หัวข้อ: พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ บนพระมาลาเบี่ยง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 21, 2019, 05:52:22 am (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2017/01/1-10-696x547.jpg) พระมาลาเบี่ยง พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ บนพระมาลาเบี่ยง พุทธลักษณะ พระพุทธรูปที่ประดิษฐานรายรอบพระมาลาเบี่ยงประกอบด้วยพระพุทธรูปในสองอิริยาบถ คือ พระพุทธรูปประทับยืน และพระพุทธรูปประทับนั่ง พระพุทธรูปประทับยืนเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง พระพักตร์ค่อนข้างกลม แย้มสรวล ทรงศิราภรณ์เป็นชฎามุกุฏซ้อนกันสามชั้น ทรงกุณฑลรูปตุ้ม ประทับยืนตรงแสดงอภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ทั้งสอง ทรงกรองศอ พาหุรัด ทองกร และทองพระบาทจำหลักลาย รัดประคดประดับเครื่องเพชรพลอย มีอุบะขนาดสั้นห้อยประดับกับทั้งมีชายภูษารูปหางปลาห้อยย้อยลงมาเบื้องหน้าทับบนอันตรวาสก สำหรับพระพุทธรูปประทับนั่งนั้น มีพระพักตร์คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปประทับยืน ทรงศิราภรณ์และเครื่องอาภรณ์ละม้ายกับพระพุทธรูปประทับยืน เพียงลดรายละเอียดบางอย่างเช่น ความอลังการของชฎามุกุฏลงเป็นอาทิ พระพุทธรูปประทับนั่งเหล่านี้ครองอุตราสงค์ห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา ด้วยปรากฏขอบอุตราสงค์พาดผ่านพระอังสาซ้ายลงมาทางด้านขวา พระพุทธปฏิมาประทับนั่งทั้งหมดประทับนั่งในท่าวีราสนะ พระชงม์ขวาซ้อนเหนือพระชงฆ์ซ้าย แสดงธยานะมุทราพระหัตถ์ขวาซ้อนเหนือพระหัตถ์ซ้ายกับทั้งในพระหัตถ์นั้นมีสิ่งของบางอย่างทรงถืออยู่ (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2018/01/21.jpg) ประวัติ พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ รายรอบพระมาลาเบี่ยงนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ รับสั่งว่า คนทอดแหได้พบพระพุทธรูปดังกล่าวในลำน้ำมูล แขวงเมืองนครราชสีมา ต่อมาพระยานครราชสีมานำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธรูปเหล่านี้ ประดิษฐานรอบพระมาลาเบี่ยงที่ทรงสร้างขึ้น สำหรับลักษณะทางประติมานวิทยาเชื่อว่า พระพุทธรูปประทับนั่งซึ่งถือวัตถุบางอย่างซึ่งอาจได้แก่หม้อน้ำมนต์ไว้ในพระหัตถ์นี้ อาจหมายถึงพระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภาอันมีความหมายถึง พระพุทธเจ้าผู้มีแสงสว่างประดุจแก้วไพฑูรย์ผู้เป็นพระพุทธเจ้าที่ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง ความนิยมนับถือพระพุทธเจ้าองค์นี้เจริญสูงสุดในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายของราชอาณาจักรเขมรในราวพุทธศตวรรษที่ 18 @@@@@@ ด้วยเหตุที่ศิลาจารึกในรัชกาลของพระองค์กล่าวว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างอโรคยาศาลาเหล่านี้คงสร้างขึ้นทั้งในประเทศกัมพูชาและในดินแดนของราชอาณาจักรไทยในปัจจุบัน อโรคยศาลานี้ได้อุทิศถวายพระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภาทั้งสิ้น ในหนังสือสาส์นสมเด็จ พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ กับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระบุจำนวนพระพุทธรูปรอบมาลาเบี่ยงว่ามี 28 พระองค์ ยึดรูปแบบการสะกดตามที่ปรากฏในต้นฉบับ ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม 2538 ผู้เขียน : ศ.ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2562 ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/culture/article_5438 (https://www.silpa-mag.com/culture/article_5438) หัวข้อ: ที่มา “พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์” บน “พระมาลาเบี่ยง” รัชกาลที่ 1 ทรงสร้าง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 29, 2023, 06:30:29 am .
