หัวข้อ: ออกคำสั่งให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรม ลงโทษพระภิกษุสามเณรประพฤติผิดอาจาร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 02, 2017, 06:31:16 am (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/10/S__13844819-728x972.jpg) (http://‘สมเด็จพระวันรัต-สมเด็จพระพุทธชินวงศ์’ออกคำสั่งให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรม-ลงโทษพระภิกษุสามเณรประพฤติผิดอาจาร) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระวันรัต ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ได้ออกคำสั่งเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ที่ 4/2560 เรื่องให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง ความว่า “อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7(1) ถึง (5) แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ เห็นสมควรให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง ดังนี้ 1. พระภิกษุสามเณรผู้ทำการอันละเมิดกฎหมายบ้านเมือง และพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ให้พระสังฆาธิการดำเนินการตามกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศมหาเถรสมาคมที่เกี่ยวข้อง และประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดกับพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว 2.พระภิกษุสามเณรผู้วิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงออกในแนวทางกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของประชาชน หรือส่อไปในทางยั่วยุ ปลุกปั่น ทำลาย ก้าวร้ายรุนแรงและไม่สร้างสรรค์ ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวมิให้กระทำการเช่นว่านั้น และหากเข้าข่ายละเมิดกฎหมายบ้านเมืองให้ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด คำสั่งเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ระบุต่อว่า 3.พระภิกษุสามเณรผู้มีอาจารไม่เหมาะสมเป็นที่ติเตียนของประชาชน ในลักษณะโลกวัชชะ เช่น การแสดงอากัปกิริยาไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดของตน การแสดงกิริยาวาจาไม่สมควรแก่สมณสารูป การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่ไม่เหมาะสม การใช้อุปกรณ์การสื่อสารผิดกาลเทศะ การไปสู่สถานที่อโคจร ฯลฯ ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมมิให้พระภิกษุสามเรณประพฤติตนแสดงออกหรือกระทำการเช่นว่านั้นโดยเด็ดขาด 4.พระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติตนไม่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และไม่รักษาเชิดชูพระธรรมวินัยให้เป็นวิถีทางประพฤติปฏิบัติของตนตลอดจนหมู่คณะ ให้พระสังฆาธิการกวดขัน ควบคุมพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว มิให้ประพฤติตนหรือกระทำการเช่นว่านั้นโดยเด็ดขาด และหากเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัย ให้ดำเนินการลงโทษตามพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ โดยเคร่งครัด คำสั่งเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ระบุต่อว่า ทั้งนี้ พระสังฆาธิการรูปใดไม่ดำเนินการหรือย่อหย่อนในการสอดส่อง กำกับ ดูแล กวดขัน ควบคุม อาจารพระภิกษุสามเณรและการบริหารจัดการวัดในเขตปกครอง หรือไม่ดำเนินการกับพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมตามความข้างต้น ต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ หากพระสังฆาธิการได้พยายามดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศของมหาเถรสมาคมแล้ว ยังไม่สามารถบังคับการให้เป็นไปตามนั้น ให้ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอการสนับสนุนและอารักขาจากทางราชการ (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/10/S__13844820-767x1024.jpg) ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้ออกคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่8/2560 เรื่อง อาจารพระภิกษุสามเณรและการบริหารวัดในเขตปกครอง ความว่า “อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7(1)(2)(3)(4)และ(5) แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 23(พ.