หัวข้อ: ตัวอย่างของ "การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์" ข้อคิดดีๆ ที่ชาวพุทธควรรู้ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 15, 2018, 06:01:03 am (http://img.amarindigital.com/unsafe/770x433/smart/http://goodlifeupdate.com/app/uploads/2018/06/alexandre-chambon-28720-unsplash.jpg) ตัวอย่างของ "การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์" ข้อคิดดีๆ ที่ชาวพุทธควรรู้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) ได้ทรงแสดงทรรศนะเกี่ยวกับ การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พร้อมกับทรงยกตัวอย่างไว้ดังนี้ การทำทานนั้น จะได้บุญมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเจตนาว่าบริสุทธิ์หรือไม่ หากเจตนาไม่บริสุทธิ์ แม้วัตถุทานจะมากหรือทำมาก ก็ย่อมได้บุญน้อย วัตถุทานจะมากหรือน้อย เป็นของเลวหรือประณีตไม่สำคัญ เมื่อเราได้ให้ทานไปตามกำลังทรัพย์ที่เรามีอยู่ย่อมใช้ได้ แต่มีข้ออันควรระวังอยู่ก็คือ การทำทานนั้น อย่าได้เบียดเบียนตนเอง เช่นมีน้อย แต่ฝืนทำให้มาก ๆ จนเกินกำลังของตนที่จะให้ได้ เมื่อได้ทำไปแล้วตนเองและสามี ภรรยา รวมทั้งบุตรต้องลำบาก ขาดแคลน เพราะไม่มีจะกินจะใช้ เช่นนี้ย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง เจตนานั้นย่อมไม่บริสุทธิ์ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของ การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ คือ @@@@@@ ตัวอย่างที่ 1 : ทำทานเพราะอยากได้ ทำเอาหน้า ทำอวดผู้อื่น เช่น สร้างโรงเรียน โรงพยาบาลใส่ชื่อของตน ไปยืนถ่ายภาพลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ เพื่อให้ได้รับความนิยมยกย่องนับถือ โดยที่แท้จริงแล้วตนมิได้มีเจตนาที่จะมุ่งสงเคราะห์ผู้ใด เรียกว่าทำทานด้วยความโลภ ไม่ได้ทำเพื่อขจัดความโลภ ทำทานด้วยความอยากได้ คืออยากได้หน้า ได้เกียรติ ได้สรรเสริญ ได้ความนิยมนับถือ ตัวอย่างที่ 2 : ทำทานด้วยความฝืนใจทำเพราะเสียไม่ได้ ทำด้วยความเสียดาย เช่นมีพวกพ้องมาเรี่ยไร ตนเองไม่มีศรัทธาที่จะทำ หรือมีศรัทธาอยู่บ้างแต่ทรัพย์น้อย เมื่อมีพวกมาเรี่ยไรบอกบุญต้องจำใจทำทานไปเพราะความเกรงใจพวกพ้อง หรือเกรงว่าจะเสียหน้า ตนจึงได้สละทรัพย์ทำทานไปด้วยความจำใจ ย่อมเป็นการทำทานด้วยความตระหนี่หวงแหน ทำด้วยความเสียดาย ไม่ใช่ทำทานด้วยจิตเมตตาที่มุ่งจะสงเคราะห์ผู้อื่น ซึ่งยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย ให้ไปแล้วก็เป็นทุกข์ใจ บางครั้งนึกโกรธผู้ที่มาบอกบุญ เช่นนี้จิตย่อมเศร้าหมองได้บุญน้อย หากเสียดายมาก ๆ จนเกิดโทสจริตกล้าแล้ว นอกจากจะไม่ได้บุญที่จะได้ก็คือบาป ตัวอย่างที่ 3 : ทำทานด้วยความโลภ คือทำทานเพราะอยากได้นั่นอยากได้นี่ อยากเป็นนั่น เป็นนี่ อันเป็นการทำทานเพราะหวังสิ่งตอบแทน ไม่ใช่ทำทานเพราะมุ่งหมายที่จะขจัดความโลภความตระหนี่หวงแหนในทรัพย์ของตน เช่น ทำทานแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอให้ชาติหน้าได้เป็นเทวดา นางฟ้า ขอให้รูปสวย ขอให้ทำมาค้าขึ้น ขอให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ทำทาน 100 บาท แต่ขอให้ร่ำรวยนับล้าน ขอให้ถูกสลากกินแบ่ง สลากกินรวบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสมบัติสวรรค์ หากชาติก่อนไม่เคยทำบุญใส่บาตรฝากสวรรค์เอาไว้ อยู่ ๆ ก็มาขอเบิกในชาตินี้ จะมีที่ไหนมาให้เบิก การทำทานด้วยความโลภเช่นนี้ ย่อมไม่ได้บุญอะไรเลย สิ่งที่จะได้พอกพูนเพิ่มให้มากขึ้นและหนาขึ้นก็คือ “ความโลภ” ที่มา: หนังสือ วิธีสร้างบุญบารมี ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) Photo by Alexandre Chambon on Unsplash http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/96616.html (http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/96616.html) หัวข้อ: Re: ตัวอย่างของ "การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์" ข้อคิดดีๆ ที่ชาวพุทธควรรู้ เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ มิถุนายน 15, 2018, 12:53:22 pm การทำทาน ทั้งเจตนา และไม่เจตนา ล้วนแล้วได้บุญกุศลเช่นกัน แตกต่างกันที ่อานิสงค์ ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้นทางจิตที่แตกต่างกัน
ทำทาน จะทำกับสัตว์ จะทำกับคนไม่ดี ได้บุญทั้งนั้น ที่นี้ความเข้าใจ มันเป็นไปตามลำดับธรรม สูงสุด ก็คือ ทำทานเพื่อปีติ (อันนี้สูงสุด ) อานิสงค์ ก็คือ นิพพาน ไม่ว่าจะทำอย่างไร ที่ชื่อว่า ทาน ก็ดี ทั้งนั้น ขอให้ทำก็แล้วกัน ปกติคนจะไม่ทำทานก่อน ในเบื้องต้น ต้องผ่านวิธีคิดรีตรองมากก่อนจะทำทาน เพราะการทำทาน มันต้องมีทรัพย์ ต้องมีของ อานิสงค์ของทาน ก็แตกต่างกันไป แต่ผลทางจิตไม่มันเหมือนกัน โดยภาวะ แต่เหมือนกัน โดยภาพรวม เช่น ทำวิหารทาน ก็ได้สุข เป็นอารมณ์ ได้โภคทรัพย์ ในสัมปรายภพ หรือ ภพต่อไป หรือ แม้ในปัจจุบัน ทำ อภัยทาน ก็ได้สุข เป็นอารมณ์ ไม่ได้ โภคทรัพย์ แต่ได้อุปนิสัยทางธรรมติดตัวไปในภพต่อไป เจริญพร หัวข้อ: Re: ตัวอย่างของ "การทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์" ข้อคิดดีๆ ที่ชาวพุทธควรรู้ เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ มิถุนายน 15, 2018, 03:49:34 pm กราบสาธุค่ะ :25: st11 st12
|