ก็ทำเป็นเสียงเสือคำรามขู่เท่านั้น แต่ต่อมาเรื่องก็ลุกลามใหญ่โตขึ้น พวกหมอผีจึงตกลงกันเรียบร้อย เพื่อเดินทางขึ้นไปหาหลวงพ่อคูณที่กำลังบำเพ็ญเพียรอยู่บนภูควาย โดยพวกมันขึ้นไปเป็นกลุ่มอย่างเงียบๆ ในขณะเดียวกันหลวงพ่อคูณกำลังบำเพ็ญภาวนาอยู่ ก็มีความรู้สึกว่ามีคนไม่ต่ำกว่า ๒ คนกำลังเดินมายัง กลดของท่าน ท่านนิ่งและเงี่ยหูฟังอย่างสงบเพราะยังไม่ค่อยจะมั่นใจว่าจะเสียงเดินทางมานั้นเป็นคนหรือเป็นสัตว์ แทนที่ท่านจะกลัวจนลนลานกลับตรงกันข้ามท่านกลับพินิจพิจารณาเพียงอย่างเดียว หัวใจของท่านหาได้วอกแวกไม่ จากนั้นท่านก็ร่ายพระเวทขับไล่ออกไป แทนที่เสียงนั้นจะหยุดหรือเกิดปฎิกิริยาโต้ตอบกลับเงียบ นอกจากเสียงเดินใกล้มาเป็นลำดับ จากนั้นท่านก็ได้ยินเสียงดังงึมงำสลับด้วยเสียงของก้อนหินหล่นลงใกล้กับกลดของท่าน มันเป็นอย่างนี้อยู่เกือบชั่วโมง (http://img.tnews.co.th/userfiles/images/0290-071572%20(1).jpg) หลวงพ่อคูณ แรกๆ ท่านก็คิดไปว่าเป็นการกระทำของพวกภูตผีวิญญาณแต่พอมาวิเคราะห์อีกที หากเป็นการกระทำของพวกผีพวกวิญญาณมันก็มีการตอบโต้บ้างแล้ว แต่นี่มันยังไม่ยอมเลิกรา ท่านจึงมีความมั่นใจว่าเป็นการกระทำของคนที่ไม่หวังดีอย่างแน่นอน ท่านจึงได้ตะโกนสวนกลับก้อนหินที่หล่นลงกระทบพื้นด้วยเสียงงึมงำว่า พวกมึงมีอะไรกะกูก็ออกมาพูดกันดีๆ พวกมึงไม่ต้องมาทำลับๆล่อๆ กะกูอย่าอยู่ กูรู้ว่าพวกมึงนั้นเป็นสัตว์ประเสริฐ กูคิดว่าพวกมึงก็คงออกมาพูดกะกูรู้เรื่อง บรรดาหมอผีเมื่อเจอเข้าไม้นี้ก็ชักไม่แน่ใจเสียแล้ว เพราะพระรูปนี้ไม่ใช่พระธรรมดาอย่างที่คิด เมื่อพวกมันคิดได้ดังนั้นก็เผ่นลงจากดอยทันที แต่แทนที่พวกมันจะเกรงกลัวกลับกำเริมเสิบสานหนักข้อขึ้นไปอีก อย่างนี้มันต้องเสกหนังความเข้าท้องให้มันตายไปเลย ในเมื่อมันมาทำลายผลประโยชน์ของเรา พวกเราเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้เราทำกับข้าวไปให้มันกิน แล้วเอาหนังความเสกไปให้มันรองนั่งกินถ้ามันกินเพลินเมื่อไหร่ หนังควายเสกของเราจะห่อตัวให้เล็กลงแล้วเข้าไปในท้องของมัน @@@@@ มันจะได้รับความทรมานที่สุดเมื่อหนังควายเสกไปบานในท้องมัน มันจะปวดอย่างที่สุดแล้วก็ตาย และพวกกับข้าวเราก็เอาหนาม เอาพวกก้อนหินเสกเอาพวกก้อนหินเสกบังตามันให้เป็นข้าว เมื่อมันกินเข้าไปหนามก็จะแทงลำไส้ของมันแล้วก็ทรมานตายในที่สุด พวกหมอผีทำแบบไม่รู้บุญรู้บาป มันไม่สนใจหรอกว่าการฆ่าพระฆ่าเจ้านั้นเป็นบาปมหันต์ มันรู้แต่เพียงผลประโยชน์ที่พึงได้เล็กๆน้อยๆและความศรัทธาจากชาวบ้านคืนมาสู่พวกมันเท่านั้น และในเช้าวันรุ่งขึ้นพวกมันได้เอากับข้าวไปถวายหลวงพ่อคูณบนภูควายด้วยใบหน้าที่ยิ้มระรื่น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นการกลบเกลื่อน หลวงพ่อครับ กระผมนำข้าวปลาอาหารมาถวาย ขอท่านรับและฉันตามสบาย มันพูดพร้อมกับถวายสำรับกับข้าว "เอาเถอะกูจะฉลองศรัทธาของพวกมึง" (http://img.tnews.co.th/userfiles/images/p19ldkea19hcs15pd177914h2121k9.jpg) แต่หลวงพ่อคูณนั้นท่านผ่านเรื่องราวแบบนี้มากมาย ท่านจึงรู้เท่าทันทุกอย่าง ก่อนที่ท่านจะรับสิ่งของจากผู้ไม่หวังดีนั้นท่านได้มองสีหน้าและท่าทางด้วยจิตว่าพวกมันมาดีหรือมาร้าย ถึงจะรู้ท่านก็ฉลองศรัทธาอย่างเต็มที่ ไม่ปฏิเสธกับข้าวคาวหวานที่อยู่ในถาด จากนั้นพวกมันได้เอาหนังควายออกมาปู แล้วนิมนต์ให้หลวงพ่อคูณขึ้นไปนั่งเพื่อฉันอาหารที่พวกมันยกมาถวาย ท่านก็ฉลองศรัทธาด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นท่านก็ได้นั่งพิจารณาดูกับข้าวที่อยู่บนถาดอย่างถี่ถ้วน พร้อมกับได้ร่ายพระเวทในใจแล้วเป่าสำทับลงไปเป็นการทำลายมนต์ดำของชาวบ้านแบบหนามยอกก็เอาหนามบง เพราะหลวงพ่อคูณท่านเรียนผูกและเรียนแก้มาแล้ว ท่านจึงไม่หวั่นไหวอะไรแม้แต่น้อย และแน่นอนเมื่อพวกมันเล่นบังตาด้วยอาคมท่านก็บังตาพวกมันบ้าง จากนั้นท่านก็ฉันอาหารอย่องเอร็ดอร่อย @@@@@ "เสร็จกูแน่" พวกมันคิดในใจ แต่หารู้ไม่ว่าขณะที่ท่านฉันอาหารไปนั้นท่านคอยระวังอยู่ตลอดเวลา ท่านไม่ประมาทแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว หนังควายเสกที่ท่านนั่งทับอยู่มันกำลังหดตัวเข้าทีละนิดๆ ท่านก็คอยเป่าอาคมลงไปมันก็คลายออก สู้กันอยู่อย่างนี้จนกระทั่งท่านได้ฉันอาหารเสร็จ พวกมันก็เอาแต่ยิ้มด้วยความคิดที่ว่า เสร็จแน่ๆ กูฉลองศรัทธาของพวกมึงแล้ว อาหารทีเหลือพวกนี้กูฝากไปให้ลูกเมียพวกมึงกินกัน อย่าลืมนะเอาไปกินฉลองศรัทธาของกูบ้างเอ้าเอาไป แล้วพวกมึงกลับไปได้แล้วลูกเมียมึงคอย กูจะทำวัตรสวดมนต์อันเป็นกิจสงฆ์ พวกหมอผีที่เอาอาหารมาถวายหลวงพ่อคูณ หวังจะฆ่าให้ตายด้วยคุณไสยหนังควายและหนามเสก แต่ไม่อาจจะทำอะไรได้พวกมันจึงรีบลงจากภูควายกลับไปบ้าน แล้วนำอาหารสำรับนั้นให้ลูกเมียกินกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่พอตกบ่ายเท่านั้นเอง บรรดาลูกเมียต่างพากันปวดท้องร้องโอดโอยปานจะขาดใจตาย พวกมันพยายามทำน้ำมนต์ให้ดื่มแต่ก็ไม่หาย จึงจำเป็นต้องไปพึ่งหลวงพ่อคูณบนภูควายให้ช่วยรักษาเยียวยา @@@@@ พวกมึงพากันมาหากูอีกทำอะไร เฮ้อ แต่ก่อนทีพวกมึงจะทำทำไมไม่คิดกันบ้างหรือ พวกมึงคิดว่าพวกมึงวิเศษกว่าใครๆ นะสิ เป็นไงพอโดนเข้าบ้าง กูคิดแล้วว่าพวกมึงจะต้องกลับมาหากูอีก พวกหมอผีได้ก้มลงกราบพร้อมกับสารภาพผิดที่คิดฆ่าพระฆ่าเจ้า พวกผมทั้งหมดสารภาพผิดที่คิดฆ่าพระฆ่าเจ้า พวกผมทั้งหมดสารภาพผิดครับหลวงพ่อ พวกผมเห็นผิดเป็นชอบไปจริงๆ พวกผมขออภัย หลวงพ่อยกโทษให้พวกผมด้วยและช่วยลูกเมียของผมด้วยเถอะครับ พวกเขากำลังได้รับความทุกข์ทรมานเป็นที่สุด อีกอย่างพวกเขาไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ ในการกระทำของพวกผมเลย ถ้าหากท่านไม่ช่วยลูกเมียของพวกหมอผีแล้วให้เกิดความเวทนาสงสาร @@@@@ เออ..กูจะช่วยพวกมึงเอากุศล ที่หลังพวกมึงสังวรเอาไว้บ้างคนที่เก่งกว่าพวกมึงยังมีอีกเยอะ แล้วนี่พวกมึงบาปหนารู้ไหม ที่พวกมึงคิดจะฆ่าพระ ถ้าพวกมึงฆ่ากูสำเร็จพวกมึงจะได้รับกรรมอย่างมหันต์พวกมึงจะได้ลงอเวจี เรียกว่าไม่ได้ผุดได้เกิดเลยที่เดียว เอาล่ะพวกมึงไปตักน้ำมา กูจะทำน้ำมนต์ให้ลูกเมียมึงกินเร็วล่ะ ไม่งั้นลูกเมียของพวกมึงตายแน่ ก็เท่านี้เองหลวงพ่อคูณก็เอาชนะใจของพวกหมอผี พร้อมสั่งสอนให้รู้จักบาปบุญและดีชั่ว จนได้รับความเลื่อมใสศรัทธาในเวลาต่อมา หลวงพ่อคูณจึงเปรียบเสมือนหนึ่งเทพเจ้าในหัวใจของพวกเขาทุกคนในหมู่บ้านชาวเขาภูควายนับแต่นั้นเป็นต้นมา ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้ http://superstition55.blogspot.com (http://superstition55.blogspot.com) โดย ศิษย์มีครู เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์ เรียบเรียงโดยศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์ หัวข้อ: Re: หมอผีวางคุณไสย "หลวงพ่อคูณ" บังอาจเสกหนังควายเข้าท้อง สุดท้ายกรรมไปตกที่ลูกเมีย เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ สิงหาคม 30, 2017, 08:11:59 pm หลวงพ่อคูณแน่นอนจริงๆ
มีโรงงานกระเบื้องบุผนังแห่งหนึ่ง ไปขอสกรีนรูปท่าน ท่านก็อนุญาติ ขอทำบอกท่านว่าจำนวนหนึ่งเพื่อแจกพนักงานในเทศกาลปีใหม่ คนคุมเครื่องสกรีนบอกว่า พอครบจำนวนที่ขอ เครื่องหยุด ชงักทันที ทุกคนก็ทราบและ ไม่ฝืนที่จักทำต่อ ผมมีกระเบื้องนี้ 1 แผ่น เอาไปแปะ ไว้ที่หน้าห้องพระขอบประตูด้านบน วันหนึ่งตกลงมา สูงประมาณ 3 เมตร กระเบื้องที่มีรูปท่าน ตกมาไม่แตก ผมจึงเก็บเอาไว้ในห้องพระแทน ...ท่านไม่ชอบอยู่สูงกว่าพระพุทธเจ้า ครับ |