สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 12, 2018, 05:45:13 am



หัวข้อ: ธรรมะ ห้ามใจ ไม่ให้เกินเลย เมื่ออยู่สองต่อสอง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 12, 2018, 05:45:13 am

(http://img.amarindigital.com/unsafe/770x433/smart/http://goodlifeupdate.com/app/uploads/2018/05/%E0%B8%9B%E0%B8%81-%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2.jpg)


ธรรมะ ห้ามใจ ไม่ให้เกินเลย เมื่ออยู่สองต่อสอง

บทความนี้ถึงจะตั้งชื่อว่า ” ธรรมะ ห้ามใจ ไม่ให้เกินเลย เมื่ออยู่สองต่อสอง ” อาจมองเป็นเรื่องของการห้ามเกินเลยระหว่างชายหญิง หรือเพศใดก็ตาม ที่นำไปสู่การผิดศีลธรรม แต่ตามจุดประสงค์และความตั้งใจของผู้เขียนเอง ต้องการให้ครอบคลุมไปถึงผู้ที่กระทำชำเราและล่วงละเมิดทางเพศ ที่นับวันจะมีแต่ข่าวการทำอนาจารและข่มขืนแทบทุกวัน ผู้เขียนเลยอยากนำพุทธธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนและกล่าวถึงเรื่องนี้มาถ่ายทอด เพื่อเป็นความรู้ เพื่อสามารถประยุกต์ใช้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

ปัญหาเหล่านี้มีต้นตอมาจาก “กาม” หรือ “ความใคร่” ความพึงพอใจ ใคร่อยาก พระพุทธเจ้าทรงตอบคำถามเรื่องกามแก่เทพบุตรพระองค์หนึ่ง ที่มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อทูลถามวิธีการทำใจให้ละจากกามารมณ์

@@@@@@@

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า

”เธอต้องไปทางทิศที่เรียกว่า “ไม่มีภัย” โดยรถที่ไม่มีเสียงดัง ขับเคลื่อนไปด้วยล้อแห่งธรรมคือ “ศีล” มี “หิริ” เป็นฝาประทุนของรถ มี “สติ” เป็นเกราะป้องกันรถ และมี “สัมมาทิฏฐิ” (ปัญญา) เป็นนายสารถีขับนำหน้า รถชนิดนี้มีแก่ผู้ใด ไม่ว่าบุรุษหรือสตรีก็ตาม ผู้นั้นจะมีโอกาสเข้าไปใกล้นิพพานที่เรียกว่า ความสุขที่แท้จริง”

คำตรัสของพระพุทธเจ้านี้สามารถอธิบายได้ว่า ไม่ว่าใครที่อยากละจากกาม ต้องมีศีล (ไม่บกพร่องศีลข้อที่ 3 ไม่ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น) หิริ (ความละอายต่อบาป) สติ (การระลึกรู้) และควบคุมหรือประคับประคองธรรมทั้ง 3 (ศีล หิริ และ สติ) นี้อยู่เสมอด้วยปัญญา หรือสัมมาทิฏฐิ

หากสังเกตตามคำสอนของพระองค์จะเห็นว่า ผู้ที่กระทำล่วงเกิน ชำเรา อนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศ ล้วนขาดการประคับประคองธรรมทั้ง 3 นี้

เริ่มจากศีล การล่วงเกิน ชำเรา อนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศก็เป็นการผิดศีลข้อที่ 3 แล้ว เมื่อคิดแล้วเห็นเป็นชอบ เกิดความอยากทำ โดยไม่ติดใจเลยว่าเป็นอกุศลกรรม ความเป็นหิริ (ความละอายต่อบาป) ก็ไม่มี ยิ่งไปกว่านั้น สติ สิ่งสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ไม่สามารถห้ามตนไม่ให้ทำในอกุศลกรรมนี้ได้ แสดงว่าปัญญาที่ชักนำให้กระทำกุศลก็ไม่มี หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากการลากตนเองไปสู่อบายภูมิ

