สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 04, 2019, 08:29:19 am



หัวข้อ: การให้ทานที่ได้ผลสมบูรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 04, 2019, 08:29:19 am
(https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2017/06/bloom-2081623_1280.jpg)


การให้ทานที่ได้ผลสมบูรณ์
โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

ครั้งที่แล้วได้กล่าวถึงการให้ทานอย่างไร จึงจะถือว่าเป็นการทำบุญอย่างสมบูรณ์ คราวนี้เราก็มาตรวจสอบตัวเองว่าที่ทำไปนั้นเป็น การให้ทานที่ได้ผลสมบูรณ์ หรือไม่ โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ให้พิจารณาเริ่มตั้งแต่ด้านจิตใจว่าเจตนาของเราดีไหม

@@@@@@

เจตนานั้นแยกออกไปอีกเป็น 3 คือ

1. บุพเจตนา เจตนาก่อนให้ คือตั้งแต่ตอนแรก เริ่มต้นก็ตั้งใจดี มีความเลื่อมใส จิตใจเบิกบาน และตั้งใจจริง แข็งแรง มีศรัทธามาก ต่อไป

2. มุญจนเจตนา ขณะถวายก็จริงใจจริงจัง ตั้งใจทำด้วยความเบิกบานผ่องใส มีปัญญา รู้เข้าใจ

3. อปราปรเจตนา ถวายไปแล้ว หลังจากนั้น ระลึกขึ้นเมื่อไรจิตใจก็เอิบอิ่มผ่องใส ว่าที่เราทำไปนี้ดีแล้ว ทานนั้นเกิดผลเป็นประโยชน์ เช่น ได้ถวายบำรุงพระศาสนา พระสงฆ์จะได้มีกำลังใจ แล้วท่านก็จะได้ปฏิบัติศาสนกิจช่วยให้พระศาสนาเจริญงอกงามมั่นคง เป็นปัจจัยให้สังคมของเราอยู่ร่มเย็นเป็นสุข นึกขึ้นมาเมื่อไรก็เอิบอิ่มปลื้มใจ ท่านใช้คำว่า “อนุสรณ์ด้วยโสมนัส”

“ถ้าโยมอนุสรณ์ด้วยโสมนัสทุกครั้งหลังจากที่ทำบุญไปแล้ว โยมก็ได้บุญทุกครั้งที่อนุสรณ์นั่นแหละ คือระลึกขึ้นมาคราวไหนก็ได้บุญเพิ่มคราวนั้น

@@@@@@

นี่คือเจตนา 3 กาล ซึ่งเป็นเรื่องสำหรับทายก

ส่วนปฏิคาหก คือ ผู้รับ ถ้าเป็นผู้มีศีล มีคุณธรรมต่างๆ มาก ก็ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลมาก เพราะจะได้เกิดประโยชน์มาก เช่น พระสงฆ์ เป็นผู้ทรงศีล ทรงไตรสิกขา ท่านก็สามารถทำให้ทานของเราเกิดผลงอกเงยออกไปกว้างขวาง เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ช่วยให้ธรรมแผ่ขยายไปในสังคม ให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข และดำรงพระศาสนาได้จริง

ส่วนไทยธรรม คือ วัตถุที่ถวาย ก็ให้เป็นของบริสุทธิ์ ได้มาโดยสุจริตสมควรหรือเหมาะสมแก่ผู้รับ และใช้ได้เป็นประโยชน์ นี้เป็นองค์ประกอบต่างๆ ที่จะใช้พิจารณาตรวจสอบ และต้องพยายามอย่างที่พูดไปแล้วว่า แม้ว่าเราจะไปทำทานอย่างเดียว ก็ต้องให้ได้ทั้งศีลทั้งภาวนามาด้วย อย่างนี้จึงจะเรียกว่าทำบุญกันจริงๆ ชนิดพูดได้เต็มปาก มิฉะนั้นโยมก็จะได้แค่ไปถวายทานเฉยๆ แล้วก็ไปเรียกอ้อมแอ้มว่าทำบุญ

เพราะฉะนั้น ถ้าโยมไปวัดแล้วบอกว่า ฉันไปทำบุญมา ก็จะต้องตรวจดูด้วยว่า เอ… ที่จริงเราได้แค่ทานหรือเปล่า หรือว่าเราได้ครบเป็นบุญเต็มจริงๆ ถ้าเป็นบุญก็คือได้ครบทั้ง 3 ประการ ทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา”


 

ขอบคุณข้อมูลจากหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
ติดตามอ่าน “ความสุขอยู่ที่นี่ มัวไปหากันที่ไหน” ฉบับเต็มที่ได้ที่นี่ www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/happiness_is_here-where_would_you_find_it.pdf (http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/happiness_is_here-where_would_you_find_it.pdf)
Image by Lydia Wang from Pixabay
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/59799.html (https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/59799.html)
By pitch ,2 May 2019