(https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2023/09/ภาพปก-พระมาลาเบี่ยง-696x364.jpg) พระมาลาเบี่ยง ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ ที่มา “พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์” บน “พระมาลาเบี่ยง” รัชกาลที่ 1 ทรงสร้าง พระมาลาเบี่ยง เป็นหนึ่งในเครื่องราชูปโภคพระมหากษัตริย์ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงสร้างขึ้น บนพระมาลาเบี่ยงประดิษฐาน “พระพุทธรูปทองคำ” 21 องค์ รายละเอียดต่างๆ ศ. ดร. ม.ร.ว. สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ ได้เขียนไว้ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม พ.ศ. 2538 ดังนี้ พุทธลักษณะของ พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ ที่ประดิษฐานรายรอบพระมาลาเบี่ยง ประกอบด้วยพระพุทธรูปในสองอิริยาบถ คือ พระพุทธรูปประทับยืน [1] และ พระพุทธรูปประทับนั่ง [2] พระพุทธรูปประทับยืน เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง พระพักตร์ค่อนข้างกลม แย้มสรวล ทรงศิราภรณ์เป็นชฎามุกุฏซ้อนกันสามชั้น ทรงกุณฑลรูปตุ้ม ประทับยืนตรงแสดงอภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ทั้งสอง ทรงกรองศอ พาหุรัด ทองกร และทองพระบาทจำหลักลาย รัดประคดประดับเครื่องเพชรพลอย มีอุบะขนาดสั้นห้อยประดับกับทั้งมีชายภูษารูปหางปลาห้อยย้อยลงมาเบื้องหน้าทับบนอันตรวาสก ส่วน พระพุทธรูปประทับนั่ง มีพระพักตร์คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปประทับยืน ทรงศิราภรณ์และเครื่องอาภรณ์ละม้ายกับพระพุทธรูปประทับยืน เพียงลดรายละเอียดบางอย่าง เช่น ความอลังการของชฎามุกุฏลงเป็นอาทิ พระพุทธรูปประทับนั่งเหล่านี้ครองอุตราสงค์ห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา ด้วยปรากฏขอบอุตราสงค์พาดผ่านพระอังสาซ้ายลงมาทางด้านขวา พระพุทธปฏิมาประทับนั่งทั้งหมดประทับนั่งในท่าวีราสนะ พระชงม์ขวาซ้อนเหนือพระชงฆ์ซ้าย แสดงธยานะมุทราพระหัตถ์ขวาซ้อนเหนือพระหัตถ์ซ้ายกับทั้งในพระหัตถ์นั้นมีสิ่งของบางอย่างทรงถืออยู่ (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2017/01/1-10.jpg) พระมาลาเบี่ยง พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ [3] รายรอบพระมาลาเบี่ยงนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ รับสั่งว่า คนทอดแหได้พบพระพุทธรูปดังกล่าวในลำน้ำมูล แขวงเมืองนครราชสีมา ต่อมาพระยานครราชสีมานำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธรูปเหล่านี้ประดิษฐานรอบ “พระมาลาเบี่ยง” ที่ทรงสร้างขึ้น สำหรับลักษณะทางประติมานวิทยาเชื่อว่า พระพุทธรูปประทับนั่งซึ่งถือวัตถุบางอย่าง ซึ่งอาจได้แก่หม้อน้ำมนต์ไว้ในพระหัตถ์ อาจหมายถึง “พระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภา” อันมีความหมายถึง พระพุทธเจ้าผู้มีแสงสว่างประดุจแก้วไพฑูรย์ ผู้เป็นพระพุทธเจ้าที่ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง ความนิยมนับถือพระพุทธเจ้าองค์นี้เจริญสูงสุดในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายของราชอาณาจักรเขมรในราวพุทธศตวรรษที่ 18 ด้วยเหตุที่ศิลาจารึกในรัชกาลของพระองค์กล่าวว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างอโรคยาศาลาเหล่านี้ ทั้งในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือประเทศกัมพูชาและในดินแดนของราชอาณาจักรไทย ซึ่งอโรคยศาลานี้ได้อุทิศถวายพระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภาทั้งสิ้น อ่านเพิ่มเติม :- • เหตุใดคนโบราณทํา “คอก” แคบๆ ล้อมพระพุทธรูป (https://www.silpa-mag.com/art/article_23870) • ทำไม “พระพุทธชินราช” จึงเป็นพระพุทธรูปที่จำลองมากที่สุด? (https://www.silpa-mag.com/history/article_28003) • นิมิตอัศจรรย์ “หยก” ใหญ่ที่สุดในโลกจากแคนาดา สู่พระพุทธรูปหยกวัดธรรมมงคลฯ (https://www.silpa-mag.com/culture/article_111127) เชิงอรรถ :- [1] ยึดรูปแบบการสะกดตามที่ปรากฏในต้นฉบับ [2] ยึดรูปแบบการสะกดตามที่ปรากฏในต้นฉบับ [3] ในหนังสือสาส์นสมเด็จ พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ กับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระบุจำนวนพระพุทธรูปรอบมาลาเบี่ยงว่ามี 28 พระองค์ ขอขอบคุณ :- ผู้เขียน : กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ : วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ.2566 เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 3 มกราคม 2561 website : https://www.silpa-mag.com/history/article_5438 (https://www.silpa-mag.com/history/article_5438) |