ศ.2541) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ เห็นควรให้พระสังฆาธิการทุกระดับ สอดส่อง กำกับ ดูแล กวดขัน ควบคุม อาจารพระภิกษุสามเณรและการบริหารจัดการวัดในเขตปกครองโดยอบรม สั่งสอน ว่ากล่าวตักเตือนและหรือลงโทษ โดยสมควรแก่เหตุ ดังนี้ 1. พระภิกษุสามเณรผู้ทำการอันละเมิดกฎหมายบ้านเมือง และพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ให้พระสังฆาธิการดำเนินการตามกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศมหาเถรสมาคมที่เกี่ยวข้อง และประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดกับพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว 2.พระภิกษุสามเณรผู้วิพากษ์วิจารณืหรือแสดงออกในแนวทางกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของประชาชน หรือส่อไปในทางยั่วยุ ปลุกปั่น ทำลาย ก้าวร้ายรุนแรงและไม่สร้างสรรค์ ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวมิให้กระทำการเช่นว่านั้น และหากเข้าข่ายละเมิดกฎหมายบ้านเมืองให้ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด คำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ระบุด้วยว่า 3.พระภิกษุสามเณรผู้มีอาจารไม่เหมาะสมเป็นที่ติเตียนของประชาชน ในลักษณะโลกวัชชะ เช่น การแสดงอากัปกิริยาไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดของตน การแสดงกิริยาวาจาไม่สมควรแก่สมณสารูป การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่ไม่เหมาะสม การใช้อุปกรณ์การสื่อสารผิดกาลเทศะ การไปสู่สถานที่อโคจร ฯลฯ ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมมิให้พระภิกษุสามเรณประพฤติตนแสดงออกหรือกระทำการเช่นว่านั้นโดยเด็ดขาด 4.พระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติตนไม่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และไม่รักษาเชิดชูพระธรรมวินัยให้เป็นวิถีทางประพฤติปฏิบัติของตนตลอดจนหมู่คณะ ให้พระสังฆาธิการกวดขัน ควบคุมพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว มิให้ประพฤติตนหรือกระทำการเช่นว่านั้นโดยเด็ดขาด และหากเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัย ให้ดำเนินการลงโทษตามพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ โดยเคร่งครัด 5.การจัดทำป้ายโฆษณาติดประกาศในที่ต่างๆ เกี่ยวกับพิธีการปลุกเสกวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังโดยบรรดาเกจิอาจารย์ หรือป้ายโฆษณาอวดอ้างชวนเชื่อสรรพคุณเกจิอาจารย์ อันเป็นการมอมเมาประชาชน มิใช่วิถีพุทธ มิใช่วิถีสมณะ ส่อเจตนาไปในทางอเนสนา สุ่มเสี่ยงต่อการต้องอาบัติอันติมวัตถุ ให้ระงับการจัดทำนั้นเสีย หากได้ทำมาแล้วให้ปลดรื้อออกเสีย 6.อุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปฏิมา เป็นสถานที่ทำสังฆกรรม ทำวัตรไหว้พระสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา หรือทำการบุญการกุศลต่างๆ ต้องไม่จัดทำเป็นที่จำหน่ายวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังภายในอุโบสถ (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/10/S__13844651-757x1024.jpg) คำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ระบุด้วยว่า พระสังฆาธิการรูปใดไม่ดำเนินการหรือย่อหย่อนในการสอดส่อง กำกับ ดูแล กวดขัน ควบคุม อาจารพระภิกษุสามเณรและการบริหารจัดการวัดในเขตปกครอง หรือไม่ดำเนินการกับพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมตามความข้างต้น ต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาพระสังฆราธิการ หากพระสังฆาธิการได้พยายามดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศของมหาเถรสมาคมแล้ว ยังไม่สามารถบังคับการให้เป็นไปตามนั้น ให้ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอการสนับสนุนและอารักขาจากทางราชการ ขอบคุณภาพและข่าวจาก https://www.matichon.co.th/news/682184 (https://www.matichon.co.th/news/682184) หัวข้อ: Re: ออกคำสั่งให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรม ลงโทษพระภิกษุสามเณรประพฤติผิดอาจาร เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ตุลาคม 02, 2017, 08:08:33 pm ขออนุโมทนาสาธุ มองได้หลายมุมครับ แต่ไม่อยากเอ่ยวิจารย์ครับ เพราะมันก็ดี แต่ทางตรงข้ามมันก็มี พระดีๆ อยู่ลำบากขึ้น |