หัวข้อ: วิจิตรตระการตา "วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร" วัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 12, 2019, 06:14:04 am (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626202.JPEG) วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร วิจิตรตระการตา "วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร" วัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ ตลอดยุคสมัยต่างๆ ที่ผ่านมา กษัตริย์ในแผ่นดินไทยแต่ละพระองค์ต่างก็ทรงมีความเลื่อมใส และให้การสนับสนุนพระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างวัดต่างๆ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางและศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธขึ้นมากมาย ในแผ่นดินรัตนโกสินทร์ก็เช่นกัน กษัตริย์แต่ละพระองค์ก็ได้ทรงสร้างหรือบูรณปฏิสังขรณ์วัดต่างๆ ขึ้น ด้วยเหตุนี้ ในภายหลัง เราจึงยกย่องให้วัดซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงมีความผูกพันเหล่านี้เป็นวัดประจำรัชกาลของแต่ละพระองค์ เหตุผลของการยึดถือวัดใดวัดหนึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลนั้น จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ ได้ให้เหตุผลไว้ว่า “วัดซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลนั้น มักจะเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ท่านทรงสร้าง หรือปฏิสังขรณ์ และให้ความสนใจกับวัดนี้เป็นพิเศษ หรือมีความผูกพันกับวัดนี้มากๆ เมื่อพระองค์สวรรคต พระบรมอัฐิก็จะถูกนำไปบรรจุอยู่ที่ฐานของพระประธาน แต่การประกาศว่าวัดไหนเป็นวัดประจำรัชกาลนี้ ไม่ได้มีการประกาศออกเป็นทางการ เพียงแต่เกิดจากการที่คนพูดกันว่าวัดนี้เป็นวัดประจำรัชกาลนี้ๆ และดูจากความผูกพันที่พระองค์ท่านทรงมีให้กับวัดนั้นๆ มากกว่า” (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626201.JPEG) ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในส่วนของความเป็นมาของการกลายมาเป็นวัดประจำแต่ละรัชกาลนั้น ก็นับได้ว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้ตัววัดเลยทีเดียว สำหรับวัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร พระอารามหลวงในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ครั้งทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น) นับได้ว่าเป็นวัดที่มีความเป็นมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร ตั้งอยู่ในซอย 101/1 สุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เดิมวัดแห่งนี้ชื่อ วัดทุ่งสาธิต มีคหบดีชาวลาวเป็นผู้สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.2399 มีการเล่าต่อกันมาว่าเป็นวัดร้างมาก่อน โดยคหบดีชาวลาวท่านนี้อพยพมาสมัยเวียงจันทน์แตก หลังจากคหบดีท่านถึงแก่กรรม วัดนี้จึงถูกทิ้งร้าง ประกอบกับเจ้าอาวาสองค์สุดท้ายมรณภาพลงจึงไม่มีใครสืบสาน และก็สมัยก่อนนั้นวัดนี้อยู่ห่างไกลความเจริญ เป็นทุ่งนาส่วนใหญ่ (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626203.JPEG) พระอุโบสถ วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร กระทั่ง อดีตเจ้าอาวาสพระโสภณวชิรธรรม (สาธิต ฐานวโร) ได้มาบูรณะ จากวัดร้างจึงกลายเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2506 ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2508 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (พระบรมราชอิสริยยศรัชกาลที่ ๙ ในขณะนั้น) มีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ทรงรับวัดทุ่งสาธิต ไว้ในพระอุปถัมภ์ และได้พระราชทานนามวัดแห่งนี้ว่า “วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร” จากวัดร้างจึงเป็นวัดราษฎร์ ต่อมาในปี พ.ศ.2515 จากวัดราษฎร์ มาเป็น พระอารามหลวง และวัดพัฒนาตัวอย่างในปี พ.ศ.2519 ในที่สุด ทั้งยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพระโขนงอีกด้วย โดยมี พระราชวชิรโสภณ (ข่าย อาคโม) เป็นเจ้าอาวาสปัจจุบัน (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626204.JPEG) ภายในพระอุโบสถ หลวงพ่อวัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร เล่าให้ฟังว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ที่วัดนี้อยู่หลายครั้ง และเมื่อปี 2543 เสด็จฯ บำเพ็ญกุศลถวายผ้า พระกฐินพระราชทาน ณ พระอุโบสถ ในขณะนั้นก็มีชาวบ้านที่อยู่ละแวกนี้มารอรับเสด็จมากมาย ต่อมาหลังจากที่ประชาชนทราบข่าวว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ ก็มีพุทธศาสนิกชนต่างเดินทางมาชมและมาทำบุญเพิ่มขึ้น ขณะนี้ทางวัดได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ ซ่อมแซมในส่วนของเจดีย์ และภายในวิหารบางส่วน ซึ่งได้มีการบูรณะเรื่อยมาหลังจากที่เห็นว่ามีบางส่วนเริ่มมีความทรุดโทรม (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626205.JPEG) ภายในพระวิหาร ด้านแม่ค้าขายเครื่องสังฆภัณฑ์ เล่าให้ฟังว่า ตนอาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 40 ปีแล้ว และเคยรอรับเสด็จฯ อยู่สองครั้ง