หัวข้อ: สักการะ "มหาสถูกสาญจี" สถูปที่เก่าแก่ที่สุดในโลก (มีคลิป) เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 06, 2018, 06:29:01 am (http://dhamma.serichon.us/wp-content/uploads/2018/05/2018-05-09_225822.jpg) สักการะ "มหาสถูกสาญจี" สถูปที่เก่าแก่ที่สุดในโลก (มีคลิป) รายงานพิเศษชุดอารยธรรมพุทธภูมิ ตอนที่ 3. จะไปสักการะ "มหาสถูปสาญจี" เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อปีพุทธศักราช 300 "มหาสถูปสาญจี" เป็นพระมหาเจดีย์องค์แรกในพระพุทธศาสนา สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อปีพุทธศักราช 300 ขณะทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะที่ปกครองแคว้นมคธ หลังจากพระองค์เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ ทรงกลายเป็นเอกอัครพุทธศาสนูปถัมป์ ผู้อุปถัมป์บำรุงพุทธศาสนาโดยสร้างกลุ่มพุทธสถานแห่งสาญจี มีพระราชประสงค์เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อบรรจุพระธาตุของพระอัครสาวก พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ รวมถึงพระอรหันต์ที่มีความสำคัญในการเผยแผ่พุทะศาสนาทั้ง 9 สาย มหาสถูปสาญจีเป็นอนุสรณ์แก่พระโอรสและพระธิดาที่ต่อมาบวชเป็กภิกษุ และภิกษุณีในพุทธศาสนา รวมถึงเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักต่อพระมเหสีองค์แรก เมื่อเจาะไปที่โครงสร้างขององค์มหาสถูปสาญจี จากล่างไปยังส่วนบนสุดแบ่งเป็น 5 ส่วน - ส่วนที่ 1. รั้วที่ล้อมรอบสถูป เรียกว่า "เวทิกา"สร้างเลียนแบบเครื่องไม้ - ส่วนที่ 2. ซุ้มประตูทางเข้าสถูป เรียกว่า "โตรณะ"เป็นต้นแบบของเสาชิงช้า บนซุ้มประตูทั้ง 4 ด้าน จะมีการแกะสลักหินเป็นชุดภาพพุทธประวัติ ตั้งแต่ทรงประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา การแสดงยมกปาฏิหารย์ และปรินิพพาน - ส่วนที่ 3. ตัวองค์ระฆัง หรือเรือนธาตุ เป็นองค์สถูปเหมือนเนินดิน - ส่วนที่ 4. บัลลังก์รองรับฉัตร เรียกว่า "หรรมิกา" - ส่วนที่ 5. คือ ส่วนยอดบนสุด เรียกว่า ฉัตรวลี เป็นร่ม 3 ชั้น แสดงวรรณะกษัตริย์ @@@@@@ ลักษณะการสร้างสถูปเป็นการอธิบายหลักธรรมคำสอนในทางพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นทรงสถูป บัลลังก์ ยอดฉัตร แต่ที่น่าสังเกตุคือบรรดาศิลปะที่ปรากฎไม่มีการแสดงรูปของพระพุทธเจ้าโดยตรง แต่แสดงออกโดยใช้สัญลักษณ์แทน สัญลักษณ์ที่มีความสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งประจำมหาสถูปสาญจี คือ เสาพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ตั้งเรียงรายอยู่ในบริเวณพุทธสถานสาญจี เสาพระเจ้าอโศกถูกค้นพบในปี ค.ศ.1818 ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก มีการบูรณะจนเสร็จเมื่อปี คศ.1919 หัวเสาที่เป็นรูปสิงโตหันหลังชนกัน กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอินเดีย ภายหลังได้รับเอกราชจากอังกฤษ @@@@@@ อีกจุดหนึ่งของกลุ่มพุทธสถานสาญจีที่ต้องไปเยือน คือ สัตระสถูป โบราณสถานที่ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาริมฝั่งแม่น้ำฮารารี ประกอบด้วย โบสถ์ สกูปที่สร้างในพุทธศตวรรษที่ 3-12 ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุด สูง 13 เมตร บริเวณนี้ยังเป็นบริเวณที่มีความ "สัปปายะ"มาก