สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มกราคม 01, 2011, 11:30:33 am



หัวข้อ: กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 01, 2011, 11:30:33 am
กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
โดย ศาตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก / ราชบัณฑิต

(http://statics.atcloud.com/files/entries/5/51726/images/1_display.jpg)

วันเวลาล่วงไปตามลำดับ จากวินาทีเป็นนาที จากนาทีเป็นชั่วโมง
จากชั่วโมงเป็นวัน จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน
จากเดือนเป็นปี ไม่มีสิ่งใดอยู่นอกเหนือกาลเวลา

ดังพุทธวจนะตรัสไว้ว่า "กาลเวลาย่อมกลืนกินทุกสิ่งสรรพ์ รวมทั้งตัวมันเองด้วย"

ชีวิตและอายุของสัตว์ทั้งหลายก็เสื่อมสิ้นไป
ตั้งแต่วินาทีแรกที่ถือปฏิสนธิในครรภ์มารดา
พรางตาให้คนหลงไปว่าเป็นการเจริญเติบโต

แต่ผู้รู้เรียกอาการอย่างนี้ว่า "วัย" หมายความว่า เสื่อมสิ้นไป

ที่เข้าใจกันว่าเรากำลังเจริญวัยนั้น แท้ที่จริงเรากำลังเสื่อม
เรากำลังก้าวเดินไปสู่ความตายทีละก้าวๆ
ในที่สุดก็จะถึงจุดดับสลาย
ประดุจสายน้ำน้อยนิดถูกแสงอาทิตย์แผดเผา ค่อยๆ เหือดแห้งไปในที่สุด

พระพุทธองค์ตรัสว่า ชีวิตนั้นสั้นนิด ทุกชีวิตเกิดมาแล้วต้องตาย
หนุ่มก็ตาย แก่ก็ตาย โง่ก็ตาย ฉลาดก็ตาย รวยก็ตาย จนก็ตาย
ทุกคนล้วนต้องตาย จะตายวันตายพรุ่งไม่มีใครรู้

แต่ที่รู้แน่ๆ คือไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า


สัจจะแห่งชีวิตเป็นเช่นนี้ พระพุทธองค์ทรงชี้ให้เข้าใจตามความเป็นจริง
จึงไม่ควรนิ่งมัวประมาททำกิจที่ควรทำ ด้วยความสามารถเสียแต่บัดนี้
ก่อนที่จะไม่มีเวลา


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/396/5396/images/likitrak/tgl.jpg)

รู้ว่าชีวิตนี้น้อยนิด แล้วคิดทำแต่สิ่งชั่วเกลือกกลั้ว แต่สิ่งเลวทราม

คนเช่นนี้เขาประฌานว่า "โง่เขลา"

รู้ตัวว่า มีเวลาอยู่ในโลกนี้ไม่มาก บากบั่นสร้างสรรค์แต่คุณงามความดี

คนเช่นนี้เรียกว่า "คนฉลาด"


โปรดรำลึกไว้เสมอว่า "เกิดมาทั้งที ทำดีให้ได้ จะตายทั้งที ทำดีฝากไว้”


ที่มาhttp://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEV6TURVMU13PT0=


หัวข้อ: Re: กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: chusri sakunwong ที่ มกราคม 01, 2011, 05:43:35 pm
อันที่จริง สำหรับ นักปฏิบัติธรรม หรือ ผู้เจริญภาวนาเป็นนิสัยแล้ว

  จะปีนี้ หรือ ปีหน้า ก็ไม่มีค่ามีความหมาย ยิ่งคนที่ต้องอยู่กับความตาย

  และเผชิญกับความเจ็บ ความปวด อยู่ทุกวินาที นั้นอาจจะเบื่อเรื่องการมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำไป

  แต่จะปีนี้ หรือ ปีหน้า ก็ไกลเกินไป

  ได้รับเมล จากพระอาจารย์ เตือนสติ คือความไม่ประมาท

 ปัจจุบันที่มีลมหายใจ อยู่ก็คือยังมีโอกาส ในการเร่ิงสร้างบารมี ความเพียร ภาวนา

 ดังนั้น สำหรับหัวข้อนี้เป็นหัวข้อของผู้ใฝ่ภาวนา อย่างชัดเจน

   ชีวิตเราแล่นมาด้วยความเสื่อม ความถอยถด แห่งสังขาร

   ความพยายามที่เรารู้นั้น รู้แจ้งชัดเพิ่มขึ้นหรือยัง... ในธรรมที่ควรรู้แจ้ง

  อนุโมทนากับความเห็น เรื่องนี้

 

แต่สำหรับ คนหนุ่ม คนสาว เด็ก ๆ นั้น อาจจะไม่สนใจเรื่อง คุณค่าของความไม่ประมาทเพราะเวลา