@@@@@@

โดยตามความเป็นจริงแล้ว เมื่อเกิดอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ห้ามได้ยากมากสำหรับคนธรรมดา กามเกิดขึ้นจากโลภะ หนึ่งในสามกิเลสที่ทำให้เกิดอวิชชา (ความหลงผิด หรือความไม่รู้) เมื่อพิจารณาตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าจะพบว่า การมีปัญญา (สัมมาทิฏฐิ) เป็นสิ่งประคับประคององค์ธรรมทั้ง 3 ให้คงอยู่

เมื่อรู้ (ปัญญา) ว่าการล่วงเกิน ชำเรา อนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่นมันเป็นอกุศลกรรม สติจะเกิดขึ้นเพื่อข่มกามไว้ เราจะเกิดความไม่กล้าทำเพราะกลัว (เกิดหิริขึ้นคือการกลัวต่อบาป) และจะกลายเป็นผู้มีศีล (ศีลข้อที่ 3 ไม่บกพร่อง)

คำสอนนี้อาจดูเหมือนจะปฏิบัติได้ยาก แต่สิ่งที่จะแก้ไม่ให้เกิดปัญหาสังคมแบบนี้ขึ้นอีก คือการแก้ไขที่ตนเอง การกลัวต่อบาป นับว่าเป็นสิ่งที่ห้ามการเกิดขึ้นของสิ่งเลวร้ายได้ดี

@@@@@@@

ในคัมภีร์กล่าวถึงผลแห่งกรรมที่ล่วงเกิน ชำเรา อนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่นไว้อย่างน่าสนใจ ดังปรากฏในนารทกัสสปชาดกว่า

บุตรชายนายช่างทองร่วมประเวณีกับภรรยาของผู้อื่น เมื่อตายไปก็ตกนรกที่ลุกด้วยเปลวไฟนานหลายอสงกัลป์ เมื่อพ้นจากโทษทัณฑ์ในนรกภูมิแล้วก็มาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉา ได้รับบาดเจ็บจากการข่มกัดลูกอัณฑะจนขาดอย่างน่าเวทนา อันเป็นเศษกรรมที่หลงเหลือมา

ในชาดกเรื่องเดิม พระนารทมหาพรหม ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพรหม สถิตอยู่บนพรหมโลก จำแลงเป็นฤษีขนหามเงิน-ทองเสด็จลงมาโปรดพระเจ้าอังคติราชผู้หลงผิด มุ่งแต่เสพกามคุณ ไม่สนใจงานว่าราชการแผ่นดิน พระนารทมหาพรหมฤษีกล่าวถึงขุมนรกของผู้ประพฤติผิดในกามว่า ต้องปีนต้นงิ้วและได้รับบาดเจ็บจากการถูกหนามที่คมดุจมีดทิ่มแทงตามร่างกาย

@@@@@@@

หรือในเนมิราชชาดก พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเนมิราช ทรงท่องเที่ยวไปในนรกและสวรรค์ ครั้งทรงราชรถทิพย์ผ่านนรกภูมิ เห็นบรรดผู้หญิงถูกฝังให้ร่างจมดินเหลือโผล่ขึ้นมาจากดินเพียงครึ่งตัว ก้อนหินก้อนใหญ่ดุจภูเขาก็กลิ้งบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี นรกแห่งนี้เป็นที่ลงทัณฑ์ของผู้หญิงที่ล่วงละเมิดทางเพศบุรุษที่ไม่ใช่สามีของตน และคบชู้สู่ชายอื่น

แต่อย่างไรก็ตาม การป้องกันไม่ให้เกิดอกุศลกรรมนี้คือ การมีปัญญารู้ว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ไม่ควรกระทำ และมีสติห้ามปรามอารมณ์ใคร่ให้มีอำนาจเหนือการมีศีล การปฏิบัติตามศีลก็เป็นอีกอย่างที่ช่วยได้พอสมควร หรืออีกวิธีคือการเปลี่ยนความคิดหรือการหลอกตนเอง โดยการตั้งระบบหรือสั่งการตนเองว่า คน ๆ นี้คือคนในครอบครัว เป็นพี่เป็นน้อง เป็นญาติของเรา แล้วความใคร่ในการที่จะอยากล่วงเกินก็จะหายไป


 
ข้อมูล : การป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศต่อสตรีตามหลักพระพุทธศาสนา
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/91541.html (http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/91541.html)