สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ เมษายน 18, 2018, 06:06:33 am



หัวข้อ: หมดเวลาของ ”บุญ” ก็คือ เวลาของ ”กรรม“
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 18, 2018, 06:06:33 am
(http://img.amarindigital.com/unsafe/770x433/smart/http://goodlifeupdate.com/app/uploads/2017/02/niklas-rhose-14302-unsplash.jpg)


หมดเวลาของ ”บุญ” ก็คือ เวลาของ ”กรรม“

เวลาของ บุญ บาป ไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ เมื่อเวลาของมันมาถึง

เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ในย่านพักอาศัยใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ณ ซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง มีตึกแถวปลูกติดกันประมาณ 15 ห้อง ห้องแรกสุดหัวซอยและห้องสุดท้ายซึ่งตั้งอยู่ท้ายซอยเป็นตึกแถวแบบพิเศษ คือเป็นห้องใหญ่แบบ 2 ห้องติดกัน

ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนจีน อยู่กันมานานเป็นสิบๆปี รู้จักกันหมด แค่เห็นหน้าก็รู้ว่าใครอยู่บ้านไหน ชาวบ้านอยู่กันอย่างเรียบง่าย จนกระทั่งตึกแถว 2 ห้องที่หัวซอยมีผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เป็นครอบครัวเศรษฐีพ่อค้า ความเดือดร้อนจึงได้เริ่มต้นขึ้นเรื่องมีอยู่ว่า

@@@@@@

เมื่อ 50 ปีก่อนเป็นเรื่องธรรมดาของบ้านตึกแถวที่จะใช้ท่อระบายน้ำร่วมกัน ในซอยนี้ก็เช่นกัน น้ำทิ้งจะไหลจากท้ายซอยไปหัวซอยแล้วไหลลงสู่ท่อระบายน้ำใหญ่ แต่เถ้าแก่เนี้ยผู้มาอยู่ใหม่กลับกั้นท่อระบายน้ำไม่ให้น้ำไหลผ่านบ้านแก ทำให้บ้านทุกหลังมีน้ำทะลักเข้ามาในบ้านเพราะทางน้ำถูกปิด ชาวบ้านจึงรวมตัวกันไปต่อว่า แต่เถ้าแก่เนี้ยกลับเฉยเมยและบอกหน้าตาเฉยว่า ท่อระบายน้ำอยู่ในบริเวณบ้านของแก แกจะทำอะไรก็ได้ เถ้าแก่ซึ่งเป็นคนดีพยายามขอร้องภรรยาแต่ก็ไม่เป็นผล

ท้ายที่สุดอาแปะซึ่งเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างตึกแถวทั้งหมดในย่านนี้ และอาศัยอยู่ในตึกแถวห้องสุดท้ายที่ท้ายซอยจึงไปเจรจา แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายปัญหาต่างๆ ก็คลี่คลายจากการแก้ปัญหาของอาแปะ โดยแกได้ทำทางระบายน้ำใหม่ให้ไหลจากหัวซอยไปท้ายซอยผ่านบ้านของแกเอง

ตั้งแต่นั้นแทบจะไม่มีใครอยากจะคบค้าสมาคมกับเถ้าแก่เนี้ยอีกเลย พอเวลาผ่านไปหลายปี เรื่องนี้ก็ถูกลืมกันไปและมีเรื่องใหม่มาแทน คือเรื่องที่ชาวบ้านแถวนั้นโดนเถ้าแก่เนี้ยขโมยของ เพราะเวลาแกไปนั่งบ้านไหน แกก็จะแอบหยิบฉวยข้าวของของบ้านนั้นไป คนแรกที่โดนขโมย พอไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อว่าเศรษฐีจะขโมยของคนอื่น ต่อเมื่อต่างคนต่างเห็นข้าวของของตัวเองไปอยู่ที่บ้านของเถ้าแก่เนี้ย จึงเป็นอันรู้กันทั่วว่า ถ้าต้องคุยธุระ อย่าให้แกเข้าบ้านเป็นอันขาด

@@@@@@

นอกจากนี้แกยังเป็นคนใจร้าย หมาแมวจรจัดอย่าได้เดินเฉียดไปใกล้บ้านแกแกจะไล่ตีจนกระเจิง ตัวไหนที่แกเกลียดมากๆ ก็จะสั่งให้ลูกน้องจับไปปล่อยที่อื่น เคยมีแมวที่มีเจ้าของโดนลูกน้องแกจับไปปล่อย โชคดีว่าแมวน้อยฉลาดจึงกลับมาบ้านถูก

เป็นเวลากว่าสิบปีที่เถ้าแก่เนี้ยใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เป็นคุณนายมาตลอด ที่แกโชคดีเช่นนี้เพราะเถ้าแก่เป็นคนขยันและซื่อสัตย์ ทำการค้าก็เจริญรุ่งเรือง พอถึงวัยเกษียณก็ให้ลูกชายมาบริหารงานแทน แต่แล้ววันหนึ่งเถ้าแก่ก็นอนหลับไปและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย แกจากไปอย่างคนมีบุญสมกับความดีที่แกทำ

@@@@@@

สำหรับเถ้าแก่เนี้ย หลังสามีตายก็เป็นเวลาของการเผชิญเวรกรรม เพราะไม่นานนักลูกชายของเถ้าแก่ก็ถูกโกง เป็นหนี้สินมากมาย จึงพาครอบครัวหนีหนี้ไปอยู่ต่างประเทศแต่กลับไม่ยอมพาเถ้าแก่เนี้ยไปด้วยแถมบ้านที่อยู่ก็เซ้งไป ทำให้แกไม่มีบ้านจะอยู่ ต้องไปอาศัยอยู่กับลูกสาว ทำให้สิ้นสุดชีวิตคุณนายเพียงเท่านั้น จากนั้นไม่ถึงปีเถ้าแก่เนี้ยก็ตายตามสามีไป ชาวบ้านต่างโจษจันกันว่า แกรับสภาพที่เปลี่ยนไปไม่ได้จนตรอมใจตาย

จากคนที่เคยมีความสุขสบายมาค่อนชีวิต กลับต้องมาเผชิญกับวิบากกรรมในยามชรา ทำให้เห็นว่า เวลาของบุญบาปไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ เมื่อเวลาของมันมาถึง



เรื่อง : ก เอ๋ย ก ไก่
ที่มา : http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/49072.html (http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/49072.html)
By Therranuch , 20 March 2018


หัวข้อ: Re: หมดเวลาของ ”บุญ” ก็คือ เวลาของ ”กรรม“
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ เมษายน 18, 2018, 10:48:36 am
 :25: st11 st12