ที่ผ่านไป เนื่องด้วย ฐานะผู้ประพฤติธรรม ไม่เสมอกัน คะ

  (http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=375078&stc=1&d=1217948507)
ลูกกตัญญูสึกพระดูแลแม่



เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 4 ส.ค. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีลูกกตัญญู ต้องสึกจากการบวชเป็นพระ เพราะต้องคอยดูแลแม่ที่แก่เฒ่า จึงไปตรวจสอบที่เพิงไม้มุงสังกะสี ที่อยู่ใกล้กับสะพานสหกรณ์เจ้าเจ็ด หมู่ 4 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา พบนายสมบัติ เกิดพิทักษ์ อายุ 54 ปี กำลังปรนนิบัติแม่ที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ทราบชื่อคือนางพลับ เกิดพิทักษ์ อายุ 94 ปี โดยนางพลับบอกว่า นายสมบัติเป็นลูกคนที่ 3 ก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นพระมานานกว่า 10 ปี โดยบอกว่าจะบวชตลอดชีวิต จนเมื่อไม่นานมานี้สามีตนป่วย ไม่มีคนดูแล นายสมบัติเลยสึกออกมาดูแลพ่อกับแม่ สุดท้ายพ่อเสียชีวิต เหลือแต่ตนที่ระยะหลังเดินไม่ได้แล้ว และไม่มีหน่วยงานใดมาดูแลเลย โดยทุกวันลูกชายจะไปทำงานรับจ้าง หาเงินมาซื้อข้าวกินกันสองคนแม่ลูก หากวันไหนนายสมบัติไม่สบายไปทำงานไม่ได้ วันนั้นคือไม่มีข้าวกิน สองแม่ลูกต้องอาศัยน้ำลูบท้องแทน.


   ชีวิตคือการเล่นละคร ใครตีบทแตกคนนั้นประสบความสำเร็จ

ใครเล่นผิดบทคนนั้นก็ประสบความล้มเหลว

ดังนั้นเราควรแสดงให้ถูกบท ถูกที่และถูกเวลา

เราทุกคนมียุคทองของตนและเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต

หากยุคทองมาถึงจงรักษาไว้ให้ดีที่สุด

เมื่อหลุดมือไปไขว่คว้ายังไงได้แต่ความว่างเปล่า

ว.วชิรเมธี

ที่มาเนื้อหา ลูกกตัญญู
http://board.palungjit.com/f36/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88-142704.html


หัวข้อ: Re: กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: chutina ที่ มกราคม 01, 2011, 06:46:59 pm
บางอย่างก็เป็นมารยาททางสังคมคะ

เดินมาแล้วไม่พูด ก็ไม่ถูก ไปไม่ลา มาไม่ไหว้ เพราะเห็นว่า เป็นเพียงสมมุติ ก็ไม่ถูกคะ
 :smiley_confused1:


หัวข้อ: Re: กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: noppadol ที่ มกราคม 01, 2011, 10:21:44 pm
ผมว่าในแนวคิด ก็ถูกครับ แต่หัวใจ คำเตือน คือ ความไม่ประมาท

  กาลเวลา ย่อมกินกับทั้งสรรพสัตว์และตัวมันเอง

 ประโยคนี้เป็นประโยคที่ผมได้ยินบ่อย เพราะพระสวนโมกขพลาราม มักจะใช้บรรยายภาพ

ปฏิจจสมุปบาท ของธิเบต ประจำ

 เนื้อหา ของผู้แสดง ต้องการให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ครับ

  พระอาจารย์ส่งเมลบทหนึ่ง บรรยายเรื่อง ลมหายใจ เอื้อกับการปฏิบัติ ถ้าเราใช้ลมหายใจนั้นถูก

  ก็สามารถเข้าถึง นิวาสตะ ได้คือ ถึง อุปสมานุสสติ ได้อันเป็นระดับกรรมฐานของ พระสกทาคามี เป็นต้นไป

  ขอบคุณธรรมต้นปี ครับ

   :25: :25: :25:


หัวข้อ: ชีวิตเพียงชั่วครู่ลมหายใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ มกราคม 02, 2011, 07:55:34 am

วันนี้...มีความสุข
พรุ่งนี้...อาจทุกข์มหันต์
ชะตาความพลิกผัน
อาจมีวันผันเปลี่ยนแปลง
มีดี ก็ มีร้าย...
มีเกิด-ตาย...ทุกหนแห่ง
มีกล้า มีอ่อนแรง
มีแห้งแล้ง มีชุ่มชื้น
มีอิ่ม ก็ มีอด...
สุข งามงด และขมขื่น
ทุกข์ใด ใจอาจฝืน
เพียงกล้ำกลืน สู้อดทน
วันนี้ มีความทุกข์
พรุ่งนี้อาจ...สุขจนล้น
วันนี้อาจยากจน
พรุ่งนี้ผ่าน พ้นร่ำรวย
วันนี้อาจเงียบเหงา
พรุ่งนี้มี คู่แนบเนาด้วย
วันนี้ อาจยังซวย
พรุ่งนี้สิ สวยสดใส
ทุกสิ่ง...ที่เป็นอยู่
สำนึกรู้ ชั่วครู่ใจ
ผ่านมา แล้ว ผ่านไป
ไม่มีสิ่ง ใดยั่งยืน...


