หัวข้อ: ตรัสว่า “ยกเว้นปัญญาแล้ว เราสรรเสริญว่า ขันติเป็นคุณธรรมอย่างยิ่ง” เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 27, 2018, 06:35:36 am (https://obs.line-scdn.net/0hKWvYFF4kFHhLIDj--rNrL3F2Fxd4TAd7LxZFexdOSkw2RFN9JRReHGohS0AzGVMmIkZfGmkhD0lvEAZ6dRVe/w644) ขันติ คือ ความอดทน เป็นธรรมะสำคัญที่ทุกคนควรต้องมี เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข แสดงว่าถ้าเราอยากมีความรู้สุขก็ต้องรู้จักใช้ชีวิตอย่างระแวดระวัง มีความอดทนและรักษาปกติภาวะของตนไว้ให้ได้ ไม่หวั่นไหว ไม่ถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งเร้าหรือสิ่งรบกวนที่อยู่รอบด้าน มีความมั่นคงหนักแน่น ไม่ว่าจะมีอะไรหรือใครมาทำให้ขุ่นข้องหมองใจหรือเป็นทุกข์ก็อดทนและผ่านมันไปให้ได้ @@@@@@ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า “ยกเว้นปัญญาแล้ว เราสรรเสริญว่า ขันติเป็นคุณธรรมอย่างยิ่ง” ตามพระธรรมปิฎก ขันติที่ว่านี้คือความอดทนอันได้แก่ การอดทนต่อความตรากตรำ เช่น ทนต่อความเหน็ดเหนื่อย การต่อความเจ็บปวด เช่น การเจ็บป่วย โรคภัยต่าง ๆ การอดทนต่อความเจ็บใจเช่น การถูกพูดจาเสียดสี และการอดทนต่อกิเลสเย้ายวนใจหรือมารทางจิตที่บีบคั้นด้วยราคะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะคอยโน้มน้าวชักนำจิตใจให้ไหลไปตามกระแสแห่งกิเลสในทางที่ผิดนั่นเอง พูดให้ง่ายขึ้น ‘ขันติ’ ก็คือเครื่องเผากิเลส เผาความขุ่นข้องหมองใจออกไป โดยเฉพาะเมื่อความโลภหรือราคะเข้าครอบงำ จิตใจของเราก็มักจะหวั่นไหวไปบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเรารู้จักอดทนอดกลั้น ระงับอารมณ์ ควบคุมกริยา ซึ่งจะต้องอาศัยการรักษาศีลและการปฏิบัติธรรมควบคู่กันไป ที่สำคัญคือต้องฝึกฝนด้วยสติ รู้จักคิดอย่างรอบคอบ นึกถึงเหตุและผลที่จะตามมาเป็นหลัก โดยหากฝึกให้มีเป็นผู้มีขันติได้ ก็ย่อมจะผ่านความทุกข์ไปได้ง่ายเช่นกัน นอกจากขันติจะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขแล้ว ความอดทนยังเป็นอาวุธที่ทรงพลังในการต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามาทดสอบชีวิตของเราเพื่อทำให้เราเข้มแข็ง สามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสังคม รวมถึงเป็นพื้นฐานที่ทำให้ สามารถพัฒนาตนเองไปสู้เป้าหมายสูงสุดในชีวิตได้ด้วย (http://www.kalyanamitra.org/th/images/mngkhlchiwit38/M27.jpg) ขอบคุณภาพจาก http://www.kalyanamitra.org/th/mngkhlchiwit38_detail.php?page=116 (http://www.kalyanamitra.org/th/mngkhlchiwit38_detail.php?page=116) ความอดทนกับการใช้ชีวิตในยุคนี้ เดี๋ยวนี้คนเรามีความอดทนกันน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด มีเรื่องนิดๆหน่อยๆ ก็ขึ้น ก็เหวี่ยงได้ง่ายไม่รู้จักข่มอารมณ์หรือใช้ความอดทนอีกต่อไป ถ้าสังเกตดีๆ จะรู้ว่าคนที่ไม่รู้จักความอดทน ไม่เคยระงับอารมณ์มักทำเสียเรื่อง เสียโอกาสได้ง่ายๆ ส่วนคนที่มีขันติก็มักมีโอกาสที่มากกว่า ไม่ใช่เพราะอารมณ์เป็นเหตุให้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เพราะรู้จักอดทน ควบคุมความคิดและกริยาต่างหากที่ทำให้แตกต่างจากคนทั่วไป และคนเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะพบความสำเร็จมากกว่าด้วย ยิ่งเดี๋ยวนี้คนเราชอบเอาขยะมาใส่ตัว ขยะที่ว่านี้ก็คือความโมโห ความเลือดร้อน หงุดหงิดกับทุกเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจ กลายเป็นการสุมความเน่าเหม็น ส่งกลิ่นไปทั่วแบบไม่รู้ตัว ดังนั้นอยู่ที่ตัวเราว่าจะเลือกอย่างไร เลือกเป็นผู้มีขันติที่รู้จักอดทนเพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง หรือเลือกเป็นคนที่ไม่รู้จักระงับอารมณ์จนสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก https://today.line.me/th/pc/article/ขันติคืออะไร+ทำไมถึงสำคัญกับชีวิตยุคนี้-pWJlmN (https://today.line.me/th/pc/article/ขันติคืออะไร+ทำไมถึงสำคัญกับชีวิตยุคนี้-pWJlmN) หัวข้อ: Re: ตรัสว่า “ยกเว้นปัญญาแล้ว เราสรรเสริญว่า ขันติเป็นคุณธรรมอย่างยิ่ง” เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ เมษายน 29, 2018, 02:07:52 pm st11 st12 st12
หัวข้อ: Re: ตรัสว่า “ยกเว้นปัญญาแล้ว เราสรรเสริญว่า ขันติเป็นคุณธรรมอย่างยิ่ง” เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ มิถุนายน 13, 2018, 03:57:48 pm :25: st11 st12
|