สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 23, 2017, 06:56:37 am



หัวข้อ: เคล็ดลับในการใช้.!! กะลา"ตาเดียว" ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก ให้คุณอนันต์
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 23, 2017, 06:56:37 am
(http://img.tnews.co.th/large/tnews_1511394181_9548.jpg)


เคล็ดลับในการใช้.!! กะลา"ตาเดียว"ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก ให้คุณอนันต์ คงกระพันชาตรี ป้องกันผีปีศาจ เมตตามหานิยม

บทความนี้เราจะว่ากันด้วยเรื่อง “กะลา” ที่เป็นวัตถุมงคลธรรมชาติ ที่มีดีมีเทพรักษาอยู่ในตัวก็คือ “กะลาตาเดียว” ซึ่งมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่ผิดแผก ไปจากธรรมชาติของกะลาทั่วไปก็คือ…

จะมีปากที่เป็นรูงอกหน่อหนึ่งรู และ ก็จะมีตาส่วนที่บุ๋มลงไปเพียงหนึ่งตาเท่านั้น โดยจะมีเส้นสาแหรกแบ่งกะลาออกเป็นสองส่วนกะลาชนิดนี้เป็นวัตถุมงคล ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้ยังไม่นำมาทำพิธีกรรม ก็สามารถใช้ได้แล้วแต่ไม่ดีมากนัก!!

แต่ถ้าหากนำมาแกะเป็นรูปพระราหูแล้วนำ เข้าพิธีปลุกเสก ผ่านพิธีกรรมที่ถูกต้องก็ จะเป็นของขลังที่ทรงพลานุภาพ ให้กับผู้บูชาได้สมปรารถนาทุกปราการ

แต่การที่จะหากะลาตาเดียวนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร เพราะว่ากะลามะพร้าวทั่วไป เป็นร้อยเป็นพันลูก จึงจะเจอสักลูกสองลูก ถ้าผู้ใดเจอก็นับว่าโชคดีของผู้นั้นไปค่ะ


(http://img.tnews.co.th/userfiles/images/S__44384451.jpg)

ส่วนผู้รู้จะใช้กะลาตาเดียวตัดครึ่งใบ นำส่วนที่มีตาเดียวไว้ใช้ตักข้าวสารหุงกิน เพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการทำมาหากินให้กับครอบครัว ไม่มีคำว่าอดอยาก สมบูรณ์ทุกอย่าง ในการทำมาหากินประกอบอาชีพทุกๆ อาชีพ

กะลาตาเดียวที่ผ่านพิธีกรรมที่สมบูรณ์จริงๆ มาแล้ว ในตำราทักษามหาพยากรณ์นั้นได้กล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคลใดก็ตาม ถูกพระราหูเสวยอายุหรือพระราหูแทรก ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อนมีเคราะห์ต่างๆ  เพราะพระราหูนั้นเป็นเทพอสูร เป็นเทพบาปเคราะห์ แม้ยามที่พระราหูจะจรพ้น การเสวยอายุหรือแทรกอายุไป ก็ยังแผลงฤทธิ์ตอนเข้าหรือตอนออกด้วย ในทักษาจึงกำหนดไว้ว่า

เมื่อพระราหูเสวยอายุหรือแทรก จะต้องทำพิธีต้อนรับพระราหูและตอนที่พระราหูจรออกต้องทำพิธีส่งพระราหู หาไม่แล้วจะเดือดร้อนจนไม่อาจประคองตัวได้ ถึงกับล้มละลายหรือประสบกับพิบัติ ต่างๆ กับตัวเอง หรือบุคคลรอบข้างได้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่บุพราจารย์โบราณ ใช้บรรเทาฤทธิ์ของราหูได้เป็นอย่างดี คือ กะลาตาเดียวนั่นเอง

 
(http://img.tnews.co.th/userfiles/images/S__44384453.jpg)(http://img.tnews.co.th/userfiles/images/S__44384452.jpg)

อำนาจอานุภาพสรรพคุณของ กะลาตาเดียว ที่นำมา แกะเป็นราหูและผ่านพิธีกรรมที่สมบูรณ์มาแล้วที่ขึ้นชื่อที่สุด คือ…

1. เป็นอำนาจทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาอุดอย่างยอดเยี่ยมที่สุด
2. มีอำนาจในทาง ป้องกันภูตผีปีศาล ทำลายอำนาจมนตร์ดำ ลบล้างอำนาจคุณไสย กันคุณผีกันคุณคน กันคุณไสย เสนียดจัญไรต่างๆ ลมพัดลมเพได้ดีที่สุด
3. เป็นสื่อนำทรัพย์สินเงินทอง ข้าวปลาอาหารสิ่งดีๆต่างๆมาสู่ผู้บูชา คำว่าอดอยากเป็นไม่มี คือสามารถหาเงินทองมาได้ตลอดไม่ขัดสนแต่เหลือหรือไม่เหลือเป็นอีกเรื่อง หนึ่ง
4. มีความเจริญในการทำมาหากิน เรือกสวนไร่นา รับราชการ มียศถาบรรดาศักดิ์ ค้าขายร่ำรวยทุกอาชีพหากินไม่ขัดข้องตามอาชีพ
5. เป็นเมตตามหานิยมสำหรับผู้พบเห็นเข้าหาเจ้านายหรือเพศตรงข้าม
6. ใช้รักษาโรคได้อีกด้วยค่ะ

 :25: :25: :25: :25:

แล้วพบกันในบทความครั้งต่อไป ซึ่งผู้เขียนจะนำท่านผู้ชมไปรู้จักของหายากยิ่งกว่า กะลาตาเดียว นั่นก็คือ…กะลาที่ไม่มีตา กะลามหาอุด เหมือนกะลาตาเดียว แต่ดีกว่า ขลังกว่า อย่าลืมติดตามรับชมกันต่อนะคะ


(http://img.tnews.co.th/userfiles/images/S__44384450.gif)


หมายเหตุ : อุด-มหาอุด   
   
คำว่า อุด หมายถึง จุกช่อง หรือ ปิดให้แน่น. คำนี้อาจประกอบกับคำว่า มหา ซึ่งหมายถึง ใหญ่ ยิ่งใหญ่. ได้คำว่า มหาอุด แปลว่า อุดอย่างยิ่งใหญ่

มหาอุด มี หลายความหมาย ความหมายหนึ่ง คือลักษณะเฉพาะของโบสถ์หรือวิหารขนาดย่อมที่ก่อเป็นผนังทึบ ไม่มีหน้าต่าง และเจาะช่องประตูด้านหน้าเป็นทางเข้าออกเพียงด้านเดียว นิยมสร้างในสมัยอยุธยา เพื่อประสงค์ให้พระสงฆ์ทำสังฆกรรมอย่างมีสมาธิ หรือให้เกิดความขลังในการประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะพิธีปลุกเสกพระเครื่องหรือวัตถุมงคล เช่น อุโบสถวัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา.

อีกความหมายหนึ่ง คือ พระเครื่องที่ทำเป็นพระปิดตาหรือปิดทวารอื่น ๆ เรียกว่า พระมหาอุด เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ทางทางป้องกันอาวุธและทางเมตตามหานิยม. นอกจากนี้ มหาอุด ยังหมายถึง เครื่องรางของขลังหรือคาถาที่บริกรรมปลุกเสก เชื่อว่าช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน



ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ
และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย,
ที่มา : บทวิทยุรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย” ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม  พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.,และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)
จาก : อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย : โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์
เรียบเรียงโดยโชติกา พิรักษา : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/381658 (http://www.tnews.co.th/contents/381658)