หัวข้อ: Re: กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ มกราคม 02, 2011, 09:02:19 am
       (http://www.212cafe.com/freewebboard/user_board/ricethailand/picture/00125_0.jpg)
กุหลาบ ขอบคุ

     ส่งสุข สุขใจเหลือ      ที่ยังเผื่อมาแบ่งปัน
ช่อดอกกุหลาบสรร         เพียงกำนัล สวัสดี.


                                                              ธรรมธวัช.!   
                                                                                                             


หัวข้อ: Re: ชีวิตเพียงชั่วครู่ลมหายใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ พฤศจิกายน 29, 2011, 03:01:07 pm

วันนี้...มีความสุข
พรุ่งนี้...อาจทุกข์มหันต์
ชะตาความพลิกผัน
อาจมีวันผันเปลี่ยนแปลง
มีดี ก็ มีร้าย...
มีเกิด-ตาย...ทุกหนแห่ง
มีกล้า มีอ่อนแรง
มีแห้งแล้ง มีชุ่มชื้น
มีอิ่ม ก็ มีอด...
สุข งามงด และขมขื่น
ทุกข์ใด ใจอาจฝืน
เพียงกล้ำกลืน สู้อดทน
วันนี้ มีความทุกข์
พรุ่งนี้อาจ...สุขจนล้น
วันนี้อาจยากจน
พรุ่งนี้ผ่าน พ้นร่ำรวย
วันนี้อาจเงียบเหงา
พรุ่งนี้มี คู่แนบเนาด้วย
วันนี้ อาจยังซวย
พรุ่งนี้สิ สวยสดใส
ทุกสิ่ง...ที่เป็นอยู่
สำนึกรู้ ชั่วครู่ใจ
ผ่านมา แล้ว ผ่านไป
ไม่มีสิ่ง ใดยั่งยืน...

  ช่วงนี้ผมกำลัง หยั่งธรรม เรียกว่า ธรรมคู่ อยู่ครับ พอได้บทนี้แล้วรู้สึกมีความปีติ
จนน้ำตาอาบแกล้ม เลยครับ
   
   ผู้แต่ง ยกให้เห็น สัจจธรรม ความจริง ของทุกสิ่ง ล้วนแล้วเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

     มีสุข ก็ มีทุกข์
     มีดี   ก็ มีร้าย
     มีเข้มแข็ง มี อ่อนแ
     มีแห้งแล้ง มี ชุ่มชื้น
     มีอิ่ม มีอด
     
    เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ ผมอ่านแล้ว ก็นึกถึง เมล ที่พระอาจารย์ นำสอนให้ พิจารณาธรรม อันเรียกว่าธรรม
ส่วนคู่ ครับ

   อนุโมทนา กับ คุณหมวย นะครับ ทราบว่าตอนนี้ ก็กำลัง ค่นแค้น อยู่.... อ่านแล้ว ก็คิดถึง
 เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยโพสต์ นะครับ

   :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 29, 2011, 04:14:18 pm

http://www.youtube.com/watch?v=BPvRbGYqejo# (http://www.youtube.com/watch?v=BPvRbGYqejo#)

สารคดีชีวิตงาม : ตอนที่ 8 กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
ที่มา http://www.thaioilgroup.com/th/news/beautiful_life_documentary/detail.php?Id=36 (http://www.thaioilgroup.com/th/news/beautiful_life_documentary/detail.php?Id=36)
:25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: ชีวิตเพียงชั่วครู่ลมหายใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ พฤศจิกายน 29, 2011, 06:08:22 pm
หนุ่มก็ตาย แก่ก็ตาย โง่ก็ตาย ฉลาดก็ตาย รวยก็ตาย จนก็ตาย ทุกคนล้วนต้องตาย 

(http://portal.in.th/files/2/9/5/2009/12/01/88.jpg)
(http://www.firodosia.com/images/awb_image152552161129.jpg)

สุดสาย ป่านเศร้า

     ชีพตื่นก็กลืนลม      ลืมหลงชมคล้อยบ่ายสาย
กายแก่เจ็บนี้อาย      เรี่ยวแรงกลายพลันปลดปลง

     ชีพอื่นก็ขืนเข็ญ      มีให้เห็นยังทนง
กายแก่บ่คืนคง      ยากธำรงกลายสู่ดิน.


                                                              ธรรมธวัช.!   



http://portal.in.th/ms-pcare/pages/5879/
http://www.firodosia.com/showdetail.asp?boardid=5159 (http://www.firodosia.com/showdetail.asp?boardid=5159)