|
หัวข้อ: ทำไม.? หลวงพ่อคูณ “ชอบนั่งยองๆ” เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 03, 2018, 07:07:41 am (https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/AENaree/q.jpg) ขอบคุณภาพจากhttps://hilight.kapook.com/view/137950 ทำไม.? หลวงพ่อคูณ “ชอบนั่งยองๆ” วาสนา เป็นทั้งบาลีและสันสกฤต อ่าน “วา-สะ-นา” ไทยเราอ่านเพื่อให้เข้ากับหูไทยๆ ว่า “วาด-สะ-หนา” ความหมายเดิมเขาหมายถึง “สิ่ง” ที่สั่งสมอยู่ในจิตสันดานยาวนานมาก นอนเนื่องอยู่ภายในจิตเราแน่นแฟ้นและลึกมาก จนแกะไม่ออก เทียบกับคำไทยว่าสันดาน นั่นแหละครับ ในทางพระพุทธศาสนา "วาสนา" มิใช่เรื่องดีนัก ว่ากันว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทรงละวาสนาได้ พร้อมกับกิเลสทั้งปวง พระอรหันต์นั้นละได้เฉพาะกิเลสเท่านั้น ไม่สามารถละวาสนาได้ ว่ากันอย่างนั้น แต่ “วาสนา” ในความหมายไทยๆ กลับเป็นเรื่องดี คือหมายถึง "บุญญาบารมี" บางทีก็พูดควบคู่กันว่า “บุญวาสนา” ใครที่ประสบความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต คนเขากล่าวขวัญถึงว่า…. “เขา(หรือเธอ) มีบุญวาสนา” หรือ “เป็นวาสนาของเขา (หรือเธอ) นะ” อะไรทำนองนี้ @@@@@ ตัวอย่างในสมัยพุทธกาล ที่แสดงถึงอิทธิพลของวาสนา คือ เรื่องพระปิลินทวัจฉะ ท่านผู้นี้มีคำพูดติดปากว่า “วสลิ” (แปลว่า ไอ้ถ่อย) พบใครก็จะถามว่า “ไปไหนมา ไอ้ถ่อย” “สบายดีหรือ ไอ้ถ่อย” อย่างนี้เสมอ คำพูดดูจะเป็นคำหยาบ ไม่สุภาพ แต่จิตใจท่านมิได้หยาบไปด้วย ท่านพูดด้วยจิตเมตตา เป็นคำพูด “ติดปาก” ท่าน แก้ไม่หาย ชาวบ้านที่รู้ว่าอะไรก็ไม่ถือสาท่าน ยกให้ท่าน นอกจากคนต่างถิ่นเท่านั้น ที่ได้ยินเข้าอาจฉุนว่าพระอะไร (วะ) พูดคำหยาบ แต่เมื่อทราบความจริงแล้วก็มิได้ถือสา @@@@ คงเหมือนกับหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เมืองโคราชกระมังครับ ท่านก็ติดคำ “กู”-“มึง” เวลาสนทนา หลวงพ่อคูณนั้นเป็นที่รู้กันว่า ท่านเป็นพระมีเมตตามาก คนเขาเอาเงินเอาทองมาถวายเท่าไร ท่านก็นำไปสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาลและสาธารณสถานหมด ไม่เก็บไว้ร่ำรวยจนเป็น “พระเสี่ย” เหมือนดังเกจิดังอื่นๆ ท่านพูดกูมึงกับใคร ก็ไม่มีใครถือว่าเป็นคำหยาบ กลับฟังแล้วน่ารักเสียอีก ตรงกันข้ามถ้าหลวงพ่อคูณท่านเปลี่ยนมาพูดคำไพเราะกับใครเข้า ใครคนนั้นคงตกใจ นึกว่าหลวงพ่อด่าแน่นอน อิอิ.. @@@@@@ คำพูด "กู-มึง"ของหลวงพ่อคูณเป็น “วาสนา” ที่แก้ไม่หาย วาสนาอีกอย่างของท่านที่แก้ไม่ได้ คือ "นั่งยองๆ" ท่านไม่ชอบนั่งพับเพียบเหมือนพระภิกษุทั่วไป เมื่อมีคนถามว่า "ทำไมหลวงพ่อชอบนั่งยองๆ.?" หลวงพ่อตอบว่า "กูไม่ชอบดอก ไอ้หลานเอ๊ย มันนั่งของมันอย่างนี้เอง" เมื่อถามอีกว่า "นั่นสิครับหลวงพ่อ ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้.?" หลวงพ่อตอบด้วยสำเนียงชาวโคราชว่า... “กูว่า มันเป็นท่าเตรียมพร้อม คือ กูจะลุกยืนก็ลุกได้ทันที กูจะนั่งพับเพียบก็นั่งได้ทันที นั่งยองๆ นี่ก็มันดีแท่ๆ เด๊” เรียบเรียงจากคอลัมน์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก เรื่อง : “วาสนา” มีจริงหรือไม่.? แล้วคืออะไรในทาง “พุทธ”.? ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก ,เผยแพร่ : วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2561 ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24-30 สิงหาคม 2561 ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก : https://www.matichonweekly.com/column/article_129513 (https://www.matichonweekly.com/column/article_129513) |