หัวข้อ: "ญาณ ๑๖" บันได แห่ง การบรรลุธรรม เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 20, 2018, 06:25:50 am (https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2018/11/samuel-zeller-358865-unsplash.jpg) "ญาณ ๑๖" บันได แห่ง การบรรลุธรรม การจะก้าวข้ามห้วงสังสารวัฏไปสู่พระนิพพาน มีเพียงการเจริญวิปัสสนาตามแนวทางของสติปัฏฐานทางเดียวเท่านั้น ต้องเริ่มจากการชำระศีลให้บริสุทธิ์เพื่อเป็นฐานของการเจริญสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การมีปัญญา คือบรรลุพระนิพพานในที่สุด การเจริญกรรมฐานเพื่อให้ถึงพระนิพพานต้องเจริญสติผ่านลำดับวิปัสสนาญาณ ดังนี้ @@@@@@ ๑. นามรูปปริจเฉทญาณ หมายถึง ญาณกำหนดแยกนามรูป คือรู้ว่าอะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม เพราะรู้แจ้งชัดซึ่งรูปนาม ๒. นามรูปปัจจัยปริคคหญาณ หมายถึง ญาณรู้ว่ารูปธรรมและนามธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุปัจจัย และเป็นปัจจัยแก่กันและกัน ๓. สัมมสนญาณ หมายถึง ญาณที่เห็นสังขตลักษณะ คือ ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปของนามรูป และเริ่มเห็นไตรลักษณ์ เห็นตรุณอุทยัพพยญาณหรืออุทยัพพยญาณอย่างอ่อน วิปัสสนูปกิเลสจะเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ ผู้เจริญกรรมฐานถึงขั้นนี้จะกำหนดยกรูปนามขึ้นพิจารณาให้เห็นเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ๔. อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณที่ตามเห็นความเกิดและความดับแห่งนาม เห็นสันตติขาดจนเป็นเหตุทราบชัดว่า สิ่งทั้งปวงมีความเกิดขึ้นแล้วก็ล้วนแต่ต้องดับไปเป็นธรรมดา @@@@ ๕. ภังคานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณที่ตามเห็นเฉพาะความดับเด่นขึ้นมาอย่างเดียว อุปาทะคือความเกิดขึ้น และฐิติคือความตั้งอยู่ ก็ยังมีอยู่ แต่ปรากฏไม่ชัดเจน เพราะวิปัสสนาญาณมีกำลังกล้าขึ้น รูปนามปรากฏเร็วขึ้น จึงเป็นเหตุให้พิจารณาเห็นชัดลงไปเฉพาะในส่วนแห่งความดับ อันเป็นจุดจบสิ้น ว่าสังขารทั้งปวงล้วนดับสลายไปสิ้น ๖. ภยตูปัฏฐานญาณ หมายถึง ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว ไม่แน่นอน ดุจกลัวต่อมรณะที่จะเกิดเพราะล้วนแต่ต้องแตกสลายไปทั้งสิ้น ๗. อาทีนวานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณคำนึงเห็นโทษภัยของสิ่งทั้งปวง ผันผวนปรวนแปร พึ่งพามิได้ คือเมื่อเห็นรูปนามล้วนแต่ดับสลายเป็นของน่ากลัวมาตามลำดับแล้ว ย่อมพิจารณาเห็นว่า รูปนามทั้งปวงล้วนแต่เป็นทุกข์ เป็นโทษ ๘. นิพพิทานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณคำนึงเห็นด้วยความเบื่อหน่าย คือเมื่อเห็นทุกข์เห็นโทษของรูปนามแล้ว ย่อมเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ไม่รื่นเริง เพลิดเพลิน หลงใหลในรูปนาม @@@@ ๙. มุญจิตุกัมยตาญาณ หมายถึง ญาณหยั่งรู้อันใคร่จะพ้นไปเสีย เพราะพิจารณาเห็นทุกข์เห็นโทษ และเกิดความเบื่อหน่ายในรูปนามที่ผ่านมา ๑๐. ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันพิจารณาทบทวนเพื่อจะหาทางหนี คือตั้งใจจริง ปฏิบัติจริง ไม่ย่อท้อ ใจหนักแน่นมั่นคง เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวสู้ตาย ๑๑. สังขารุเปกขาญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางวางเฉยต่อสังขาร คือทราบชัดตามความเป็นจริงในรูปนามแล้วจึงเป็นผู้มีใจเป็นกลางวางเฉยได้ ๑๒. สัจจานุโลมิกญาณ หมายถึง ญาณเป็นไปโดยควรแก่การหยัั่งรู้อริยสัจ สามารถเห็นไตรลักษณ์ด้วยภาวนามยปัญญาได้ (พิจารณาวิปัสสนาญาณทั้ง ๘ ที่ผ่านมาว่าเป็นทุกข์ เมื่อเห็นทุกข์ก็เห็น สมุทัย นิโรธ มรรค โดยแต่ละญาณเป็นเหตุเกิดมรรคทั้ง ๘ ตามลำดับ) @@@@ ๑๓. โคตรภูญาณ หมายถึง ญาณครอบโคตร คือหัวต่อที่ข้ามพ้นภาวะปุถุชน (ถ้าเป็นอริยบุคคลแล้วจะเรียกว่า วิทานะญาณ) เห็นความทุกข์จนไม่กลัวต่อความว่าง ดุจบุคคลกล้าโดดจากหน้าผาสู่ความว่างเพราะรังเกียจในหน้าผานั้นอย่างสุดจิตสุดใจ ๑๔. มัคคญาณ หมายถึง ญาณในอริยมรรค ๑๕. ผลญาณ หมายถึง ญาณอริยผล ๑๖. ปัจจเวกขณญาณ หมายถึง ญาณที่พิจารณาทบทวน (ว่ากิเลสใดดับไป กิเลสใดยังเหลืออยู่ กิจที่ต้องทำยังมีอยู่หรือไม่ พิจารณาสัจจานุโลมิกญาณอีก) ที่มา : ชุดสุดยอดสงฆ์ 1 : หลวงปู่ขาว สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ Photo by Samuel Zeller on Unsplash Secret Magazine (Thailand) , IG @Secretmagazine ขอบคุณเว็บไซต์ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/124652.html คอลัมน์ธรรมะ : ญาณ ๑๖ บันไดแห่งการบรรลุธรรม By Alternative Textying , 19 November 2018 |