หัวข้อ: คลื่นความคิด ก็ส่งเสียงได้ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 23, 2019, 06:44:36 am :25: :25: :25: คลื่นความคิด ก็ส่งเสียงได้ เคยไหม อยู่ใกล้คนบางคนที่ฟุ้งซ่านจัด แล้วคุณเห็นเหมือนมีหมอกควันคละคลุ้งอลหม่านรอบศีรษะของคนคนนั้น.? เคยไหม เผชิญหน้ากับคนที่จ้องเขม็ง เล็งแลมาที่คุณด้วยความโกรธจัด แล้วคุณเกิดความรู้สึกราวกับได้ยินเสียงด่าทอเกรี้ยวกราด ดังออกมาจากหัวของเขา.? เคยไหม นอนอยู่เฉยๆคนเดียว แต่สัมผัสราวกับกำลังมีใครพยายามพูดคุยกับคุณ เป็นคนที่คุณรู้จักมักจี่ไม่ใช่ผีสางที่ไหน.? คลื่นสมองเป็นคลื่นไฟฟ้าชนิดหนึ่ง มีพลังกระทำกับอากาศโดยรอบ เห็นได้ด้วยตาเปล่า ถ้ารู้วิธีมองหรือแม้ไม่รู้วิธีมอง แต่เจอคนที่มีคลื่นสมองแรงพอ ก็เกิดประสบการณ์สัมผัสคลื่นสมองด้วยตาเปล่าได้ ยกตัวอย่างเช่น คนมีสติ มีสมาธิดี คุณจะรู้สึกว่าอากาศรอบตัวของเขานิ่ง โปร่ง เป็นที่สบาย น่าเข้าใกล้ @@@@@@ คนมีอาการซึมเศร้า ชอบเรียกร้องหาความสงสาร คุณจะรู้สึกว่าอากาศรอบตัวของเขาอับทึบ มืดหม่นปั่นป่วนวกวน บางทีถึงขั้นเหมือนจะหายใจไม่สะดวก ถ้าเข้าไปใกล้รัศมี คนชนิดนี้จึงไม่น่าเข้าใกล้ให้พลอยเพลียใจ เพลียแรงตามไปด้วย คนเจ้าอารมณ์ โมโหร้าย โกรธง่ายหายช้า คุณจะรู้สึกว่าอากาศรอบตัวของเขาเต็มไปด้วยความแปรปรวน พร้อมเกิดพายุและฟ้าผ่าฟ้าคะนอง รู้สึกเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย อยากอยู่ให้ห่างที่สุด เป็นต้น ประสบการณ์ที่พวกเราสัมผัสเคยคุ้นอยุ่ทุกเมื่อเชื่อวัน อธิบายได้ ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อนอะไร และยุควิทยาศาสตร์ของพวกเรา ก็ตรวจจับคลื่นสมองกันได้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๘๗๕ โน่นแล้ว อีกทั้งปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีตรวจจับคลื่นสมองด้วยอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว เช่น NeuroSky ที่เน้นเล่นเกม และ Muse ที่เน้นตรวจจับ ‘ค่าความสงบ’ เป็นหลักออกมาให้เราๆท่านๆจับต้องได้ด้วย (https://obs.line-scdn.net/0hME2vHREJEmoPDzixGjZtPTVZEQU8YwFpazlDaVNhTF5wbAc8Om4JWyxdTA9wOFU0YT1fCiMMCVsqaFw-ZG0J/w644) บทความสัปดาห์ก่อน ผมแนะนำให้รู้จักกับเสียงสติ ซึ่งผมวิจัยพัฒนามา เพื่อช่วยจูนคลื่นสมองของคนทั่วไปให้ลงมาสู่ความสงบแบบพร้อมรู้ (ดาวน์โหลดได้จาก http://dungtrin.com/BB (http://dungtrin.com/BB) และจะอัพเดทไฟล์ใหม่ๆที่นี่แห่งเดียว) วันนี้ผมจะเอาผลการตรวจจับคลื่นสมองแบบต่างๆจากการใช้ เสียงสติ มาให้ดู และเกิดความเข้าใจชัดเจน ซึ่งก็จะเกิดทัศนคติที่เป็นประโยชน์กับการฝึกสมาธิกันต่อไปครับ ผมใช้อุปกรณ์แบรนด์ Muse ซึ่งมีแอพมารายงานคร่าวๆว่า ขณะหนึ่งๆ สมองกำลังตื่นตัว ทำงานเต็มที่(Active) หรืออยู่ในภาวะกลางๆ ไม่สงบ ไม่ตื่นตัว (Neutral) หรือกำลังสงบ (Calm) ซึ่งเมื่อเราทราบค่าต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ก็จะสามารถตีความว่า ‘จิต’ ของผู้พยายามทำสมาธิมีคุณภาพแค่ไหน ในช่วงเวลานั้นๆ ผู้ใช้เสียงสติคนแรกที่อยากเอามาให้ดู เป็นคลื่นสมองของแพทย์หญิงอายุ ๔๑ ซึ่งปกติต้องทำงานหลายอย่าง สิบกว่าชั่วโมงต่อวัน ไม่มีวันหยุด จึงไม่ต้องสงสัยเลย ระหว่างวันสมองต้องอยู่ในโหมด Active เป็นส่วนใหญ่แน่นอน (เราเจอกันบ่อยสุดสำหรับคนยุคไอทีที่วันๆสมองต้องปั่นป่วนอลหม่านไม่หยุดหย่อน) (https://obs.line-scdn.net/0hE1oU0UJkGh5SLDDFR7plSWh6GXFhQAkdNhpLHQ5CRCotTw9IZxhVL3B7RyZ7SV1APBlWe3YvAS93S1RKORlV/w644) ในขณะที่เริ่มฟังเสียงสติ เธอกำลังเหนื่อยอ่อน และอยู่ในท่านอน ตั้งใจดูลมหายใจที่ต่างไปเรื่อยๆ ซึ่งช่วง ๓ นาทีแรกจึงออกแนว ‘สงบแบบง่วง’ คุณจะเห็นว่าแม้อยู่ใน ‘โซนสงบ’ แต่ความถี่และความสูงของคลื่นก็ไม่มีความแน่นอน สะท้อนว่า ประสบการณ์ภายในพร่าเลือน พร้อมจะคล้อยลงสู่ความหลับใหล ตรงนี้อธิบายได้ว่า ความสงบไม่ได้บอกว่าคุณภาพของจิตดีๆเสมอไป ยิ่งเมื่อขึ้นนาทีที่ ๓ ซึ่งเกิดการหลงสู่ความหลับจริง คลื่นสมองก็ตีขึ้นสูง มีความถี่มากขึ้น ซึ่งตรงนี้ฟ้องเลย ที่เข้าใจกันว่า ‘การนอนหลับคือการพักผ่อน’ ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป อย่าสงสัยว่าทำไมบางคืนหลับเป็นสิบชั่วโมง ตื่นขึ้นมาจึงยังเพลียอยู่ เหมือนหลับไม่เต็มอิ่ม ส่วนคลื่นสมองระดับ Active นั้น ก็ยังไม่แน่ว่าดีหรือแย่ เพราะถ้าลืมตาตื่นและทำงานอยู่ แล้วคลื่นสมองมีความสม่ำเสมอ ทั้งความถี่และความสูง ก็แปลว่ากำลังมีพลังในการโฟกัส ซึ่งผมเคยเห็นพวกมีพลังจิตที่ตรวจวัดคลื่นสมองขณะใช้พลัง ก็พบว่ามันตีคลื่นขึ้นสูงเหนือคนธรรมดา กับทั้งมีความสม่ำเสมอด้วย (อันนี้จะตรวจพบได้ชัดก็ต้องใช้อุปกรณ์ตรวจวัดระดับโรงพยาบาลหรือห้องวิจัย) @@@@@@ แต่สำหรับการตรวจคลื่นสมองด้วยอุปกรณ์คร่าวๆราคาถูกนี้ พอบอกเราได้ว่า แพทย์หญิงคนนี้มีพลังสมองสูง เมื่อหลับก็ยังคงตีถี่แบบไม่เป็นระเบียบ ประสบการณ์ภายใน ณ ขณะวัดคลื่น จึงไม่รู้สึกว่าหลับอย่างสุขสงบ หากฝันก็น่าจะไม่ใช่ฝันที่ดีระดับเบิกบานสำราญใจ แต่จะออกแนววิ่งวุ่น เดินทางยังไม่ถึงที่หมาย หรือยังแก้ปัญหาไม่จบเป็นหลัก (หมายเหตุ - ผู้ที่ใช้เสียงสติ ในขณะจะนอนหลับพักผ่อน รายงานตรงกันเป็นจำนวนมากว่า รู้สึกหลับสนิท หลับลึก และตื่นขึ้นมาสบาย ปลอดโปร่งโล่งหัว ซึ่งนั่นไม่ใช่จุดประสงค์แต่แรกของผม ผมต้องการให้คนฝึกสมาธิสามารถยืนด้วยขาตัวเอง ซึ่งที่จะได้เช่นนั้น ก็ต้องเริ่มจากการเคยชินที่จะรู้ความต่างของลมหายใจในแต่ละขณะ กระทั่งเกิดสติแข็งแรงพอจะไม่ต้องอาศัยเสียงเป็นเครื่องช่วยปัดเป่าความฟุ้งซ่านให้ในช่วงเริ่ม แต่จุดประสงค์ของคนเราต่างกัน ถ้าเสียงสติจะช่วยแก้โรคนอนไม่หลับให้กับคนยุคเราได้ ผมก็ยินดี) คนต่อมาที่ผมจะเอามาให้ดู เป็นเด็ก ๗ ขวบที่ชอบเล่นเกมคนหนึ่ง เวลาเล่นเกมจะเข้าโหมดนิ่งโฟกัสกับเกม ไม่สนใจสิ่งอื่น (https://obs.line-scdn.net/0h7xuY6v3WaFdIIEKMXF0XAHJ2azh7THtULBY5VBRONmM3Q30BfEV3ZmomMTNmQy8JJhUkOW0gc2ZtRyYEdUZ3/w644) จะเห็นว่า ขณะโฟกัสกับเกม เด็กคนนี้วอกแวกน้อย ในช่วงเวลา ๕ นาทีมีระดับสมองที่จัดว่า ‘สงบ’ถึงสามนาทีครึ่ง