ส่วนตัวรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาเฝ้ารอรับเสด็จฯ ถือเป็นสิริมงคลของชีวิต และหลังจากที่ประชาชนทราบข่าวว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ ก็มีญาติโยมเดินทางมาเพิ่มมากขึ้น บ้างก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่ บ้างก็มาจากต่างจังหวัด หากใครมาแล้วก็อยากให้เข้าไปกราบสักการะหลวงปู่บัวขาวด้วย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านชุมชนแห่งนี้ (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626206.JPEG) พระพุทธมหามุนีศรีหริภุญชัย โดยความหมายของชื่อ วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร ทางวัดได้อธิบายไว้ดังนี้ วชิร = วชิราลงกรณ์ ธรรม = คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สาธิต = นามเดิมพระโสภณวชิรธรรม วรวิหาร = พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ภายในวัดแห่งนี้มีพระอุโบสถที่สวยงามและพระเจดีย์จุฬามณีศรีล้านนา ซึ่งได้จำลองมาจากพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 25 องค์ พระอรหันต์สาวกธาตุ 289 องค์ และพุทธรูปทองคำอีก 2 องค์ (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626207.JPEG) รูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสวัด ส่วนพระอุโบสถปูด้วยไม้สักปาเก้ประตู-หน้าต่างทำด้วยไม้สักซึ่งแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามโดยฝีมือช่างชาวเหนือ ภายในพระอุโบสถ มีพระปรางค์ 3 องค์ องค์กลางบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์ขวาและองค์ซ้าย บรรจุพระธาตุทอง พระอัครสาวกทั้งสอง คือพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ นอกจากนี้ภายในอุโบสถหลังเก่ายังมีภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเยาว์วัยด้วย และมีพระเจดีย์จุฬามณีศรีลานนา มีความกว้าง 25 ศอก 9 นิ้ว ความสูง 49 ศอก ภายในพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 25 องค์ พระธาตุอรหันตสาวก 289 องค์ พระพุทธรูปทองคำ 2 องค์ (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626208.JPEG) วิหารหลวงพ่อปู่ดอกบัวขาว ถัดไปมีพระวิหารพุทธมหามุนีศรีหริภุญชัยที่จำลองมาจากวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ ปูด้วยไม้สักปาเก้ ภายในประดับด้วยลวดลายดอกปูน ศิลปะล้านนา เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธมหามุนีศรีหริภุญชัย และยังมีสังเวชเจดีย์ ที่มีการจำลองมาจากพระ เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย บรรจุดินสังเวชนียสถาน 4 ตำบล พร้อมด้วยรัตนปราการ และพระบรมสารีริกธาตุ มีพระเจดีย์ 5 องค์ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และด้านหลังมีอาคารพระปริยัติธรรม พร้อมทั้งให้อัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ “ม.ว.ก.” ขึ้นประดิษฐานที่หน้าบันของอาคารด้วย (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626209.JPEG) หลวงพ่อปู่ดอกบัวขาว (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626210.JPEG) พระนามาภิไธยย่อ “ม.ว.ก.” ด้านหน้าของอาคาร หากใครมีโอกาสเดินทางมาแถวเขตพระโขนง ก็อย่างลืมแวะมาทำบุญ ไหว้พระประธานภายในพระอุโบสถ พร้อมชมความงดงามของวัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร โดยภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่มากมายให้ได้ชมกัน (https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000004626211.JPEG) พระเจดีย์จุฬามณีศรีล้านนา จำลองมาจากพระธาตุหริภุญชัย โดยวัดประจำรัชกาล 10 รัชกาล ได้แก่ วัดประจำรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกนั้น คือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ วัดประจำรัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย คือวัดอรุณราชวราราม วรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง วัดประจำรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร หรือเดิมชื่อวัดจอมทอง วัดประจำรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร วัดประจำรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรมหาวิหาร วัดประจำรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดประจำรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มิได้มีการสร้างวัด แต่พระองค์ท่านได้ปฏิสังขรณ์วัดของพระราชบิดา หรือรัชกาลที่ ๕ แทน จึงถือว่าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นวัดประจำทั้งรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๗ เช่นกัน วัดประจำรัชกาลที่ ๘ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล คือ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดประจำรัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คือ วัดพระราม 9 กาญนาภิเษก วัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร ขอบคุณที่มา : https://mgronline.com/travel/detail/9620000044990 เผยแพร่ : 10 พ.ค. 2562 18:00 ,ปรับปรุง : 10 พ.ค. 2562 22:32 , โดย : ผู้จัดการออนไลน์ Facebook :Travel @ Manager |