หัวข้อ: ลดความตระหนี่ด้วย การให้ทาน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 10, 2018, 06:34:17 am (http://img.amarindigital.com/unsafe/770x433/smart/http://goodlifeupdate.com/app/uploads/2017/04/%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99-1.jpg) ลดความตระหนี่ด้วย การให้ทาน จากบทความ 10 ทางเลือกในการทำบุญ หรือมรรควิธีในการทำบุญ 10 นั้น ข้อแรกกล่าวถึงการทำบุญด้วยการ“แบ่งปัน” วัตถุ สิ่งของ ปัจจัยสี่ หรือที่เรียกว่าการ ให้ทาน นับเป็นการเสียสละให้แก่ผู้อื่นหวังให้ผู้อื่นมีความสุขด้วยเมตตาจิตของผู้ให้ การทำทานจึงช่วยให้ผู้ให้ทานนั้นมีจิตใจที่สะอาด โดยทานแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. อามิสทาน คือ การให้ปัจจัย 4 ได้แก่ สิ่งของ เครื่องเลี้ยงชีพ รวมถึงการบริจาคอวัยวะ และสละชีวิต 2. อภัยทาน คือ ให้ความไม่มีภัย ให้ความปลอดภัย ช่วยคุ้มครองป้องกันเมื่อมีภยันตราย 3. ธรรมทาน คือ การให้ธรรมะ ให้ความรู้ คำแนะนำ ที่ก่อให้เกิดปัญญา พระพุทธองค์ตรัสว่า “การให้ธรรมะย่อมชนะการให้ทั้งปวง” การให้ทานจะมีอานิสงส์สูง เมื่อมีเจตนาหรือใจที่เป็นกุศลครบทั้ง 3 กาล คือก่อนให้ มีความตั้งใจดี ตั้งใจทำ ขณะให้ มีความปรารถนาดี ดีใจที่ได้ให้ และเมื่อให้แล้วเกิดความภูมิใจในทานที่ให้ไปว่ามีประโยชน์ต่อผู้รับ เป็นสุขเมื่อนึกถึงความสุขของคนที่ได้รับ @@@@@@ พระไพศาล วิสาโล กล่าวถึงเรื่องเล่าในพระไตรปิฎกที่เกี่ยวกับการให้ทานเรื่องหนึ่งว่า นางทาสีคนหนึ่งชื่อปุณณทาสี ฐานะยากจนมาก แต่เห็นพระพุทธเจ้าแล้วมีจิตศรัทธาเลื่อมใส อยากถวายอาหารแก่พระพุทธเจ้า แต่นางยากจนมาก จึงไม่มีอะไรจะถวาย นอกจากข้าวจี่ นางจึงตั้งใจตำข้าวแม้เวลาดึกดื่น ขณะนั้นได้มองไปที่ภูเขาใกล้ๆ ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าและพระสาวกประทับอยู่ เห็นมีแสงสว่างจึงนึกไปว่าท่านทำอะไรกันอยู่ ในขณะที่ตัวนางเองต้องทำงานดึกๆ ดื่นๆ นึกไปว่าพระพุทธองค์และพระสาวกคงมีทุกข์เช่นเดียวกัน พอรุ่งเช้าพระพุทธเจ้าเสด็จมา นางก็ถวายข้าวจี่ที่มีอยู่เพียงปั้นเดียวนั้น ระหว่างที่ให้ก็ถวายด้วยความศรัทธามีความตั้งมั่นในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้บรรลุธรรม เมื่อถวายแล้วก็เกิดปีติยินดีที่พระพุทธเจ้าฉันอาหารนั้น @@@@@@@ เมื่อพระพุทธองค์ฉันอาหารแล้วจึงตรัสกับนางว่า พระองค์ทรงทราบถึงเรื่องที่นางสงสัยเมื่อคืนขณะทำข้าวจี่ จึงตรัสว่าที่นางมองเห็นว่าพระไม่หลับไม่นอนนั้น ไม่ใช่เพราะมีทุกข์แต่ท่านเหล่านั้นบำเพ็ญเพียรเป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ จากนั้นก็ตรัสว่า “สำหรับผู้ตื่นอยู่เสมอ ใฝ่ศึกษาทุกค่ำคืน มีใจน้อมสู่พระนิพพาน อาสวะย่อมหมดสิ้นไป” พอตรัสจบ นางก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน นางปุณณทาสีเพียงแค่ถวายข้าวจี่ก้อนเดียว แต่เนื่องจากได้ถวายแก่พระพุทธเจ้าด้วยศรัทธาเต็มหัวใจ จึงบรรลุธรรมถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการถวายทานที่มีใจเป็นกุศลครบทั้ง 3 กาล ข้อมูลจาก หนังสือสร้างพลังบุญ โดยพระไพศาล วิสาโล สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/55036.html (http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/55036.html) |