มีหลักฐานที่เชื่อกันว่าเป็นโรงเรียนสอนศาสนาที่เก่าแก่กว่ามหาวิทยาลัยนาลันทาด้วย กลุ่มพุทธสถานสาญจี เป็นกลุ่มโบราณสถานที่อยู่ห่างไกล ระยะทางและการเดินทางค่อนข้างยากลำบากกว่าการเดินทางไปสักการะ 4 สังเวชนียสถาน คือ ลุมพินี พุทธคยา สารนาถ และกุสินารา แต่ด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาและร่องรอยอารยธรรมของต้นกำเนิดแห่งแดนพุทธภูมิ ก็ทำให้มหาสถูปสาญจีและกลุ่มพุทธสถาน เป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธา ควรเดินทางมาสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต ดูคลิปได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=Hq22FBYaKIs (https://www.youtube.com/watch?v=Hq22FBYaKIs) ขอบคุณที่มา : https://www.voicetv.co.th/read/137546 (https://www.voicetv.co.th/read/137546) ขอบคุณภาพจาก : http://dhamma.serichon.us/ (http://dhamma.serichon.us/) หัวข้อ: Re: สักการะ "มหาสถูกสาญจี" สถูปที่เก่าแก่ที่สุดในโลก (มีคลิป) เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 06, 2018, 06:43:08 am • เจดีย์สาญจีสถูป พระมหาเจดีย์องค์แรกของโลก รัฐมัธยะประเทศ (Madhya Pradesh) มรดกโลก
.................................... • บันทึกการเดินทาง เที่ยวเจดีย์สาญจีสถูป • สถูปสาญจี มหาเจดีย์องค์แรกของโลกและมรดกโลกที่ประเทศอินเดีย • แค่ชื่อมรดกโลกและมหาเจดีย์องค์แรกของโลกมันทำให้ผมเองต้องไปชมเป็นขวัญกำลังใจให้กับตัวเองสักครั้ง @@@@@@ • ก่อนเดินทาง • สำหรับทริปนี้ผมได้รับความช่วยเหลือพิเศษและสปอนเซ่อร์ฟรีจากบริษัทจาตัก ทราเวล ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ที่ประเทศอินเดีย เชิญชวนไปสำรวจ สาญจีสถูป ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลราและเมืองปูเน่ • จากกรุงเทพฯ ผมบินมาลงเมืองเดลี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย จากนั้นก็มานั่งรถไฟสายราชธานีแอนด์สตาร์บรี เป็นขบวนรถไฟสุดหรูของอินเดียมาที่เมืองโบปาล (สำหรับรถไฟสายราชธานีแอนด์สตาร์บรี เป็นรถไฟระดับเฟิร์ทคราสทั้งขบวนครับ นั่งสบาย เบาะปรับเอนนอน แอร์เย็นฉ่ำและเป็นรถไฟที่วิ่งตรงเวลาครับ) • เมืองโบปาล ผมใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองโบปาล จากนั้นก็เดินทางต่อไปหมู่บ้านสาญจีซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสาญจีสถูป (อยู่ห่างจากเมืองโบปาลประมาณ 68 กิโลเมตร) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2188.jpg) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2132.jpg) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2134.jpg) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2154.jpg) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2156.jpg) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2176.jpg) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2183.jpg) (http://www.oceansmile.com/PicInter/India/India-Pune/India-785/DSC_2155.jpg) สาญจีสถูป พระมหาเจดีย์องค์แรกของโลก หมู่บ้านสาญจี (Sanchi) • เจดีย์สาญจีสถูป พระมหาเจดีย์องค์แรกในพระพุทธศาสนา (มรดกโลก) • สถานที่ตั้ง สถูปสาญจี อยู่ห่างจากเมืองโบปาล ประมาณ 68 กิโลเมตร ในรัฐมัธยะประเทศ ตอนกลางของประเทศอินเดีย • เจดีย์สาญจี หรือสาญจีสถูป สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. 