แต่ในความสงบก็มีความต่าง ของทั้งความถี่และความสูง ซึ่งอันนี้อธิบายได้ว่า ความสงบมีหลายชนิด เช่น ความสงบแบบแฝงความมุ่งมั่น อยากได้สิ่งที่ต้องการ และกำลังคืบหน้าไปหาสิ่งที่ต้องการด้วยความไม่วอกแวก แต่ความสงบแบบนี้ ไม่เหมาะกับการเจริญสติแบบพุทธ เพราะแฝงความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็นไว้ในตัว ไม่ใช่สงบแบบพร้อมรู้ตามจริง แต่เด็กคนเดียวกัน พอเอามาฟังเสียงสติ โดยให้สังเกตลมหายใจไปด้วย ผลจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด (https://obs.line-scdn.net/0hcCxW5L4yPGxFLha3URlDO394PwN2Qi9vIRhtbxlAYlg6TSk6cU9yXWcpZVU_HXsyKxtxCWUmJ11gSXI_eExy/w644) สิ่งที่เห็นได้ชัดจากกราฟนี้ คือ ระยะเวลาความสงบที่ยาวนานกว่า คลื่นสมองช้ากว่า (ความรู้สึกจะผ่อนคลายเป็นสุขกว่า) เกิดความเปลี่ยนแปลงน้อยกว่า (ความรับรู้จะคงเส้นคงวากว่า) ซึ่งอธิบายได้ว่า มีความสงบแบบพร้อมรู้ ซึ่งแบบนี้พอจะพร้อมใช้เจริญสติแบบพุทธกว่าตอนเล่นเกมเป็นคนละเรื่อง คนสุดท้ายที่ขอนำมายกเป็นตัวอย่างในวันนี้ เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อายุ ๕๒ ซึ่งต้องคุมลูกน้องจำนวนมหาศาล และโดยอัธยาศัยส่วนตัวก็อยู่ในวินัยอันดี มีใจโน้มน้อมมาทางการฝึกสมาธิ (https://obs.line-scdn.net/0hv6mB2zIpKRlQOwPCRLpWTmptKnZjVzoaNA14GgxVdy0vWDxPZAhhKHJodH55DG5HPg5kd3czMih1XGdKbQ9h/w644) อันเนื่องจากความมีวินัยในการใช้ชีวิตแบบตำรวจมืออาชีพ กับทั้งพยายามทำสมาธิมานานพอควร เมื่อทำสมาธิเองโดยปราศจากเสียงสติช่วย จึงออกมาเข้าโซนสงบได้ถึงเกือบ ๘๐% ในช่วง ๕ นาที แต่ความถี่และความสูงของคลื่นสมองไม่แน่นอน แสดงให้เห็นว่าโฟกัสกับลมหายใจได้ไม่คงเส้นคงวา ต่อเมื่อใช้ เสียงสติเข้าช่วย จึงเห็นความต่างได้อย่างชัดเจน (https://obs.line-scdn.net/0h6zidPf4EaVVUHUOOQ1AWAm5LajpncXpWMCs4VghzN2ErfnwDOHt2ZHdOMTF7eS4LOi8vNnYdcmRxeicGaHp2/w644) จากกราฟจะเห็นว่า สมองถูกเสียงจูนให้ลงมาสู่ความสงบแบบคงเส้นคงวาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสะท้อนให้รู้ว่า จิตอยู่กับการเห็นสายลมหายใจได้เสถียรขึ้น โดยจุดมุ่งหมายแล้ว ผมอยากให้ทุกคนมอง :เสียงสติ: เป็นเครื่องทุ่นแรง ช่วยปัดเป่าความฟุ้งซ่านทิ้ง และเมื่อรู้จักกับความสงบที่ล้ำลึก ก็สามารถจดจำ นำไปต่อยอดเองได้โดยไม่ต้องมี :เสียงสติ:ช่วยกรุยทางเคลียร์พื้นที่ให้นะครับ สำหรับท่านที่มีข้อสงสัยอื่นๆ แวะเวียนเข้าไปพูดคุยถามไถ่ หรือบอกเล่าประสบการณ์การใช้เสียงสติ ได้ที่ http://facebook.com/dugntrin (http://facebook.com/dugntrin) ขอบคุณ : https://today.line.me/th/pc/article/คลื่นความคิดก็ส่งเสียงได้+ดังตฤณ-2Eery8/?utm_source=oa&utm_medium=all&utm_campaign=1904210829&utm_term=3 (https://today.line.me/th/pc/article/คลื่นความคิดก็ส่งเสียงได้+ดังตฤณ-2Eery8/?utm_source=oa&utm_medium=all&utm_campaign=1904210829&utm_term=3) THINK TODAY ,Reporter : ดังตฤณ ,เผยแพร่ : 21 เมษายน 2562 เวลา 14.23 น. |