270 – 311) ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะ ปกครองแคว้นมคธในขณะนั้น หลังจากที่พระองค์หันมานับถือพระพุทธศาสนาแล้ว พระองค์ก็ทรงกลายเป็นเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก์ ผู้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา และเป็นผู้สร้างสถูปแห่งนี้ บนเนินเขา ที่สูงประมาณ 91 เมตร ในเขตหมู่บ้านสาญจี (Sanchi) อำเภอไรเซ่น (Raisen) รัฐมัธยะประเทศ (Madhya Pradesh) ประเทศอินเดีย • พระสถูปแห่งนี้สร้างขึ้น ณ บริเวณที่เรียกว่า อวันตี อันเป็นสถานที่ที่ประสูติของพระนางเวทิสา ซึ่งเป็นพระมเหสีองค์แรกของพระองค์ เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชทรงเดินทางท่องเที่ยวมายังเมืองอุเจนีและได้พบรักพระมเหสีพระองค์นี้เข้า จึงได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางและเนื่องจากพระเจ้าอโศกทรงโปรดปรานหุบเขาที่ Vidisa มาก จึงมีพระดำริให้สร้างสถูปแห่งนี้ขึ้น • สถูปสาญจี ได้สำรวจพบเป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ.1818 (พ.ศ.2361) โดย พล.ท.เทเลอร์ นักโบราณคดีชาวอังกฤษและต่อมาได้พบสถูปองค์ที่ 1, 2, 3 รวมทั้งที่พำนักของพระสงฆ์เป็นจำนวนมาก แต่สถูปได้ถูกทำลายไปมากโดยพวกนักล่าสมบัติ ซึ่งต่อมาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้ง เมื่อปี ค.ศ. 1912 - 1919 (พ.ศ.2455 - 2462) • สถูปสาญจี มีความสูง 52.5 ฟุต บนยอดสถูปตกแต่งด้วยฉัตร มีประตูทางเข้าสถูป 4 ทิศ แต่ละประตูมีภาพแกะสลักพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าและการใช้ชีวิตของคนในยุคสมัยนั้น ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยังหลงเหลือตั้งแต่ครั้งแรกสร้าง นอกจากนั้นยังพบเสาศิลาจารึก ตั้งอยู่ข้างซุ้มประตูด้านทิศใต้ มีสภาพสมบูรณ์ บนยอดเสามีสิงโต 4 ตัวอยู่บนปลายเสา อันเป็นสัญลักษณ์ของเสาที่สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช @@@@@@ • พระประสงค์ในการสร้างมหาสถูปสาญจีของพระเจ้าอโศกมหาราชมี 1. เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 2. เพื่อบรรจุพระธาตุของพระอัครสาวก พระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ รวมทั้งพระธาตุของพระสมณทูตอีก 10 รูป ที่ทรงส่งไปประกาศพระศาสนาภายหลังการสังคายนาครั้งที่ 3 3. เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระโอรสมหินทระเถระและพระธิดาพระสังฆมิตตาเถรี 4. เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระมเหสีนามว่า พระนางเวทิสา ผู้มีถิ่นกำเนิดที่เมืองนี้ @@@@@@ • การเดินทางเที่ยวชมสถูปสาญจี • วิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟขบวนด่วนพิเศษราชธานีแอนด์สตาร์บรี วิ่งมาจากเมืองเดลี เป็นขบวนรถไฟสุดหรูของอินเดียมาที่เมืองโบปาล โดยผ่านเมืองอัครา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ระหว่างทางนั่งชมวิวทิวทัศน์ได้สวยงาม • ค่าเข้าชม ชาวต่างชาติคนละ 250 รูปี ชมคลิปได้ที่ : https://youtu.be/niqdbOOPAWo (https://youtu.be/niqdbOOPAWo) ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://www.oceansmile.com/India/Sanchi.htm (http://www.oceansmile.com/India/Sanchi.htm) |